ASTVผู้จัดการรายวัน - “พรทิวา” ถกโรงกลั่นผลิตน้ำมันปาล์มจุกชมพูได้ทันที ประกาศปลดป้ายจำกัดการซื้อ แต่ยังหวั่นหัวคะมำ หลังพลังงานเบี้ยวส่งน้ำมันปาล์ม 5 พันตันให้ เผยหลังปัญหาเริ่มคลี่คลาย ห้างหัวหมอเรียกค่าโน่นค่านี้อีกแล้ว ด้านน้ำมันถั่วเหลืองเอาบ้าง ขอขึ้นราคาเดือนหน้า อ้างต้นทุนกระฉูด!
นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังหารือกับสมาคมโรงงานกลั่นน้ำมันปาล์ม 10 แห่ง ที่ได้รับโควตาการผลิตจากรัฐบาล เพื่อรับทราบปัญหา และซักซ้อมทำความเข้าใจในการกระจายน้ำมันปาล์มจุกสีชมพู วานนี้ (25 ก.พ.) ว่า ได้รับการยืนยันจากโรงงานว่าจะสามารถเดินเครื่องผลิตน้ำมันปาล์มจุกสีชมพูได้ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 25 ก.พ.นี้ และสามารถทยอยนำออกจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้า และตลาดสด ตั้งแต่วันนี้ (26 ก.พ.) เป็นต้นไป ไวกว่าแผนเดิมที่กำหนดแผนจำหน่ายวันที่ 28 ก.พ.
น้ำมันปาล์มส่วนที่ผลิตออกมา เป็นส่วนของการจัดหาวัตถุดิบในประเทศ 1.5 หมื่นตัน ที่ให้โรงกลั่นไปซื้อเอง 1 หมื่นตัน และยืมจากกระทรวงพลังงาน 5 พันตัน โดยรัฐชดเชย 9.50 บาท ซึ่งในส่วนของ 1 หมื่นตัน ผู้ผลิตแจ้งว่าได้จัดหามาครบโควตา และกำลังเร่งผลิตอยู่ในขณะนี้ แต่อีก 5 พันตัน กระทรวงพลังงานยังไม่ยอมให้มา ซึ่งได้กรมการค้าภายในไปติดตาม และให้รายงานให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติรับทราบด้วย
“สมาคมฯ ยืนยันว่า ยอด 1 หมื่นตัน จะเริ่มผลิตใส่จุกชมพู และวางขายได้ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป เช่น มรกต ส่วนโรงงานที่เหลือก็จะเริ่มผลิตออกมาเรื่อยๆ และมั่นใจว่าภายใน 1 สัปดาห์ จะมีน้ำมันปาล์มจุกชมพูออกวางเต็มตลาด และสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ประชาชนจึงไม่กังวล หรือซื้อไปกักตุนแต่อย่างใด แต่ก็ยังเป็นห่วงว่าในส่วน 5 พันตันที่ยืมกระทรวงพลังงานมา ถ้าไม่ยอมให้มา จะทำให้เกิดปัญหาสะดุดขึ้นมาอีก ทั้งๆ ที่ทุกอย่างกำลังเข้าสู่ภาวะปกติ เพราะสามารถนำมาทำน้ำมันขวดได้เกือบ 4 ล้านขวด”
นางพรทิวากล่าวว่า ผู้ผลิตยังได้ขอให้กระทรวงพาณิชย์ช่วยไกล่เกลี่ยให้ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ (โมเดิร์น เทรด) ลดค่าธรรมเนียมการจำหน่ายสินค้าในห้างด้วย เพราะที่ผ่านมา หลายแห่งยังเรียกเก็บอยู่ทำให้ผู้ผลิตน้ำมันปาล์มต้องขาดทุนเพิ่ม พร้อมกับแจ้งว่าหากยังไม่ลดค่าธรรมเนียมจะไม่ยอมส่งน้ำมันปาล์มให้ห้างอย่างแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงฯ จะประชุมกับห้างค้าปลีกเพื่อแก้ไขปัญหาโดยเร็ว
ปัจจุบันผู้ผลิตส่งน้ำมันปาล์มให้ห้างค้าปลีกขวดละ 44 บาท ส่วนต่าง 3 บาท เป็นค่าดำเนินการของห้างค้าปลีก และกำไร แต่ทางห้างต้องการให้ผู้ผลิตส่งสินค้าให้ในราคาขวดละ 46 บาท ส่วนค่าธรรมเนียมและค่าบริหารจัดการ ห้างขอเก็บในภายหลัง ซึ่งจะทำให้ห้างมีรายได้มากกว่าที่จะกำหนดไว้ตายตัวที่ 3 บาท
ส่วนการนำเข้าปาล์ม 30,000 ตัน ยืนยันว่าจะมาถึงวันที่ 7 มี.ค. และวางจำหน่ายได้วันที่ 10 มี.ค.โดยกำหนดให้ผลิตเป็นปาล์มขวด 50% เพื่อดูแลภาคครัวเรือน อีก 25% เป็นชนิดถุงสำหรับผู้ค้ารายย่อย และที่เหลือ 25% เป็นชนิดปี๊บสำหรับภาคอุตสาหกรรม
นายวิชิต วิทยฐานกรณ์ นายกสมาคมน้ำมันถั่วเหลืองและรำข้าว กล่าวว่า ผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองเตรียมขอให้กรมการค้าภายใน พิจารณาปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันถั่วเหลืองเพิ่มจากขวดลิตรละ 46 บาท ในเดือนมี.ค.นี้ เนื่องจากราคาเมล็ดถั่วเหลืองปรับขึ้นมาต่อเนื่อง จากตันละ 900 เหรียญสหรัฐ ในช่วงไตรมาสสามของปีที่แล้ว เป็น 1,500 เหรียญสหรัฐ ในเดือนนี้ ทำให้ผู้ผลิต 4 ราย จากทั้งหมด 10 ราย ไม่สามารถผลิตน้ำมันถั่วเหลืองออกสู่ตลาดได้ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันปาล์มที่แพงกว่าน้ำมันถั่วเหลือง 1 บาท ยังทำให้ผู้บริโภคหันมาบริโภคน้ำมันถั่วเหลืองมากขึ้น จนทำให้เกิดปัญหาขาดตลาดอย่างหนัก
นายฉัตรชัย ชูแก้ว ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ ในฐานะรอง ประธานคณะกรรมการติดตาม ควบคุม กำกับดูแล และแก้ไข ปัญหาน้ำมันพืชเพื่อการบริโภค กล่าวว่า ได้กำชับให้ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าปลีกทุกแห่ง ปลดป้ายจำกัดการซื้อน้ำมันปาล์มทุกแห่ง และสั่งให้ซื้อได้แบบไม่อั้น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ขณะเดียวกันให้เจ้าหน้าที่กระทรวงฯ เพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบการซื้อขายปาล์มอย่างเป็นธรรม หลังรับร้องเรียนว่ามีห้างและร้านค้าบางแห่งบังคับให้ผู้บริโภคซื้อน้ำมันปาล์ม ต้องพ่วงสินค้าอื่นถึงจะยอมขายให้ ซึ่งเข้าข่ายผิดกฎหมาย และผู้ถูกเอาเปรียบสามารถร้องเรียนมาได้ที่ โทร. 1569.
นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังหารือกับสมาคมโรงงานกลั่นน้ำมันปาล์ม 10 แห่ง ที่ได้รับโควตาการผลิตจากรัฐบาล เพื่อรับทราบปัญหา และซักซ้อมทำความเข้าใจในการกระจายน้ำมันปาล์มจุกสีชมพู วานนี้ (25 ก.พ.) ว่า ได้รับการยืนยันจากโรงงานว่าจะสามารถเดินเครื่องผลิตน้ำมันปาล์มจุกสีชมพูได้ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 25 ก.พ.นี้ และสามารถทยอยนำออกจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้า และตลาดสด ตั้งแต่วันนี้ (26 ก.พ.) เป็นต้นไป ไวกว่าแผนเดิมที่กำหนดแผนจำหน่ายวันที่ 28 ก.พ.
น้ำมันปาล์มส่วนที่ผลิตออกมา เป็นส่วนของการจัดหาวัตถุดิบในประเทศ 1.5 หมื่นตัน ที่ให้โรงกลั่นไปซื้อเอง 1 หมื่นตัน และยืมจากกระทรวงพลังงาน 5 พันตัน โดยรัฐชดเชย 9.50 บาท ซึ่งในส่วนของ 1 หมื่นตัน ผู้ผลิตแจ้งว่าได้จัดหามาครบโควตา และกำลังเร่งผลิตอยู่ในขณะนี้ แต่อีก 5 พันตัน กระทรวงพลังงานยังไม่ยอมให้มา ซึ่งได้กรมการค้าภายในไปติดตาม และให้รายงานให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติรับทราบด้วย
“สมาคมฯ ยืนยันว่า ยอด 1 หมื่นตัน จะเริ่มผลิตใส่จุกชมพู และวางขายได้ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป เช่น มรกต ส่วนโรงงานที่เหลือก็จะเริ่มผลิตออกมาเรื่อยๆ และมั่นใจว่าภายใน 1 สัปดาห์ จะมีน้ำมันปาล์มจุกชมพูออกวางเต็มตลาด และสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ประชาชนจึงไม่กังวล หรือซื้อไปกักตุนแต่อย่างใด แต่ก็ยังเป็นห่วงว่าในส่วน 5 พันตันที่ยืมกระทรวงพลังงานมา ถ้าไม่ยอมให้มา จะทำให้เกิดปัญหาสะดุดขึ้นมาอีก ทั้งๆ ที่ทุกอย่างกำลังเข้าสู่ภาวะปกติ เพราะสามารถนำมาทำน้ำมันขวดได้เกือบ 4 ล้านขวด”
นางพรทิวากล่าวว่า ผู้ผลิตยังได้ขอให้กระทรวงพาณิชย์ช่วยไกล่เกลี่ยให้ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ (โมเดิร์น เทรด) ลดค่าธรรมเนียมการจำหน่ายสินค้าในห้างด้วย เพราะที่ผ่านมา หลายแห่งยังเรียกเก็บอยู่ทำให้ผู้ผลิตน้ำมันปาล์มต้องขาดทุนเพิ่ม พร้อมกับแจ้งว่าหากยังไม่ลดค่าธรรมเนียมจะไม่ยอมส่งน้ำมันปาล์มให้ห้างอย่างแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงฯ จะประชุมกับห้างค้าปลีกเพื่อแก้ไขปัญหาโดยเร็ว
ปัจจุบันผู้ผลิตส่งน้ำมันปาล์มให้ห้างค้าปลีกขวดละ 44 บาท ส่วนต่าง 3 บาท เป็นค่าดำเนินการของห้างค้าปลีก และกำไร แต่ทางห้างต้องการให้ผู้ผลิตส่งสินค้าให้ในราคาขวดละ 46 บาท ส่วนค่าธรรมเนียมและค่าบริหารจัดการ ห้างขอเก็บในภายหลัง ซึ่งจะทำให้ห้างมีรายได้มากกว่าที่จะกำหนดไว้ตายตัวที่ 3 บาท
ส่วนการนำเข้าปาล์ม 30,000 ตัน ยืนยันว่าจะมาถึงวันที่ 7 มี.ค. และวางจำหน่ายได้วันที่ 10 มี.ค.โดยกำหนดให้ผลิตเป็นปาล์มขวด 50% เพื่อดูแลภาคครัวเรือน อีก 25% เป็นชนิดถุงสำหรับผู้ค้ารายย่อย และที่เหลือ 25% เป็นชนิดปี๊บสำหรับภาคอุตสาหกรรม
นายวิชิต วิทยฐานกรณ์ นายกสมาคมน้ำมันถั่วเหลืองและรำข้าว กล่าวว่า ผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองเตรียมขอให้กรมการค้าภายใน พิจารณาปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันถั่วเหลืองเพิ่มจากขวดลิตรละ 46 บาท ในเดือนมี.ค.นี้ เนื่องจากราคาเมล็ดถั่วเหลืองปรับขึ้นมาต่อเนื่อง จากตันละ 900 เหรียญสหรัฐ ในช่วงไตรมาสสามของปีที่แล้ว เป็น 1,500 เหรียญสหรัฐ ในเดือนนี้ ทำให้ผู้ผลิต 4 ราย จากทั้งหมด 10 ราย ไม่สามารถผลิตน้ำมันถั่วเหลืองออกสู่ตลาดได้ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันปาล์มที่แพงกว่าน้ำมันถั่วเหลือง 1 บาท ยังทำให้ผู้บริโภคหันมาบริโภคน้ำมันถั่วเหลืองมากขึ้น จนทำให้เกิดปัญหาขาดตลาดอย่างหนัก
นายฉัตรชัย ชูแก้ว ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ ในฐานะรอง ประธานคณะกรรมการติดตาม ควบคุม กำกับดูแล และแก้ไข ปัญหาน้ำมันพืชเพื่อการบริโภค กล่าวว่า ได้กำชับให้ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าปลีกทุกแห่ง ปลดป้ายจำกัดการซื้อน้ำมันปาล์มทุกแห่ง และสั่งให้ซื้อได้แบบไม่อั้น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ขณะเดียวกันให้เจ้าหน้าที่กระทรวงฯ เพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบการซื้อขายปาล์มอย่างเป็นธรรม หลังรับร้องเรียนว่ามีห้างและร้านค้าบางแห่งบังคับให้ผู้บริโภคซื้อน้ำมันปาล์ม ต้องพ่วงสินค้าอื่นถึงจะยอมขายให้ ซึ่งเข้าข่ายผิดกฎหมาย และผู้ถูกเอาเปรียบสามารถร้องเรียนมาได้ที่ โทร. 1569.
