เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด
00 ยังเดินหน้า “สร้างภาพ” ฉาบฉวย หลอกต้มชาวบ้านต่อเนื่อง สำหรับนายกฯ “หน้าหล่อ” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อสองวันก่อนก็ประกาศว่า “น้ำมันปาล์ม” จะออกสู่ตลาดไม่อั้น ไม่มีวัน “ขาดตลาด” อีกแล้ว พร้อมทั้งมีการไป“แอ๊กท่า” ตรวจโรงงานน้ำมันพืชมรกตที่ สมุทรปราการ แต่ที่คันปากจนอดตั้งคำถามไม่ได้ก็คือ หนึ่ง เอ็งรู้หรือไม่ว่า ชาวบ้านเขาเดือดร้อนเรื่องน้ำมันปาล์มขาดตลาด อันเนื่องมาจากการ “กักตุน” ของนายทุนที่สุมหัวกับ “ทุนการเมือง” แล้วนำมาขายแพง นานเกือบ 3 เดือน ทำให้แม่ค้า “กล้อยทอด” พ่อค้า “ปาท่องโก๋” ต้องเลิกขาย เพราะหาน้ำมันพืชไม่ได้ หรือร้านอาหารตามสั่งปากซอยต้องเลิกกิจการ เพราะหาน้ำมันพืชไม่ได้ หรือถ้าเจอจังหวะโชคดี มีออกมาวางแค่ 4-5 ขวด แต่ก็ต้องซื้อในราคา 70-80 บาท เอ็งไม่เคยรู้เรื่องบ้างหรือไง
00 สองก่อนหน้านี้ ไอ้โรงงานน้ำมันพืชมรกตแห่งนี้ ถ้าจำกันได้เคยถูกเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ที่ได้รับคำสั่งจาก รองนายกฯฝ่าย (ทำลาย) ความมั่นคง ควบด้านนำเข้าน้ำมันปาล์มอีกตำแหน่งหนึ่ง เคยเข้าไปตรวจสอบ “สต็อก” น้ำมันเป็นเจ้าแรก นำน้ำมันทั้งบรรจุขวด และเอกสารไปตรวจสอบจำนวนมาก ทำท่าเหมือนกับว่า “บริษัทแห่งนี้กักตุน” นำโควต้าน้ำมันปาล์มดิบที่ได้รับแบ่งโควต้าจากการนำเข้าล็อตแรก 3 หมื่นตัน มากลั่นโดยมิชอบ แต่วันนี้กลายเป็นว่า นายกฯ หน้าหล่อกลับมาอีกบทบาทหนึ่ง นั่นคือเข้ามาดูกระบวนการผลิตออกมาในลักษณะ “การันตี” ความบริสุทธิ์ให้เสร็จสรรพ แบบนี้มันหมายความว่าอย่างไร ทั้งที่เมื่อสองสามวันก่อน ทางดีเอสไอ ก็ยังมีข้อสงสัยว่าบริษัทแห่งนี้ ในเรื่องของการ “หักคืน” น้ำมัน 1,400 ตัน แต่การมาของ “พระเอกมาร์ค” เที่ยวนี้เหมือนกับว่านี่คือรายการ “ปาหี่” อย่างที่ชาวบ้านเขานินทาจริงๆ !!
00 คำถามที่ตามมาอีกอย่างหนึ่งก็คือ หลังจากที่มีการประชุมคณะกรรมการนโยบายน้ำมันปาล์มฯ ที่มี สุเทพ เทือกสุวรรณ เป็นประธานเมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา ผลสรุปออกมาว่าจะมีการ “น้ำเข้า” น้ำมันปาล์มดิบเข้ามาเพิ่มอีก 3 หมื่นตัน แทนที่จะนำเข้า 1.2 แสนตันเหมือนแต่เดิม โดยมีการชดเชย “ผลต่างราคา” ให้กับเอกชน ขณะเดียวกันก็ประกาศให้มีการเร่งการกลั่นออกมาสู่ตลาดแบบไม่อั้น ได้ผล วันรุ่งขึ้นเริ่มมีน้ำมันปาล์มทยอยออกสู่ตลาด หลังจากขาดแคลนจนชาวบ้านต้องเข้าคิวยาวเป็นกิโล จนบางครั้งแทบจะ “ตบตี” กันตาย นี่ก็แสดงว่ามีการกักตุน เพื่อขายแพง รวยกัน “พุงปลิ้น” ไปก่อนแล้ว
00 นอกจากนี้สิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่า นายกฯ คนนี้ถนัดแต่เล่นเกมการเมืองไปวันๆ เท่านั้น เห็นได้จากการ “ปาดหน้า” แย่งซีน “เจ๊วา” พรทิวา นาคาศัย ที่มีกำหนดการไปตรวจโรงงานน้ำมันปาล์มแห่งนี้เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ดี หากมองอย่างพิจารณาจะเห็นว่า การแก้ปัญหาน้ำมันปาล์มแพง-ขาดแคลน ก็เป็นเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการ “ปล่อยปละละเลย” ต้องรอให้เดือดร้อนแสนสาหัสก่อนแล้วถึงจะลงมา “ใช้ปาก” แก้ปัญหา ทั้งที่ทุกอย่างสายเกินไป เพราะบรรดาแม่ค้าต่างทยอยเจ๊งกันไปหลายรายแล้ว
00 น่าจะเป็นไปตามคาดก็คือ หนึ่งในรายชื่อรัฐมนตรี ที่ต้องถูกเพื่อไทยขึ้นเขียงเชือดอีกรอบต้องมีชื่อของ กษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ติดอยู่ในโผแน่นอน แต่คราวนี้บรรยากาศน่าจะต่างไปจากหลายครั้ง และต้องถูก“จัดหนัก” แน่นอน !!