ผอ.เพื่อไทยตรังแจงเปลี่ยนชื่อผู้ลงสมัคร ส.ส.เป็นไปตามข้อตกลง

ตรัง - ผอ.ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย จ.ตรัง ออกมาชี้แจงหลังถูกอดีตว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 กล่าวหา แอบเปลี่ยนรายชื่อโดยไม่บอกล่วงหน้า ย้ำทุกอย่างเป็นไปตามข้อตกลงทั้งหมด

จากกรณีที่นายปกิต ยอดสนิท อดีตว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ตรัง เขต 4 พรรคเพื่อไทย ได้แถลงข่าวประกาศยื่นใบลาออกจากสมาชิกพรรคต่อ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรค อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่พอใจที่สืบทราบว่า นายพิเชษฐ สถิรชวาล ประธานพรรคเพื่อไทยโซนอันดามัน และนายรัตน์ ภู่กลาง ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย จ.ตรัง และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) ร่วมมือกันเปลี่ยนตัวผู้สมัคร ส.ส.ใน 2 เขตของจังหวัดตรัง คือ เขต 2 และเขต 4 โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้านั้น

นายรัตน์ ภู่กลาง ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย จ.ตรัง ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว โดยยอมรับว่าที่ผ่านมาในการสรรหาตัวผู้สมัคร ส.ส.ตรัง ทั้ง 4 เขต ตนและคณะทำงานได้เป็นผู้คัดเลือกตัวผู้สมัครส่งให้กับทางพรรคพิจารณา ซึ่งรายชื่อผู้สมัครในเขต 4 ที่ปรากฏก่อนหน้านั้น คือ นายสมาน ลิประพันธ์ อดีต ส.จ.เขตอำเภอกันตัง แต่เมื่อใกล้วันประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคเพื่อไทย ได้มีการเปลี่ยนตัวผู้สมัคร ส.ส. มาเป็น นายปกิต แทน ซึ่งทาง นายสมาน ก็ไม่ได้ติดใจสงสัยในเหตุผลของการเปลี่ยนตัวแต่อย่างใด เพราะเบื้องต้นว่าที่ผู้สมัครทุกคนได้ตกลงกันไว้ว่า หากบุคคลที่มาใหม่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมกว่า ว่าที่ผู้สมัครคนเดิมจะต้องยอมให้เปลี่ยนตัวได้เพื่อความเหมาะสม และข้อตกลงด้วยวาจาดังกล่าวได้บันทึกเสียงไว้เป็นหลักฐานด้วย

ส่วนกรณีที่มีการเปลี่ยนตัวจากนายปกิต เป็น นายประโวทย์ ศรีจันทร์ทอง สำหรับเขตที่ 4 อีกครั้งนั้น เนื่องจาก นายประโวทย์ ได้แจ้งความประสงค์เป็นผู้สมัคร ส.ส. มายังศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย จ.ตรัง โดยไม่ระบุว่าจะลงเขตไหน ซึ่งทางศูนย์ฯ ได้แนะนำให้ นายประโวทย์ ไปสมัครสมาชิกพรรคที่ กทม.ซึ่งนายประโวทย์ ก็ได้ปฏิบัติตามข้อแนะนำดังกล่าว ต่อมาประธานคัดเลือกตัวผู้สมัคร ส.ส.โซนอันดามัน ได้พิจารณาคุณสมบัติของนายประโวทย์ ก่อนวันประชุมใหญ่วิสามัญ ในวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา และได้ติดต่อกลับมายัง นายสมาน และตนเอง เพื่อสอบถามประวัติ ซึ่งก็ได้ให้ข้อมูลไปตามความเป็นจริง

ดังนั้น ตนจึงไม่ส่วนเกี่ยวข้องหรือกลั่นแกล้ง นายปกิต ตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด และคิดว่าการที่ นายปกิต ออกมาเรียกร้องเช่นนี้ เพราะยังทำใจไม่ได้ และด้วยเหตุผลดังกล่าวเป็นกระบวนการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. ที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของทางพรรค แต่เมื่อมีความไม่เข้าใจเกิดขึ้น ตนจึงต้องชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลทั้งสองด้าน และได้พิจารณาว่าเหตุผลของใครที่อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงมากที่สุด

ขณะที่ นายประโวทย์ ศรีจันทร์ทอง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ตรัง เขต 4 พรรคเพื่อไทย ชี้แจงและยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ได้เดินทางไปหา นายรัตน์ เพื่อไปสมัคร ส.ส.ในเขตเลือกตั้งดังกล่าว แต่ นายรัตน์ บอกกลับมาว่า มีผู้สมัครครบทั้ง 4 เขตแล้ว พร้อมกับแนะนำให้ตนไปยื่นใบสมัครที่พรรคเพื่อไทยโดยตรง ซึ่งต่อมาวันที่ 2 พ.ค.54 ตนได้เดินทางไปยื่นเอกสารในการสมัคร และทางพรรคก็บอกเช่นเดียวกับ นายรัตน์ ว่ามีผู้สมัครครบทุกเขตแล้ว แต่ก็ได้ซักถามประวัติเบื้องต้นพร้อมขอเบอร์โทรศัพท์ตนไว้ และให้ตนรอประมาณ 1 ชม. เพื่อที่พรรคเพื่อไทย จะขอเวลาเคลียร์เรื่องเปลี่ยนตัวผู้สมัคร

จากนั้น ไม่นานทางพรรคได้ติดต่อกลับมาให้ตนขึ้นไปยื่นหลักฐานการสมัครที่ชั้น 4 โดยมี นายพิเชษฐ สถิรชวาล ประธานพรรคเพื่อไทยโซนอันดามัน เป็นผู้ซักถามประวัตินานประมาณ 15 นาที และในที่สุดก็ตัดสินใจรับตนเป็นผู้สมัคร ส.ส.ตรัง ในเขต 4 ในทันที และในเย็นวันเดียวกัน ก็ยังมีการเปิดตัวผู้สมัครในโซนอันดามัน ซึ่งประกอบไปด้วย ระนอง กระบี่ พังงา ภูเก็ต และตรัง ต่อจากนั้นตนก็เริ่มเดินหน้าหาเสียงในพื้นที่ทันที ดังนั้น ยืนยันว่าการเปลี่ยนตัวผู้สมัครครั้งนี้ ตนไม่ทราบว่า พรรคเพื่อไทยมีเหตุผล หรือประสานงานกันอย่างไร แต่ตนยืนยันว่าไม่ได้พูดคุยกับทางพรรคเรื่องการเปลี่ยนตัวเป็นกรณีพิเศษ