“ชาวปากช่อง” โร่ร้องผู้ว่าฯถูกกองกำลังบุกรื้อทำลายที่พัก-ไล่ออกจากที่ทำกินมาแต่ปู่ย่า

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ชาวบ้านปากช่องเดือดร้อนหนัก โร่ร้องขอความเป็นธรรมผู้ว่าฯโคราช หลังถูกชายฉกรรจ์กว่า 100 นาย อ้างเป็น จนท.ป่าไม้-ตำรวจ และทหาร บุกเข้าทำลายที่พักและทรัพย์สินเสียหาย พร้อมขับไล่ออกจากที่ทำกินมาแต่ปู่ย่าตายายกว่า 400 ไร่ ขณะที่ที่ดินบิ๊กทหาร ระดับ “นายพล” อยู่ใจกลางกลับออกโฉนดได้ ซ้ำร้ายยังถูกตำรวจส่งหมายเรียกมารับทราบข้อหาบุกรุกป่าอีก วอนขอความเป็นธรรมอย่าทำร้ายคนจน ลั่นต่อสู้ถึงที่สุด

เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (25 ม.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ตัวแทนชาวบ้านคลองเสือ ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมาจำนวน 10 คน นำโดย นางสุบิน ทรัพย์สันเทียะ อายุ 65 ปี ราษฎรหมู่ 1 บ้านคลองเสือ ต.หมูสี ได้เดินทางมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมจาก นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา หลังถูกกลุ่มของ นายจักรพันธ์ กองวันดี พร้อมชายฉกรรจ์ ที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้, ตำรวจ และทหารพรานกว่า 100 นาย เข้าทำการรื้อถอนทำลายที่พักและทรัพย์สินเสียหาย ขับไล่ออกจากที่ดินทำกินที่ทำกินมาแต่สมัยปู่ย่ตายาย และห้ามไม่ให้ประชาชนเข้าไปเก็บเกี่ยวถอนมันสำปะหลังที่ปลูกไว้

นางสุบิน ทรัพย์สันเทียะ อายุ 65 ปี เปิดเผยว่า หลังจากชาวบ้านได้เข้าร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา มาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีถูก นายบุญล้อม ทับทิมทอง ซึ่งเป็นผู้ดูแลที่ดินให้กับทหาร ระดับ “นายพล” คนหนึ่ง ได้เข้าแจ้งความร้องทุกกล่าวโทษกับพวกตน ว่า ทำการบุกรุกที่ดินของนายบุญล้อม ซึ่งที่ดินจำนวน 462 ไร่ เป็นที่ดินสมัยปู่ย่าตายายทำกินมาจนตกทอดมาสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน โดยชำระภาษีดอกหญ้า ภ.บ.ท.5 มาโดยตลอด

จึงได้เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมและช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน จากผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งได้ส่งตัวแทนเป็นป้องกันจังหวัดนครราชสีมา มารับเรื่องพร้อมรับปากจะตรวจสอบและให้ความเป็นธรรม

ต่อมาวันที่ 17 ม.ค.2554 นายจักรพันธ์ กองวันดี พร้อมพวก ซึ่งอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครราสีมา หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นม.1 (ปากช่อง) พร้อมพวกได้เข้าทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและทำลายทรัพย์สินเสียหาย พร้อมขับไล่ให้ออกจากพื้นที่ทำกินดังกล่าว โดยแจ้งว่าจะทำการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวก่อน จากนั้นให้ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ขณะนั้นรวม 28 คน ลงลายมือชื่อรับทราบว่าเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาตรวจสอบพื้นที่โดยไม่ให้อ่านรายละเอียดในหนังสือที่เขียนขึ้นให้แก่ราษฎรฟังแต่อย่างใด

จากนั้นในวันที่ 20 ม.ค.2554 ชาวบ้านทั้ง 28 คน ได้รับหมายเรียกจาก สภ.หมูสี อ.ปากช่อง ให้ไปรับทราบข้อกล่าวว่า โดยหมายเรียกระบุว่า เป็นคดีอาญาระหว่าง นายสิรภพ ดรดี เจ้าพนักงานป่ายไม้ฯ หัวหน้าสวนป่าเขาจันทร์ ผู้กล่าวหา กับ นางสุบิน ทรัพย์สันเทียะ กับพวกรวม 28 คน ผู้ต้องหา โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันก่นสร้าง แผ้วถาง บุกรุกยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าฯ คดีอาญาที่ 19/54 โดยให้ทั้ง 28 คน ไปพบ ร.ต.อ.เขมชาติ แปดแก้ว พนักงานสอบสวนในวันที่ 26, 27 และ 28 ม.ค.นี้ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าว

นางสุบิน กล่าวว่า วันนี้ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างมาก นอกจากจะถูกขับไล่ออกจากที่ดินทำกิน ที่ทำมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายายแล้ว ยังถูกแจ้งความดำเนินคดีอีก จึงได้เดินทางมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากผู้ว่าราชการจังหวัด ในวันนี้ เพื่อขอให้ช่วยเหลือชาวบ้านและตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว

ทั้งนี้ หากมีหลักฐานระบุว่าชาวบ้านทำการบุกรุกพื้นที่ป่าเขาจันทร์จริง ก็พร้อมที่จะออก แต่ทำไมที่ดินของ “นายพล” ที่ นายบุญล้อม ดูแลอยู่จำนวน 80 ไร่ ซึ่งอยู่ตรงกลางพื้นที่ของชาวบ้านกว่า 400 ไร่ดังกล่าว จึงสามารถออกเอกสารสิทธิเป็นโฉนดที่ดินได้ แล้วที่ดินชาวบ้านกลับบอกว่าเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ทั้งที่ก่อนหน้านี้กลุ่ม “นายพล” ดังกล่าวพยายามกว้านซื้อจากชาวบ้านแต่พวกเราไม่ขาย

“เรื่องนี้ส่วนราชการต้องให้คำตอบกับประชาชนให้ชัดเจน เจ้าหน้าที่อย่าเลือกปฏิบัติ อย่าทำร้ายคนยากจนเพียงเพื่อเห็นแก่เงินทองเล็กน้อยของกลุ่มนายทุน และชาวบ้านยืนยันจะต่อสู้ให้ถึงที่สุด เพราะตอนนี้แม้แต่บ้านจะอยู่อาศัยก็ไม่มีแล้ว” นางสุบิน กล่าว