เวียงแหงล่ารายชื่อจี้รัฐเปิดจุดผ่อนปรนหลักแต่ง เชื่อพม่าเร่งพัฒนาพื้นที่ช่วยกระตุ้นศก.ชายแดน

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ชาวบ้านเวียงแหงรวมตัวลงชื่อยื่นหนังสือขอเปิด “จุดผ่อนปรนหลักแต่ง” ชี้ เคยเป็นด่านสร้างรายได้แต่หลังปิดไปกว่า 10 ปี ทำชาวบ้านเดือดร้อนหนัก ชี้พม่าเตรียมทำศูนย์ราชการเป็นโอกาสดีทางเศรษฐกิจ เชื่อเปิดอีกครั้งค้าขายรุ่งแน่ ด้านจังหวัด-ทหารรับเรื่องแล้ว เตรียมเสนอพิจารณาตามขั้นตอน แต่แอบหวั่นเปิดแล้วพม่าไม่เข้า

วันนี้ (7 มี.ค.) ตัวแทนชาวบ้านและกลุ่มพ่อค้าจากอำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ นำโดยนายณัฐนิติ วุฒิธรรมปัญญา ประธานชมรมพ่อค้าอำเภอเวียงแหง เดินทางมายังศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อยื่นหนังสือขอเปิดจุดผ่อนปรนช่องทางหลักแต่ง พร้อมรายชื่อชาวบ้านที่มีความประสงค์ขออนุมัติเปิดด่าน ให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายชูชาติ กีฬาแปง รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นผู้รับมอบ พร้อมทั้งนำตัวแทนชาวบ้านเขาร่วมหารือกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยนอกจากจะยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่แล้ว ทางกลุ่มยังได้ทำหนังสือยื่นต่อแม่ทัพภาคที่ 3 และ ส.ส.ในพื้นที่อีกด้วย

การยื่นหนังสือขอเปิดจุดผ่อนปรนช่องทางหลักแต่งในครั้งนี้ สืบเนื่องจากประชาชนในพื้นที่ต้องการให้มีการเปิดจุดผ่อนปรนอีกครั้ง หลังจากที่ช่องทางหลักแต่งเคยเป็นเส้นทางเข้าออกระหว่างราษฎรทั้งสองประเทศ และมีการทำการค้าและแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างกันในอดีต แต่ด่ำได้ปิดตัวลงมากกว่า 10 ปี เนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนและปัญหากับประเทศเพื่อนบ้านในอดีต

โดยล่าสุดชาวบ้านและกลุ่มพ่อค้าในพื้นที่ระบุว่า ได้รับการประสานจากพ่อค้าจากทางฝั่งพม่าว่า ต้องการให้ช่วยประสานงานให้ทางการไทยเปิดจุดผ่อนปรนขึ้นอีกครั้งเพื่อทำการค้าขาย เนื่องจากพม่าได้เตรียมที่จะพัฒนาพื้นที่ในบริเวณดังกล่าว โดยจะมีการสร้างทั้งที่ทำการของส่วนราชการ รวมทั้งมีทหารเข้ามาประจำการเพิ่มในพื้นที่อีก 3 กองพัน

ด้านบรรยากาศการหารือกันระหว่างกลุ่มตัวแทนชาวบ้านและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องนั้น ได้มีการแสดงความคิดเห็นต่อกรณีดังกล่าวอยากหลากหลาย โดยกลุ่มชาวบ้านได้แสดงความประสงค์ที่จะให้ภาครัฐช่วยพิจารณาการเปิดจุดผ่อนปรนอีกครั้ง เนื่องจากที่ผ่านมา หลังจากด่านผ่อนปรนดังกล่าวปิดตัวลง ทำให้การค้าในพื้นที่ที่เคยค้าขายกันถึงวันละ 10 ล้านบาทต่อวันต้องหยุดลง และทำให้พ่อค้าแม่ค้าและประชาชนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน ต้องขาดรายได้ และหลายรายประสบปัญหาหนี้สินจนต้องปิดกิจการ

กลุ่มตัวแทนชาวบ้านและพ่อค้าในพื้นที่ได้ชี้แจงด้วยว่า จากการประสานงานของพ่อค้าทางฝั่งพม่า ทำให้ทราบว่าพม่ามีโครงการจะก่อสร้างสำนักงานศูนย์ราชการในพื้นที่เมืองทา ซึ่งอยู่ห่างจากจุดผ่อนปรนเข้าไปประมาณ 15 กิโลเมตร การก่อสร้างดังกล่าวทำให้พม่ามีความต้องการวัสดุก่อสร่งและสินค้าอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก ขณะที่การขนส่งสินค้าเข้าสู่พื้นที่ในปัจจุบันทำได้โดยนำสินค้าผ่านจากด่านชายแดนที่อำเภอแม่สาย ก่อนจะส่งต่อเข้าสู่พื้นที่ ส่งผลให้เสียค่าขนส่งสินค้าเป็นจำนวนมาก ซึ่งถ้าหากมีการเปิดจุดผ่อนปรนก็จะเป็นโอกาสทางเศรษฐกิจในการจัดหาสินค้าส่งออกไปยังพม่าในระยะทางที่สั้นกว่า

ขณะที่หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องมีความเห็นต่อกรณีดังกล่าวว่า ต้องพิจารณาความพร้อมของทางพม่าด้วย เนื่องจากที่ผ่านมามีความพยายามที่จะประสานงานเพื่อทำกิจกรรมในพื้นที่ร่วมกัน แต่กลับไม่ได้รับการตอบสนองจากทางฝั่งพม่าเท่าที่ควร หากมีการเปิดจุผ่อนปรนขึ้นอีกครั้งจริงแต่คนจากฝั่งพม่าไม่เข้ามาทำการค้าก็จะไม่เกิดประโยชน์แต่อย่างใด อีกทั้งยังจะต้องมีการปรับปรุงพื้นที่บริเวณชายแดน และถนนหนทางให้พร้อมสำหรับการค้าขายและติดต่อระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศอีกมากพอสมควร นอกจากนี้ ยังมีการแสดงความเป็นห่วงถึงปัญหาการวางกับระเบิดในพื้นที่ชายแดน ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาจากปัญหาความไม่สงบในประเทศพม่า

อย่างไรก็ตาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ในฐานะตัวแทนของจังหวัดระบุว่า ทางราชการได้รับทราบข้อเสนอของประชาชนแล้ว และจะมีการนำเสนอเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาได้รับทราบและพิจารณาต่อไป โดยในเบื้องต้นจะได้ให้ส่วนราชการในพื้นที่ประสานกับทางพม่าถึงความเป็นไปได้และการสร้างความร่วมมือระหว่างกัน ขณะที่พันเอกอัครวัฒน์ วุฒิเดชโชติโภคิน หัวหน้ากลุ่มงานข่าว กอ.ร.ม.น. ในฐานะตัวแทนของแม่ทัพภาคที่ 3 ได้ระบุว่าจะนำเรื่องเสนอต่อส่วนกลางเพื่อพิจารณาในส่วนของความมั่นคงต่อไป ขณะที่กลุ่มตัวแทนพ่อค้าอำเภอเวียงแหงได้รับที่จะเป็นผู้ประสานงานกับทางพม่าด้วยอีกทางหนึ่ง

นายณัฐนิติ วุฒิธรรมปัญญา ประธานชมรมพ่อค้าอำเภอเวียงแหง กล่าวว่า ชาวบ้านในพื้นที่ต้องการให้ภาครัฐพิจารณาให้มีการเปิดจุดผ่อนปรนอีกครั้ง เนื่องจากเห็นว่าจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจในพื้นที่ ซึ่งในอดีตเคยมีการค้าขายกันมายาวนาน แต่ต้องปิดตัวลงไปกว่า 10 ปี ทำให้ชาวบ้านที่เคยค้าขายในพื้นที่สูญเสียรายได้ไป

นอกจากนี้ ทางพม่าเองยังมีท่าทีสนับสนุนให้มีการเปิดจุดผ่อนปรน ทั้งจากการติดต่อสอบถามกับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าชาวไทย รวมไปถึงการเริ่มเก็บกู้และทำลายกับระเบิดที่ฝังไว้ในพื้นที่ชายแดน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้พื้นที่ดังกล่าวสามารถทำการค้าขายได้อีกครั้งในอนาคต