ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - การรับสมัคร กกต.จังหวัดที่หมดวาระพร้อมกัน 62 จังหวัดรอบนี้คึกคักเฉพาะแวดวงการเมือง ชาวบ้านไม่รู้เรื่อง แถมกกต.บางจังหวัดทำพิลึกตีความระเบียบห้ามเปิดรายชื่อผู้สมัคร ขณะที่ส่วนกลางรับเพิ่งรู้ปัญหา
คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประกาศเชิญชวนให้ผู้สนใจสมัครเป็น กกต.จังหวัดซึ่งเป็นหน่วยงานสำคัญหน้าด่านในพื้นที่รองรับการเลือกตั้งท้องถิ่นทั้งหมดซึ่งจะครบวาระพร้อมกัน 62 จังหวัดทั่วประเทศในวันที่ 8 ก.ค.2554 โดยมีการเปิดรับสมัครผู้สนใจตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมาหมดเขตวันที่ 6 มีนาคม โดยกกต.กลางได้มีเอกสารแถลงข่าวความคืบหน้าเป็นระยะ ล่าสุดแถลงเมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2554 ว่า
วันที่ 1 มี.ค.ซึ่งถือเป็นช่วงครึ่งทางของการรับสมัคร กกต.จว. ได้รับรายงานว่า มีผู้มาสมัครเพิ่มขึ้นอีก 145 ราย โดยภาคกลางครองแชมป์มีจำนวนผู้สมัครสูงสุด 175 ราย ตามมาด้วยภาคเหนือ 124 ราย ภาคอีสาน 120 ราย และภาคใต้ 63 ราย และจังหวัดที่คึกคักมากที่สุดของภาคกลาง ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 20 ราย ภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 20 ราย ภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดสตูล จำนวน 9 ราย ภาคอีสาน ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 15 ราย
อย่างไรก็ตามเมื่อผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ถามรายละเอียดและความคืบหน้าจากสำนักงาน กกต.จังหวัดหลายจังหวัดได้รับทราบเพียงยอดตัวเลขของผู้สมัครล่าสุดเท่านั้น เช่นเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 2 มี.ค.จำนวน 22 คน และวันที่ 23 มี.ค.เพิ่มเป็น 32 คน ขณะที่ลำปางมียอดผู้สมัครแล้ว 15 คนเป็นต้นโดยแรกทีเดียวนั้นเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการแจ้งว่ายังต้องรอการตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครก่อนแล้วจึงจะส่งรายชื่อผู้สมัครให้กับผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชนในท้องถิ่นไปเผยแพร่ให้ประชาชนทราบ ทั้งนี้เรื่องการรับสมัครกกต.จังหวัดเกือบทั้งประเทศครั้งนี้คนในแวดวงการเมืองให้ความสนใจกันมากถึงกับมีข่าวว่านักการเมืองใหญ่ในพื้นที่ต่าง ๆ แอบสนับสนุนให้คนของตนเข้าสมัครด้วยแต่ทว่ากลับไม่ค่อยเป็นข่าวที่คนในท้องถิ่นทั่วไปให้ความสนใจนัก
แต่เมื่อถามไปยังหัวหน้างานการเลือกตั้งของ กกต.ลำปางได้รับความเห็นว่า ระเบียบไม่ได้ห้ามไว้ว่าห้ามเปิดเผยรายชื่อหากผู้ใดอยากทราบก็มาดูได้ ขณะที่ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อถามไปยัง นายสุชาติ ใจภักดี ผ.อ.กกต.จังหวัดเชียงใหม่เพื่อถามรายละเอียดกรณีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติอ้างว่าเปิดเผยชื่อไม่ได้ ได้รับคำตอบว่าน่าจะเข้าใจผิดพลาดกันจะตรวจสอบให้และติดต่อภายหลัง อย่างไรก็ตามตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ.เป็นต้นมา กกต.เชียงใหม่ยังไม่เปิดเผยรายชื่อผู้สมัครกกต.จังหวัดทั้ง 32 รายแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังฝ่ายสนับสนุนการเลือกตั้ง กกต.กลาง กรุงเทพฯ ได้คำตอบว่าทางกกต.กลางรับทราบว่ามียอดผู้สมัครล่าสุดจำนวนเท่าไหร่ เพิ่งทราบว่ามีปัญหาลักลั่นในทางปฏิบัติบางจังหวัดเปิดรายชื่อแต่บางจังหวัดยังไม่เปิด ซึ่งทางฝ่ายจะเร่งตรวจสอบข้อปัญหาดังกล่าวโดยเร็ว ทั้งนี้ในระหว่างการพูดคุยได้มีการยกกรณีการรับสมัครส.ว.สรรหา ที่กำลังดำเนินการอยู่ว่า กกต.ได้เปิดเผยรายชื่อผู้สมัครทั้งหมดออกมารายวันแม้ว่าจะยังต้องตรวจสอบคุณสมบัติก่อน แต่สำหรับการสรรหากกต.จังหวัด กลับมีบางจังหวัดอ้างว่าต้องตรวจคุณสมบัติก่อนแล้วค่อยเปิดเผยซึ่งเป็นแนวปฏิบัติที่สวนทางกัน
ล่าสุดเมื่อเวลา 17.25 น.วันที่ 3 มี.ค. นายสุชาติ ใจภักดี ผ.อ.กกต.เชียงใหม่โทรศัพท์แจ้งผู้สื่อข่าวว่าได้สั่งการไปยังเจ้าหน้าที่แล้วว่าให้เปิดเผยรายชื่อผู้สมัครได้ โดยตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค.เป็นต้นไปผู้สนใจสามารถขอดูจากเจ้าหน้าที่ได้โดยตรงว่าในแต่ละวันมีผู้สมัครเป็นผู้ใดบ้าง
คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประกาศเชิญชวนให้ผู้สนใจสมัครเป็น กกต.จังหวัดซึ่งเป็นหน่วยงานสำคัญหน้าด่านในพื้นที่รองรับการเลือกตั้งท้องถิ่นทั้งหมดซึ่งจะครบวาระพร้อมกัน 62 จังหวัดทั่วประเทศในวันที่ 8 ก.ค.2554 โดยมีการเปิดรับสมัครผู้สนใจตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมาหมดเขตวันที่ 6 มีนาคม โดยกกต.กลางได้มีเอกสารแถลงข่าวความคืบหน้าเป็นระยะ ล่าสุดแถลงเมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2554 ว่า
วันที่ 1 มี.ค.ซึ่งถือเป็นช่วงครึ่งทางของการรับสมัคร กกต.จว. ได้รับรายงานว่า มีผู้มาสมัครเพิ่มขึ้นอีก 145 ราย โดยภาคกลางครองแชมป์มีจำนวนผู้สมัครสูงสุด 175 ราย ตามมาด้วยภาคเหนือ 124 ราย ภาคอีสาน 120 ราย และภาคใต้ 63 ราย และจังหวัดที่คึกคักมากที่สุดของภาคกลาง ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 20 ราย ภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 20 ราย ภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดสตูล จำนวน 9 ราย ภาคอีสาน ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 15 ราย
อย่างไรก็ตามเมื่อผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ถามรายละเอียดและความคืบหน้าจากสำนักงาน กกต.จังหวัดหลายจังหวัดได้รับทราบเพียงยอดตัวเลขของผู้สมัครล่าสุดเท่านั้น เช่นเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 2 มี.ค.จำนวน 22 คน และวันที่ 23 มี.ค.เพิ่มเป็น 32 คน ขณะที่ลำปางมียอดผู้สมัครแล้ว 15 คนเป็นต้นโดยแรกทีเดียวนั้นเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการแจ้งว่ายังต้องรอการตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครก่อนแล้วจึงจะส่งรายชื่อผู้สมัครให้กับผู้สื่อข่าวและสื่อมวลชนในท้องถิ่นไปเผยแพร่ให้ประชาชนทราบ ทั้งนี้เรื่องการรับสมัครกกต.จังหวัดเกือบทั้งประเทศครั้งนี้คนในแวดวงการเมืองให้ความสนใจกันมากถึงกับมีข่าวว่านักการเมืองใหญ่ในพื้นที่ต่าง ๆ แอบสนับสนุนให้คนของตนเข้าสมัครด้วยแต่ทว่ากลับไม่ค่อยเป็นข่าวที่คนในท้องถิ่นทั่วไปให้ความสนใจนัก
แต่เมื่อถามไปยังหัวหน้างานการเลือกตั้งของ กกต.ลำปางได้รับความเห็นว่า ระเบียบไม่ได้ห้ามไว้ว่าห้ามเปิดเผยรายชื่อหากผู้ใดอยากทราบก็มาดูได้ ขณะที่ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อถามไปยัง นายสุชาติ ใจภักดี ผ.อ.กกต.จังหวัดเชียงใหม่เพื่อถามรายละเอียดกรณีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติอ้างว่าเปิดเผยชื่อไม่ได้ ได้รับคำตอบว่าน่าจะเข้าใจผิดพลาดกันจะตรวจสอบให้และติดต่อภายหลัง อย่างไรก็ตามตั้งแต่วันที่ 26 ก.พ.เป็นต้นมา กกต.เชียงใหม่ยังไม่เปิดเผยรายชื่อผู้สมัครกกต.จังหวัดทั้ง 32 รายแต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังฝ่ายสนับสนุนการเลือกตั้ง กกต.กลาง กรุงเทพฯ ได้คำตอบว่าทางกกต.กลางรับทราบว่ามียอดผู้สมัครล่าสุดจำนวนเท่าไหร่ เพิ่งทราบว่ามีปัญหาลักลั่นในทางปฏิบัติบางจังหวัดเปิดรายชื่อแต่บางจังหวัดยังไม่เปิด ซึ่งทางฝ่ายจะเร่งตรวจสอบข้อปัญหาดังกล่าวโดยเร็ว ทั้งนี้ในระหว่างการพูดคุยได้มีการยกกรณีการรับสมัครส.ว.สรรหา ที่กำลังดำเนินการอยู่ว่า กกต.ได้เปิดเผยรายชื่อผู้สมัครทั้งหมดออกมารายวันแม้ว่าจะยังต้องตรวจสอบคุณสมบัติก่อน แต่สำหรับการสรรหากกต.จังหวัด กลับมีบางจังหวัดอ้างว่าต้องตรวจคุณสมบัติก่อนแล้วค่อยเปิดเผยซึ่งเป็นแนวปฏิบัติที่สวนทางกัน
ล่าสุดเมื่อเวลา 17.25 น.วันที่ 3 มี.ค. นายสุชาติ ใจภักดี ผ.อ.กกต.เชียงใหม่โทรศัพท์แจ้งผู้สื่อข่าวว่าได้สั่งการไปยังเจ้าหน้าที่แล้วว่าให้เปิดเผยรายชื่อผู้สมัครได้ โดยตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค.เป็นต้นไปผู้สนใจสามารถขอดูจากเจ้าหน้าที่ได้โดยตรงว่าในแต่ละวันมีผู้สมัครเป็นผู้ใดบ้าง