รมว.อุตฯ ลุยตรวจสต๊อกน้ำตาลที่โรงงานเมืองกาญจน์

กาญจนบุรี - รมว.อุตสาหกรรม ลุยตรวจสต๊อกน้ำตาลที่โรงงานเมืองกาญจน์ ระบุ การเพิ่มโควตาน้ำตาลทรายเพื่อการบริโภคอีก 3-5 ล้านกระสอบ จะทำให้มีปริมาณน้ำตาลเพียงพอกับความต้องการใช้ในประเทศอย่างแน่นอน

เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (3 ก.พ.) นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมคณะ เดินทางไปที่บริษัท น้ำตาลไทยกาญจนบุรี จำกัด เลขที่ 1 หมู่ 8 ถนนแสงชูโต ต.ท่าไม้ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ซึ่งมีกำลังการหีบอ้อย 11,764 ตันอ้อย/วัน รวมปีละกว่า 1.1-1.2 ล้านตัน ผลิตน้ำตาลทรายได้กว่า 1 ล้านกระสอบ (กระสอบละ 50 กิโลกรัม)

จากนั้นเดินทางไปที่โรงงานน้ำตาลท่ามะกา เลขที่ 14/1 หมู่ 10 ถ.แสงชูโต (สายเก่า) อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี เพื่อตรวจสอบสต๊อกน้ำตาลทราย ซึ่งมีกำลังการหีบอ้อย 20,000 ตันอ้อย/วัน รวมผลิตน้ำตาลทรายได้ปีละกว่า 1.2 แสนตัน เพื่อตรวจสอบสต๊อกน้ำตาลทราย ภายหลังจากที่น้ำมันปาล์มเกิดปัญหาขาดตลาด จึงมีกระแสข่าวว่าน้ำตาลทรายจะเป็นสินค้าที่ขาดตลาดเป็นรายการต่อไป

สำหรับโรงงานน้ำตาลในเขต 7 ซึ่งประกอบไปด้วย จังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการผลิตอ้อยประจำปี 2553/2554 รวมการผลิตทั้งเขตได้ปริมาณอ้อย 7,000,000 ล้านตัน ในส่วนของกลุ่ม KSL GROUP ซึ่งประกอบด้วย โรงงงานน้ำตาลขอนแก่น โรงงานน้ำตาลท่ามะกา โรงงานน้ำตาลนิวกรุงไทย โรงงานน้ำตาลนิวกว้าง และ 2 โรงงานในต่างประเทศ มีปริมาณการหีบอ้อย รวม 4,300,000 ตัน และในส่วนของโรงงานน้ำตาลท่ามะกา มีเป้าหมายการหีบอ้อย 1.5 ล้านตัน ซึ่งขณะนี้หีบอ้อยได้ 1.22 ล้านตัน ผลิตน้ำตาลทรายได้ดังนี้ น้ำตาลรีไฟน์ 43,400 ตัน น้ำตาลขาว 19,000 ตัน น้ำตาลทราบดิบ 58,000 ตัน รวมผลิตได้ 120,400 ตัน ผลผลิตน้ำตาลต่อตัน 99.23 กก.มีการจ้างงาน รวม 907 คน

นายชัยวุฒิ กล่าวยืนยันขณะเข้าตรวจสอบน้ำตาลในโกดังน้ำตาล 2 แห่งในจังหวัดกาญจนบุรี (โรงงานน้ำตาลไทยกาญจนบุรี และโรงงานน้ำตาลท่ามะกา) ว่า จากการตรวจสอบปริมาณน้ำตาลที่มีอยู่ และที่จะได้รับการหีบอ้อยในฤดูการผลิตนี้ (2553/2554) ทำให้มั่นใจว่าปริมาณน้ำตาลทรายเพื่อการบริโภค จะมีเพียงพอกับความต้องการอย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะมีน้ำตาลทรายค้างกระดานที่ยังไม่ถูกนำออกไปจำหน่ายอีกถึง 1.6 ล้านกระสอบแล้ว รัฐบาลยังมีนโยบายให้เพิ่มโควตาน้ำตาลทรายที่บริโภคในประเทศหรือโควตา ก.อีก 3-5 ล้านกระสอบ

ทั้งนี้ จากการรายงานปริมาณอ้อยส่งเข้าหีบในฤดูการผลิตนี้ คาดว่า จะมีถึง 75 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นกว่า 9 ล้านตัน และความหวานอ้อยก็เพิ่มขึ้นด้วย ทำให้ปีนี้น่าจะผลิตน้ำตาลทรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 10 ล้านกระสอบ และยังจะมีการเพิ่มน้ำตาลเพื่อการบริโภคในประเทศ หรือโควตา ก.จาก 25 ล้านกระสอบ เป็น 28-30 ล้านกระสอบ ที่น่าจะทำให้น้ำตาลเพื่อการบริโภคในประเทศโควตา ก.ปีนี้ ไม่เกิดการขาดแคลนอย่างแน่นอน ซึ่งคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) จะมีการพิจารณาในเร็วๆ นี้ นายชัยวุฒิ กล่าว

สำหรับกรณีที่หลายฝ่ายเป็นห่วงว่าจะมีการผู้ลักลอบนำน้ำตาลทรายโควตา ก.เหล่านี้ไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ หรือแอบนำออกไปจำหน่ายในต่างประเทศ จนเป็นเหตุให้เกิดภาวะน้ำตาลตึงตัวขึ้นมาอีกนั้น ดร.ประเสริฐ ตปนียางกูร เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ให้ข้อมูลว่า ทางสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายได้มีการดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด

รวมถึงมีการขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง ทั้งทหาร ศุลกากร และตำรวจ เพื่อป้องกันการลักลอบขนน้ำตาลภายในประเทศไปจำหน่ายยังต่างประเทศ โดยเฉพาะการลักลอบส่งออกตามชายแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ที่น้ำตาลทรายมีราคาสูงกว่ามาก อยู่ที่ 35-40 บาท/ถุง จึงทำให้กองทัพมดลักลอบขนน้ำตาลทรายออกตามแนวตะเข็บชายแดนเพื่อนำไปขายให้กับประเทศเพื่อนบ้าน แต่ที่เป็นปัญหาในขณะนี้พบว่ามีกองทัพช้างได้พยายามลักลอบนำน้ำตาลทรายจำนวนมากออกไปขายให้กับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเรากำลังติดตามกลุ่มขบวนการดังกล่าวอยู่

ส่วนกรณีที่น้ำตาลทราย ซึ่งวางจำหน่ายในโมเดิร์นเทรด ยังมีการจำกัดปริมาณการซื้อด้วยสาเหตุมาจากมีความต้องการสูงมาก และเพื่อป้องกันการกักตุนนั้น ทางกระทรวงอุตสาหกรรมซึ่งมีหน้าที่ดูแลในส่วนของการจัดหาน้ำตาลให้เพียงพอกับความต้องการได้ขอความร่วมมือโรงงาน โดยจะเพิ่มปริมาณน้ำตาลถุง 1 กก.ขึ้นอีก 150%