ทีมโฆษก ปชป.เปิดยุทธศาสตร์ “ปฏิบัติการตีท้ายครัว” ส่ง ส.ส.ดอดพบ ปชช.1 คน ต่อ 2,500 ครัวเรือน เป่าหูถึงก้นครัว กรณีค่าครองชีพพุ่งหวังซื้อใจมวลชน อ้างหาข้อมูลเชิงลึกแก้ปัญหาราคาสินค้าแพง จี้ “เพื่อไทย” เปิดประเด็นยื่นถอดถอน อ้าง กลัวอภิปรายคนละเรื่อง
วันนี้ (1 มี.ค.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คณะทำงานด้านยุทธศาสตร์ ได้เสนอต่อที่ประชุมให้จัดทำปฏิบัติการพิเศษ คือ “ปฏิบัติการตีท้ายครัว” ด้วยการสั่งให้ ส.ส.ทุกคนลงไปเยี่ยมประชาชนถึงก้นครัว เพื่อไปพูดคุยถึงผลกระทบจากราคาสินค้าทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ราคาน้ำมัน แก๊สหุงต้ม กะปิ น้ำปลา น้ำตาล และเอาข้อมูลเหล่านี้มาเสนอต่อที่ประชุมพรรคในสัปดาห์หน้า เพื่อเป็นข้อมูลในการแก้ปัญหาต่อไป โดยให้ ส.ส.1 คน ทำการลงหาข้อมูลในพื้นที่ของตนเอง 2,500 ครัวเรือน
“ท่านนายกฯได้กำชับให้ ส.ส.ทุกคน ลงไปคลุกคลี บุกไปถึงก้นครัวของชาวบ้าน ถึงขั้นช่วยไปทำกับข้าวหรือขอกินข้าวด้วยยิ่งดี เพื่อจะได้รู้ว่าชาวบ้านเดือดร้อนเรื่องอะไรบ้าง ปฏิบัติการนี้เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์แย่งมวลชน ขณะที่เสื้อแดงกำลังวุ่นวายกับการก่อม็อบ เราก็ใช้ช่วงนี้เข้าหาชาวบ้านเพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกมากที่สุด”
ขณะเดียวกัน ก็ให้ ส.ส.พยายามทำความเข้าใจกับประชาชนถึงแนวทางการแก้ปัญหาของรัฐบาล ที่ต้องการให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้า และจะมีการทยอยประกาศนโยบายต่างๆ ออกมาอีกเป็นระลอก ซึ่งตรงข้ามกับ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ในฐานะผู้นำอภิปรายไม่ไว้วางใจ และเสื้อแดงที่พยายามทำประเทศติดหล่มอยู่กับที่
นอกจากนี้ นพ.วรงค์ ยังเรียกร้องให้ฝ่ายค้านทำตามเงื่อนไขโดย เปิดเผยประเด็นต่างๆ ที่ยื่นถอดถอนกับ ป.ป.ช.โดยเริ่มแรกรัฐบาลตั้งใจจะให้บรรจุวาระซักฟอกในวันที่ 7 มี.ค.แต่เนื่องจากวันที่ 8 มี.ค.พรรคประชาธิปัตย์จัดงานระดมทุน จึงได้เลื่อนมาอภิปรายในวันที่ 9-12 มี.ค. และลงมติในวันที่ 13 มี.ค.ที่รัฐบาลต้องการเร่งให้ฝ่ายค้านอภิปรายเร็วขึ้น เพราะรัฐมนตรีทุกคนยืนยันว่าพร้อมที่จะชี้แจงทุกข้อกล่าวหา
ด้าน นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายกฯได้กำชับให้ ส.ส.พรรคลดการตอบโต้ทางการเมือง แต่ให้มุ่งเน้นการชี้แจงต่อประชาชนในเรื่องของนโยบายพรรคเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม นายกฯ ย้ำว่า การตรึงราคาดีเซลเป็นเป้าหมายหลัก ที่รัฐบาลจะต้องอุ้มต่อไป เพื่อไม่ให้ราคาสิ้นค้าแพง รวมถึงการตรึงราคาก๊าซหุงต้มรัฐบาลก็ยังอุ้มต่อไป ส่วนมาตรการ 2 สินค้า คือ น้ำตาลทราย กับ น้ำมันถั่วเหลือง ทางนายกฯ และนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รมว.อุตสาหกรรม ยืนยันว่าสามารถแก้ไขปัญหาไม่ให้มีการขาดตลาดได้
