พิจิตร -สุดเถื่อน!!! เหมืองทองพิจิตร ปลุกระดมชาวบ้าน ขู่อาฆาตแกนนำชาวบ้าน หลังถูกร้องเรียนทำชาวบ้านเดือดร้อนหนัก จนถูก ก.อุตสาหกรรม สั่งปิดเหมือง พร้อมปรับปรุงชั่วคราว แกนนำชาวบ้าน เผย สุดระห่ำ ยั่วยุปลุกระดมคนงาน บอกทำเสียประโยชน์ ถึงขั้นขู่ฆ่า ทำหวาดกลัวต้องระมัดระวังตัวหนัก พร้อมยังหน้ามืดเมินคำสั่งรัฐยังทำงานกันเป็นปกติ
วันนี้ (25 ม.ค.) นางสาวสื่อกัญญา ธีระชาติดำรง แกนนำชาวบ้าน ต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ จ.พิจิตรที่ได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองของ บริษัท อัคราไมนิ่ง จำกัด เปิดเผยว่า ภายหลังที่ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มีคำสั่งให้เหมืองแร่ทองคำของบริษัท อัคราฯ ปิดดำเนินการจนกว่าจะปรับปรุงโครงการไม่ให้เกิดผลกระทบต่อชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ตนถูกคุกคามข่มขู่อย่างหนักถึงขั้นเอาชีวิตจากคนงานของบริษัทเหมืองแร่แห่งนี้ ภายหลังถูกสั่งให้ปิดเหมือง
“คนงานเหล่านั้นล้วนเป็นพวกบ้าระห่ำ และอาฆาต เนื่องจากเกรงว่าจะตกงาน และที่สำคัญ ได้รับการยุยงปลุกปั่นจากบริษัท เนื่องจากเสียประโยชน์มาก ได้มีการพูดคุยกันในบริษัท และมีคนมาเตือนตนว่าให้ระวังตัว ถ้าบริษัทเกิดปิดขึ้นมา มึงตาย รวมทั้งมีการข่มขู่ว่าจะมาถล่มถึงที่บ้าน ขณะนี้สถานการณ์รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ที่ผ่านมา ได้มีการจัดเวทีประเมินสุขภาพขึ้นในพื้นที่ เพื่อที่บริษัทจะได้ทำการขยายโรงงานได้ โดยมีการเกณฑ์คนงานจำนวนมากมาสุดท้ายก็มีการทะเลาะกันกับกลุ่มเครือข่ายชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ จนทำให้เวทีล่มไม่สามารถทำการประชุมได้” น.ส.สื่อกัญญา กล่าวและว่า ตอนนี้ตนต้องอยู่ด้วยความหวาดกลัว ไม่กล้าออกจากพื้นที่ โดยเฉพาะในตอนกลางคืน และต้องคอยระวังตัวตลอดเวลา รวมทั้งคนในครอบครัวก็ได้รับความเดือดร้อนหวาดกลัวไปด้วยเช่นกัน
น.ส.สื่อกัญญา กล่าวอีกว่า แม้จะมีคำสั่งออกมาจากรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม แต่ในพื้นที่บริษัทเหมืองทองก็ไม่เคยหยุดตามคำสั่งของทางราชการแต่อย่างใด ยังคงทำงานกันตามปกติ ในวันพรุ่งนี้ (26 ม.ค.) ทางผู้ว่าราชการจังหวัดได้มีหนังสือให้ตนไปร่วมประชุม เนื่องจากบริษัทร้องขอความเป็นธรรมที่กระทรวงอุตสาหกรรมให้เขาหยุดทำงาน แต่จะไม่เข้าร่วมประชุม เพราะถือว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องระหว่างอุตสาหกรรม กับบริษัท อัคราฯ ที่ต้องพิจารณากัน มันเป็นคนละส่วนไม่เกี่ยวกัน เพราะเราเป็นผู้ได้รับผลกระทบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคำสั่งดังกล่าวเกิดจากมีประชาชนใน จ.พิจิตร ร้องเรียนมาว่า ได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองของบริษัท อัคราไมนิ่ง ที่ทำอุตสาหกรรมเหมืองแร่ทองคำ ซึ่งส่งเสียงดัง ทำให้ขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค และชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบเจ็บป่วย มีการปนเปื้อนโลหะหนักในบ่อน้ำบาดาล จนชาวบ้านได้ฟ้องศาลปกครอง และทางกระทรวงอุตสาหกรรมได้เข้าไปตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานต่างๆ พบความผิดจริง
ทำให้กระทรวงต้องระงับใบอนุญาตเหมืองทองคำที่มีอยู่ในมือทั้งหมด จนกว่าจะมีมาตรการที่เข้ามาดูแลการทำเหมืองไม่ให้กระทบต่อประชาชน และได้มีการสั่งหยุดดำเนินการใน 2 ส่วน คือ พื้นที่ในเฟส 2 ที่อยู่ในทิศเหนือของโครงการจำนวน 9 แปลงจำนวน 2,700 ไร่ ที่สร้างปัญหาเสียงดังมาตั้งแต่ช่วงปี 2551-2552 และไม่แก้ไขให้ดีขึ้น ให้หยุดดำเนินการทั้งหมด ส่วนพื้นที่ตอนกลาง 5 แปลงพื้นที่ 1,500 ไร่ พบปัญหาเสียงดังเช่นกัน ให้หยุดทำเหมืองเวลากลางคืน ตั้งแต่เวลา 19.00-05.00 น.จนกว่าจะแก้ไขให้เรียบร้อย หรือคณะกรรมการ จ.พิจิตรจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น