"ดีเอสไอ" รายงาน "เทพเทือก" ผลตรวจสอบ 10 รง.ผลิตน้ำมันปาล์ม ไม่พบการกักตุน เดินหน้าตรวจสอบล็อต 2 ลั่นแม้ไม่เจอไอ้โม่ง แต่ก็จะมีผลให้น้ำมันปาล์มออกสู่ตลาด และไม่มีการกักตุนจนเกิดภาวะขาดแคลน "สุริยา" เตรียมลุยสอบ "ยี่ปั๊ว-ซาปั๊ว" เพื่อวิเคราะห์ว่ามีรายใดมีพฤติกรรมน่าสงสัย เล็งเป้าหมาย "หน้าใหม่" แต่ได้รับน้ำมันปาล์มจุกฟ้าไปเป็นจำนวนมาก "เจ๊วา" เป่านกหวีด น้ำมันปาล์มในห้างขายไม่จำกัดจำนวน เริ่ม 26 ก.พ.นี้ น้ำมันถั่วเหลืองจ่อขึ้นราคา
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้าในการตรวจสอบการกักตุนน้ำมันปาล์ม โดยระบุว่า วันนี้ พ.ต.อ.ณรัช เศวตนันท์ รองอธิบดีดีเอสไอ หัวหน้าพนักงานสอบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีขาดแคลนน้ำมันปาล์ม ได้สรุปรายงานเบื้องต้นผลการตรวจสอบโรงงานน้ำมันปาล์ม 10 แห่ง ที่ได้โควตาจากกรมการค้าภายใน ให้ผลิตน้ำมันปาล์มออกสู่ตลาด และอีก 3 บริษัทในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ไม่ได้รับโควตาด้วย
อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ซึ่งผลการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบว่ามีการกักตุน หรือ มีการกระทำผิดกฎหมาย รวมทั้งการใช้น้ำมันจากสต๊อกมาผลิตก่อนแล้วนำไปหักคืนภายหลังหรือการสว็อปน้ำมันปาล์ม ก็ได้รับคำยืนยันจากอธิบดีกรมการค้าภายในว่า สามารถทำได้ไม่ขัดต่อระเบียบกรมการค้าภายใน
"ผลการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่พบพฤติการณ์การกักตุนเพื่อปั่นป่วนกลไกตลาด และจากการเข้าตรวจสอบโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม 10 แห่ง ที่ได้รับโควตาผลิตน้ำมันปาล์ม 30,000 ตัน จากกระทรวงพาณิชย์ ก็ยังไม่พบความผิดปกติ แต่ดีเอสไอมีข้อสงสัยบางส่วนที่ต้องการให้กระทรวงพาณิชย์ และบริษัทเอกชนชี้แจง เช่น กรณีบริษัท มรกต อินดัสตรีส์ จำกัด (มหาชน) มีการหักคืนน้ำมัน 1,400 ตันที่ได้รับจัดสรรจากโควต้าโดยอ้างว่าก่อนหน้านี้ได้สำรองวัตถุดิบผลิตสินค้าล่วงหน้าไปแล้ว"
อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอ จะเดินหน้าตรวจสอบการผลิตน้ำมันปาล์ม ออกสู่ตลาด ช่วงที่น้ำมันปาล์มนำเข้ารอบที่ 2 จำนวน 122,000 ตัน ซึ่งแม้ไม่พบการกระทำความผิด แต่เชื่อว่าจะมีผลให้น้ำมันปาล์มออกสู่ตลาดและไม่มีการกักตุนจนเกิดภาวะขาดแคลน ทั้งนี้ ตนได้นำเสนอรายงานเบื้องต้นผลการตรวจสอบไปยัง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรียบร้อยแล้ว
ส่วนการตรวจสอบโรงงานน้ำมันปาล์ม 3 แห่งที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี คือบริษัท ปาร์โก้เทรดดิ้ง จำกัด , บริษัท ทักษิณปาล์ม ( 2521) จำกัด และบริษัท นิวไบโอ-ดีเซล จำกัด ก็ยังไม่พบความผิดปกติเช่นกัน อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ดีเอสไอจะวิเคราะห์รายละเอียดของข้อมูลในเชิงลึกและจะรายงานผลการสืบสวนต่อนายสุเทพอีกครั้ง
พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล ผบ.สำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ดีเอสไอ กล่าวว่า จากการตรวจสอบแผนการจำหน่ายและรายงานการส่งน้ำมันปาล์มขวดฝาสีฟ้าให้ห้างโมเดริ้นเทรด ยี่ปั๊ว ซาปั๊ว ของโรงงานน้ำมันปาล์มที่ได้รับโคว้ตาให้ผลิตน้ำมันปาล์มบรรจุขวดฝาสีฟ้าทั้ง 10 แห่ง ทุกขั้นตอนพบว่าทุกโรงงานได้รายงานให้กระทรวงพาณิชย์ทราบทุกระยะ มีการควบคุมรัดกุมทั้งการผลิต และการจัดส่งว่าต้องส่งให้ใครบ้าง ผลการตรวจสอบจึงสรุปเบื้องต้นว่าไม่พบว่าโรงงานทั้ง10 แห่งกักตุนน้ำมันปาล์มในโควตา
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ดีเอสไอกำลังเร่งตรวจสอบรายชื่อซาปั๊ว ยี่ปั๊ว ที่รับน้ำมันปาล์มขวดฝาสีฟ้าต่อจากโรงงานผลิตน้ำมันปาล์ม เพื่อวิเคราะห์ว่ามีรายใดมีพฤติกรรมน่าสงสัยบ้าง เช่น เป็นยี่ปั๊วหน้าใหม่ แต่ได้รับน้ำมันปาล์มขวดฝาสีฟ้าไปเป็นจำนวนมาก และหากสงสัยว่ายี่ปั๊ว ที่ไหนน่าจะมีการกักตุนน้ำมันปาล์มขวด ก็จะเข้าตรวจสอบต่อไป ทั้งนี้หากพบยี่ปั๊วรายใดกักตุนน้ำมันปาล์ม ก็อยู่ในอำนาจของดีเอสไอที่จะเสนอเป็นคดีพิเศษ ส่วนภารกิจของดีเอสไอในการตรวจสอบการปัญหาการกักตุนน้ำมันปาล์มจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ คงต้องรอฟังนโยบายจากผู้บังคับบัญชาต่อไป
ด้านนายอัสนี มาลัมพุช นายกสมาคมโรงกลั่นน้ำมันปาล์ม กล่าวว่า ที่ผ่านมาจากการนำเข้าน้ำมันปาล์มจำนวน 3 หมื่นตันในล็อตแรกผู้ประกอบการทุกรายต้องแบกรับภาระการขาดทุนจากการนำเข้ารวมกว่าประมาณ 90 ล้านบาท และยืนยันว่าที่ผ่านมาผู้ประกอบการไม่มีการกักตุนน้ำมันปาล์มและมีการผลิต สินค้าอย่างเต็มกำลัง แต่ปริมาณผลผลิตน้ำมันปาล์มภายในประเทศลดลงเนื่องมาจากการนำไปผลิตไบดีเซล โดยหากได้รับมอบน้ำมันก็จะดำเนินการผลิตทันที
สำหรับสถานการณ์จำหน่ายน้ำมันปาล์ม นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนเองได้ขอให้ห้างสรรพสินค้าโมเดิร์นเทรดจำหน่ายน้ำมันปาล์มแบบไม่จำกัดจำนวน ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (26 กุมภาพันธ์ 2554) ขณะที่น้ำมันปาล์มฝาสีฟ้าจากการนำเข้าล็อตแรกยังเหลืออีกประมาณ 4 ล้านลิตร โดยจะกระจายจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554 นี้ ก่อนนำน้ำมันปาล์มฝาสีชมพูออกวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554 และครบทั่วประเทศภายในวันที่ 7 มีนาคม 2554 นี้
รมว.พาณิชย์ ยังได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการจำหน่ายในห้าง โดยยอมรับว่า ตอนนี้ยังมีปัญหาที่ห้างค้าปลีกสมัยใหม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆ เพิ่มขึ้นอีก เช่น ค่ากระจายสินค้าไปยังสาขาต่างๆ ของห้าง ทั้งที่ได้รับปากกับกระทรวงพาณิชย์จะไม่เรียกเก็บในช่วงนี้ เพื่อลดภาระต้นทุนให้ผู้ผลิต เพื่อให้คงราคาขายได้ที่ขวดละ 47 บาท ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้เชิญผู้ประกอบการห้างมาหารือเพื่อขอความร่วมมือแล้ว พร้อมทั้งจะขอให้ห้างสรรพสินค้าทั้งหมดเปิดจำหน่ายน้ำมันปาล์ม แบบไม่จำกัดจำนวน
ส่วนการนำเข้าปาล์ม 30,000 ตันแรกในล็อตที่ 2 รมว.พาณิชย์ ยืนยันว่าจะมาถึงวันที่ 7 มีนาคม 2554 นี้ แน่นอน และคาดว่าจะนำออกวางจำหน่ายได้วันที่ 10 มีนาคม 2554 โดยกำหนดให้ผลิตเป็นปาล์มขวด 50% เพื่อดูแลภาคครัวเรือน ส่วนอีก 25% เป็นชนิดถุงสำหรับผู้ค้ารายย่อย และที่เหลือ 25% เป็นแบบบรรจุปี๊บ สำหรับภาคอุตสาหกรรม
นายวิชิต วิทยฐานกร นายกสมาคมน้ำมันถั่วเหลืองและรำข้าว กล่าวว่า ผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองเตรียมเสนอกรมการค้าภายในขอปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันถั่วเหลืองขนาด 1 ลิตรในเดือนหน้า เนื่องจากวัตถุดิบ คือถั่วเหลืองได้ปรับราคาจากตันละ 900 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในไตรมาสที่ 3 ปีที่แล้วเป็น 1,500 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ในเดือนนี้ ทำให้ผู้ผลิต 4 ราย จากทั้งหมด 10 รายไม่สามารถผลิตน้ำมันถั่วเหลืองออกสู่ตลาดได้
นายอภิชาติ จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรกล่าวว่า ไทยมีความต้องการถั่วเหลืองปีละ 2 ล้านตัน แต่ต้องนำเข้าถึงร้อยละ 80 และที่ผ่านมาผู้ส่งออกรายใหญ่มีผลผลิตออกมาน้อยทำให้ราคาสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลือชะลอการผลิตเพื่อขอปรับราคา