xs
xsm
sm
md
lg

เหยื่อสมาคมผีเดินสายร้องผู้ว่าฯ ยัน พม.เชียงรายถูกโกงนับ 10 ล้าน-แถมราคาสินค้าเกษตรยุค ปชป.รูดซ้ำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย - ชาวบ้านเดินสายร้องผู้ว่าฯ-นอภ.-ตำรวจ-พม.เชียงราย ถูกสมาคมผีโกงเงินนับ 10 ล้าน เผยแจ้งความแล้วเรื่องกลับเงียบ บางรายผีซ้ำด้ำพลอย ปลูกถั่วเหลืองยุครัฐบาล ปชป.กลับปล่อยให้นำเข้าทุบราคาผลผลิตในประเทศเฉย แถมยังถูกโกงเงินเผาผีอีก

วันนี้ (3 มี.ค.) ชาวบ้านที่เป็นสมาชิกสมาคมฌาปกิจสงเคราะห์เมืองเชียงราย และสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ร่วมใจ ต.ท่าสุด อ.เมือง จ.เชียงราย ประมาณ 200 คน ได้พากันไปชุมนุมที่ศาลากลาง จ.เชียงราย เพื่อยื่นหนังสือขอร้องให้ช่วยเหลือ พร้อมนำเอกสารหลักฐานการเป็นสมาชิกสมาคมจำนวนหลายกล่องไปประกอบคำร้องด้วย

กลุ่มชาวบ้านซึ่งมีนายเอกรินทร์ รักพงศ์ ชาว อ.เวียงเชียงรุ้ง เป็นแกนนำระบุว่า สมาคมดังกล่าวตั้งมาได้ประมาณ 2 ปี เพื่อช่วยเหลือสมาชิกที่เสียชีวิตมีกรรมการจำนวน 7 คน แต่ส่วนใหญ่จะดำเนินการโดย น.ส.ปนัดดา คำวัง ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น น.ส.กัลยวีย์ แสนคำชื่น อายุ 37 ปี ซึ่งที่ผ่านมาสมาคมแจ้งให้ประชาชนทั่วไปทราบว่าผู้ที่เข้าเป็นสมาชิกจะต้องช่วยเหลือกรณีมีสมาชิกเสียชีวิตรายละ 25 บาท หากครอบครัวใดมีผู้เข้าเป็นสมาชิกมากก็ต้องจ่ายเงินมากไปตามจำนวนคน และกรณีมีการเสียชีวิตก็จะได้รับเงินทันที 40,000 บาท

หลังจากสมาคมฯ มีประกาศออกมา ทำให้ชาวบ้านเข้าสมัครเป็นสมาชิกมากกว่า 2,400 คน เพราะมีการจดทะเบียนน่าเชื่อถือและไม่คิดว่าจะได้รับความเดือดร้อน ต่อมาตั้งแต่เดือน พ.ย.2553 พบว่าเมื่อสมาชิกเสียชีวิตปรากฏว่าญาติของผู้เสียชีวิตก็ไม่ได้รับเงินตรงตามข้อกำหนดเลย บางคนได้รับเงินเพียง 10,000 บาท เมื่อชาวบ้านร้องเรียนไปยังสมาคมก็ได้รับการต่อรองให้ขอจ่ายเพียง 15,000 บาท ท้ายที่สุดก็ไม่เคยจ่ายเงินให้สมาชิกอีกเลย ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก เนื่องจากที่ผ่านมาเคยจ่ายเงินเพื่อบำรุงสมาคม และหวังให้นำไปจ่ายให้กับสมาชิกสมาคมที่เดือดร้อนไปแล้ว

นายเอกรินทร์กล่าวว่า เมื่อเกิดปัญหาชาวบ้านจึงไปตรวจสอบรายชื่อกรรมการสมาคม ปรากฏว่าทั้งสองสมาคมเป็นคนกลุ่มเดียวกัน และมีการแจ้งให้สมาชิกจ่ายเงินกรณีอ้างว่ามีการเสียชีวิต 5 ช่องทางคือจ่ายด้วยตัวเองที่สำนักงานสมาคม ต.ท่าสุด โอนเข้าบัญชีธนาคารในนามสมาคม และที่น่าสงสัยคือให้มีการโอนเงินเข้าบัญชี น.ส.ปนัดดา คำวัง เอาไว้ 3 บัญชีธนาคาร ซึ่งต่อมาชาวบ้านก็พบพิรุธว่าทางสมาคมได้แจ้งให้ชาวบ้านทราบว่ามีตัวเลขสมาชิกที่เสียชีวิตไม่ตรงกับข้อเท็จจริง แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะจ่ายเงินไปหมดแล้ว

ยกตัวอย่างเช่น มีสมาชิกเสียชีวิต 100 ราย ก็แจ้งให้สมาชิกจ่ายเงินและโอนไปตามช่องทางดังกล่าวโดยระบุว่ามีผู้เสียชีวิตจำนวน 200 ราย เป็นต้น

“ชาวบ้านก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะกว่าเราจะรู้ความจริงก็จ่ายเงินไปหมดแล้ว บางคนไม่ถึงหมื่น บางคนหลายหมื่นบาทและบางคนถึงแสนบาท เพราะแต่ละคนพาญาติและคนรู้จักเข้าร่วมเป็นสมาชิกด้วย บางคนเข้าร่วมเพียงแห่งเดียว แต่เกือบทั้งหมดเป็นสมาชิกหลายสมาคม ทำให้เมื่อวันที่ 2 ม.ค.ชาวบ้านได้ไปแจ้งความดำเนินคดีต่อกรรมการสมาคมที่ สภ.เมืองเชียงราย แต่เรื่องก็เงียบ จึงต้องมาร้องที่จังหวัดฯ”

นายเอกรินทร์กล่าวอีกว่า รวมความเสียหายของชาวบ้านที่ได้จ่ายเงินกันทั้งหมดพบว่ามีประมาณ 10 ล้านบาท เมื่อชาวบ้านไปเรียกร้องขอเงินคืนหรือขอให้จ่ายให้ญาติผู้เสียชีวิต ทางสมาคมก็ต่อรองว่าจะจ่ายให้รายละเพียง 15,000 บาท ซึ่งพวกตนเห็นว่าไม่เหมาะสม เพราะข้อเท็จจริงคือต้องจ่ายให้เต็มจำนวน ทำให้บางคนถูกข่มขู่ แม้แต่ตนยังถูกขู่ว่าจะแจ้งความดำเนินคดี

นางสุพรรณ เครือวงศ์ อายุ 50 ปี ชาว ต.ท่าสุด อ.เมือง กล่าวว่า พวกเราเดือดร้อนมาก ตนเสียเงินให้กับสมาคมไปประมาณ 10,000 บาท ที่เหลือก็แตกต่างกันไปโดยบางคนเสียไปถึง 80,000 บาท จึงอยากให้คืนเงิน หรือให้สมาคมนำเงินไปช่วยญาติคนที่เสียชีวิตเสียเพราะเขาเดือดร้อน ขณะที่ชาวบ้านในภาพรวมก็เดือดร้อนมากเพราะปัจจุบันส่วนใหญ่ปลูกถั่วเหลือง แต่ราคาพืชผักในรัฐบาลชุดนี้ตกต่ำเหลือเพียงกิโลกรัมละ 13-14 บาท ตนลงทุนไปหมื่นกว่าบาทเมื่อนำมาขายก็ได้แค่หมื่นกว่าบาทเหมือนกัน แทบไม่ได้อะไรเลย

“ยังสงสัยเหมือนกันว่ารัฐบาลบริหารประเทศอย่างไร ปล่อยให้นำเข้าถั่วเหลืองแล้วทำให้พืชผลของชาวบ้านตกต่ำ เมื่อหมดตัวจากการเกษตรยังต้องมาเสียเงินให้กับสมาคม และเมื่อญาติเสียชีวิตก็ไม่ได้รับเงินคืนด้วย”

ขณะที่ นายสมชัย หทยะตันติ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้มอบหมายให้นายพินิจ หาญพาณิชย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด เข้ารับเรื่องแทน ซึ่งทางนายพินิจก็ระบุให้ชาวบ้านอาศัยการแจ้งความดำเนินคดีเพื่อเอาผิดกับผู้หลอกลวงทั้งทางอาญาและแพ่ง ทำให้ชาวบ้านหันไปยื่นหนังสือต่อ พ.ต.อ.มงคล สัมภวะผล ผกก.สภ.เมืองเชียงราย และ พ.ต.ท.วรพงศ์ มัจพันธุ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองเชียงราย แทน ซึ่งทาง พ.ต.อ.มงคล ได้รับเรื่องไว้พร้อมระบุว่าจะประสานทางฝ่ายปกครอง อ.เมือง เพื่อตั้งคณะกรรมการตรวจสอบควบคู่ไปกับการดำเนินคดีทางอาญาด้วย ทำให้ชาวบ้านไปยื่นหนังสือในลักษณะเดียวกัน ณ ที่ว่าการอำเภอ และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ก่อนสลายตัวไปรอฟังข่าวต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น