xs
xsm
sm
md
lg

ชาว “โนนทรายทอง” ศรีสะเกษฮือต้าน “ที่ดิน” ลักไก่ออกโฉนดให้ “นายทุน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชาวบ้านชุมชนโนนทรายทอง ต.โพธิ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ  ออกมารวมกันชุมนุมพร้อมเผาโลงศพประท้วงคัดค้านเจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัดศรีสะเกษ ลักไก่ออกโฉนดให้นายทุน วันนี้ ( 31 ม.ค.)
ศรีสะเกษ - ชาวบ้านชุมชนโนนทรายทอง ลุกฮือคันค้านไม่ให้เจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัดศรีสะเกษ ลักไก่ออกโฉนดให้นายทุน เผย จะทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก ถูกขับไล่ออกจากที่ดินที่อยู่อาศัยมากว่า 40 ปี ประกาศลั่นพร้อมสู้ตาย ด้านที่ดินจังหวัดฯ แจงรังวัดที่ตามคำขอเจ้าของที่ดิน

วันนี้ (31 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหนองสาธารณประโยชน์ บ่อแก้มลิงหล่ม ชุมชนโนนทรายทอง ต.โพธิ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านประมาณ 100 คน ได้ออกมารวมกันชุมนุมพร้อมเผาโลงศพประท้วงคัดค้านไม่ให้เจ้าหน้าที่รังวัดที่ดิน เข้าไปทำการรังวัดที่ดินของนางหนู ศิสะเกษ ตามที่ผู้จัดการมรดกได้ยื่นขอต่อที่ดินจังหวัดศรีสะเกษ ก่อนวันที่ 8 ก.พ. 2553 ตามนโยบายจัดสรรที่ดินและออกเอกสารสิทธิที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยให้ราษฎรของรัฐบาล เนื่องจากชาวชุมชนโนนทรายทองยืนยันว่าได้อาศัยอยู่ในที่ดินตรงนี้มานานกว่า 40 ปี โดยที่เจ้าของที่ไม่ได้เข้ามาใช้ประโยชน์ในที่ดินแปลงนี้แต่อย่างใด

นายมานะชัย บำรุงกิจ ประธานชุมชนโนนทรายทอง ม. 9 ต.โพธิ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า วันนี้ชาวชุมชนโนนทรายทอง ซึ่งมีทั้งสิ้น 135 ครัวเรือนประชากรประมาณ 300 คน ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากกลุ่มนายทุน ซึ่งนำโดย นายอรรถศาสตร์ (ไม่ขอระบุนามสกุล) เป็นผู้รับมอบอำนาจในการยื่นขอเอกสารสิทธิที่ดินทำกินเลขที่ 346 เล่ม 1 หน้า 70 เนื่องจากการนำเอกสารของ นางหนู ศิสะเกษ ที่เป็น ส.ค.1 เพื่อไปยื่นออกเอกสารสิทธิ์ ซึ่ง ส.ค.1 ของนางหนู ไม่ได้ทำประโยชน์มาเป็นเวลานานแล้ว ที่สำคัญ ไม่ชัดเจนว่าพื้นที่ของนางหนูอยู่ในพิกัดใด แต่นายอรรถศาสตร์ก็ได้ร้องขอต่อเจ้าพนักงานที่ดินในการสำรวจเพื่อขอเอกสารสิทธิดังกล่าว

นายมานะชัย กล่าวต่อว่า นายอรรถศาสตร์ ไม่รู้แน่ชัดว่าพื้นที่ที่ยื่นคำร้องขอเอกสารสิทธิอยู่ในตำแหน่งใด และที่สำคัญ ส.ค.1 ของ นางหนู มีข้อความในเอกสารไม่ชัดเจนตลอดจนลายมือกำกับของเจ้าพนักงานที่ดินและฝ่ายปกครอง ก็ไม่สามารถระบุเป็นชื่อผู้ใดได้ เหตุใดจึงสามารถนำเอาเอกสารดังกล่าวมาออกเอกสารสิทธิได้ ที่สำคัญ เอกสารสิทธิที่ยื่นขอไปยังทับซ้อนกับพื้นที่คลองสาธารณะประโยชน์และบ่อแก้มลิงหล่ม ต.โพธิ์ อ.เมือง จึงส่งผลกระทบให้ชาวชุมชนโนนทรายทอง ชุมชนหนองหล่ม และ ชุมชนท่าเรือจำนวน 50 ครัวเรือนจะต้องถูกขับไล่ออกจากพื้นที่ที่พวกเขาอาศัยอยู่มาร่วม 40 ปี

ดังนั้น ชาวชุมชนโนนทรายทอง ข้อเรียกร้องดังนี้ 1.ให้ระงับการขอคำร้องในการออกเอกสารสิทธิ์ นายกิติรัตน์ สีหบัณฑ์ นายฉวี สีหบัณฑ์ และ นายมังกร พละสรร ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกไว้ก่อน 2.ให้ระงับการออกรังวัดหรือการสำรวจพื้นที่การขอเอกสารสิทธิ์ไว้ก่อนจนกว่าจะพบหลักฐานที่ชัดเจนในตำแหน่งพื้นที่ขอเอกสารสิทธิ 3.ให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบพื้นที่ขอเอกสารสิทธิ์และไกล่เกลี่ยประนีประนอมในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อความเป็นปกติสุขของชาวบ้านในบริเวณนั้น และสุดท้าย 4.ให้ตรวจสอบกระบวนการขอเอกสารสิทธิ์ว่าถูกต้องตามขั้นตอนหรือมีการทุจริตหรือไม่

นายเกรียง บุญเฉลียว แกนนำกลุ่มผู้เดือดร้อน ชุมชนโนนทรายทอง กล่าวว่า ตนอยู่ชุมชนนี้มา 30-40 ปีแล้ว อยู่ๆ ก็มีนายทุนมาขอออกโฉนด ทั้งที่แต่ก่อนไม่มีใครว่าอะไร อยากรู้ว่าระบบการออกโฉนดมันเป็นอย่างไร จะออกโดยไม่มีการรังวัดอะไรเลย อยู่ ๆก็จะมาออกโฉนดเลยมันไม่ถูกต้อง เห็นว่าตัวเองอยู่ในวงในสำนักงานที่ดิน มีช่องทางอะไรก็จะทำเอาอย่างนี้ไม่ถูกต้อง พวกเราจะไม่ยอมแค่นี้จะเดินทางไปร้องเรียนขอความเป็นธรรม กับผู้ว่าราชการจังหวัดและ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ด้วย และขอประกาศว่าพวกเราชาวบ้านจะเป็นศัตรูกับพวกโกงกินไปจนถึงวันตาย

ทางด้าน นายบำเหน็จ วิริยะสุนทร เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องชี้แจงว่า ที่ดินแปลงนี้มีประวัติมายาวนานแล้ว แต่โดยสรุปวันนี้ที่ทางเจ้าหน้าที่จะออกไปรังวัดที่ดินบริเวณนั้น เป็นการดำเนินการตามคำร้องขอของเจ้าของที่ดิน ซึ่งเป็นการยื่นก่อนวันที่ 8 ก.พ. 53 ตามที่รัฐบาลได้แจ้งให้เจ้าของที่ดินทั่วประเทศไปแจ้งต่อสำนักงานที่ดินเพื่อขอเอกสารสิทธิ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ประมาณ 2 เดือน ทางเจ้าหน้าที่รังวัดก็ได้ออกไปเพื่อจะทำการรังวัดไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่ก็เกิดเหตุการณ์ถูกต่อต้านในลักษณะเดียวกับวันนี้ แต่ไม่รุนแรงเหมือนครั้งนี้

การที่เจ้าหน้าที่ออกไปอีกวันนี้เนื่องจากเจ้าของที่ดินมาร้องขอใหม่ โดยเขายืนยันว่าจะประสานขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปคุ้มกันให้ แต่เห็นว่าท่านผู้การบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกาไม่อยู่ ประสานไม่ได้จึงไม่สามารถไปรังวัดได้

“อยากชี้แจงให้ทราบว่า ณ ขณะนี้ยังไม่มีการออกสารสิทธิใดๆ อย่างที่ชาวบ้านเข้าใจ การออกไปรังวัดไม่ได้หมายถึงจะออกเอกสารสิทธิ์ได้เลย จะต้องผ่านขั้นตอนการพิจารณาอีก แต่ถ้าชาวบ้านไม่ยอมให้ไปรังวัดก็ไม่รู้ว่าพื้นที่ตรงนั้นมีปัญหาอะไร ปัญหาก็จะคาราคาซังไปอย่างนี้ไม่จบ” นายบำเหน็จ กล่าว

กำลังโหลดความคิดเห็น