xs
xsm
sm
md
lg

“มทภ.2” รับไม่มั่นใจเขาวิหารสงบ อ้างถกหยุดยิงแค่ “สัญญาลูกผู้ชาย”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ท.ธวัชชัย  สมุทรสาคร มทภ.2 และ พล.ต.ท.เดชาวัต  รามสมภพ ผบช.ภ.3 ร่วมประชุมความร่วมมือพัฒนางานด้านการข่าวเกี่ยวกับความมั่นคงและเพิ่มประสิทธิภาพป้องกันแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ที่จ.นครราชสีมา วันนี้ ( 22 ก.พ.)
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “ทภ.2” จับมือ “ตร.ภาค 3” พัฒนางานข่าวความมั่นคงให้เข้มข้นทันต่อสถานการณ์ และเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันปัญหาตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาหลังเกิดเหตุปะทะรุนแรง ด้าน “มทภ.2” ยันถกหยุดยิงร่วมบิ๊กทหารเขมรล่าสุดไม่มีการลงนาม เป็นเพียง “สัญญาลูกผู้ชาย” แต่ยอมรับไม่วางใจสถานการณ์ชายแดน “เขาวิหาร” จะสงบ เพราะไม่ขึ้นอยู่กับฝ่ายไทย อ้างเสียงปืนตูมสนั่นเขาวิหารหลังเจรจาหยุดยิง เป็นแค่การยิงสัตว์ของฝ่ายเขมรและได้ชี้แจงขอโทษฝ่ายไทยแล้ว

เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (22 ก.พ.) ที่ห้องประชุมชั้น 2 ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 3 ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) เป็นประธานเปิดการประชุมการแสวงหาความร่วมมือ เพื่อพัฒนางานด้านการข่าวเกี่ยวกับความมั่นคงและเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแก้ไขปัญหาตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดเหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา โดยมี พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) ให้การต้อนรับพร้อมกล่าวรายงาน และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด, รองผู้บังคับการ, ผู้กำกับการ, หัวหน้าฝ่ายข่าว และหัวหน้าชุดสืบสวน ในพื้นที่ 8 จังหวัดอีสานตอนล่างเข้าร่วมประชุมกว่า 500 นาย

พล.ท.ธวัชชัย สุมทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า ได้มีการพูดคุยกับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 และภาค 4 ในภาคอีสานมาหลายครั้งแล้วในการร่วมมือกันทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย โดยการประสานการทำงานร่วมกันเพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าไปด้วยดี ซึ่งตำรวจเป็นผู้ที่บังคับใช้กฎหมาย ในส่วนของทหารก็พร้อมให้การสนับสนุนกำลังพลที่จะเข้ามาเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน เพื่อทำให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การประชุมครั้งนี้ไม่ได้เน้นย้ำในเรื่องอะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่เป็นการกระชับความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างทหารกับตำรวจ เพราะเราไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาเขาจะสั่งการอะไรคงไม่เหมาะเพียงแค่ขอความร่วมมือเท่านั้น และภัยคุกคามรูปแบบใหม่มีเยอะมาก หากเรานิ่งเฉยทั้งที่ทางฝ่ายทหารมีกำลังอยู่มากก็คงไม่ดี หากเราไม่ได้รบเราก็จะมาช่วยทางอื่น อาจช่วยในทางตรงหรือทางอ้อมก็ได้ แล้วแต่ทางตำรวจจะขอเข้ามา

อย่างไรก็ตาม ในส่วนการข่าวนั้นตำรวจทหารทำงานเข้มข้นมาโดยตลอดอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า การข่าวเราช้าไปไม่ทันคนอื่นเขา จากนี้ไปคงจะต้องมาประสานหลายหน่วยงานทำงานร่วมกันเพื่อให้รวดเร็วทันต่อสถานการณ์

พล.ท.ธวัชชัยกล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาซึ่งมีการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่มอาเซียนนัดพิเศษในวันนี้ที่ประเทศอินโดนีเซียว่า คงต้องรอฟังผลการประชุมอีกครั้งหนึ่งว่าจะออกมาอย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องของกระทรวงการต่างประเทศ ส่วนการหารือของฝ่ายทหารระดับพื้นที่ได้พูดคุยกันไปแล้ว (คณะผู้นำทหารระดับสูงไทย-กัมพูชา เจรจาหยุดยิงกันที่บริเวณด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 19 ก.พ.) และตนยืนยันว่าการหารือครั้งล่าสุดของทหาร ไม่ได้มีการลงนามแต่อย่างใดเป็นเพียงสัญญาลูกผู้ชายที่คุยกันมองตารู้ใจเท่านั้นเอง

ทั้งนี้ จากการติดตามข่าวหลังการเจรจาพูดคุยกันครั้งล่าสุด ยังไม่พบการเคลื่อนไหวของกำลังทหารฝ่ายกัมพูชาแต่อย่างใด ทุกอย่างยังเป็นปกติเพียงแต่มีการแจ้งกันไปว่าจะมีการปรับกำลังเอาทหารมาสับเปลี่ยน หรือมาเสริมในตอนพัก ส่วนที่มีเสียงปืนดังขึ้น 2 ครั้งที่ภูมะเขือหลังการเจรจาของระดับผู้นำทหาร 2 ฝ่าย ไม่มีอะไร เป็นเรื่องธรรมดาอาจจะมีคนยิงหนูยิงนกก็เป็นเรื่องปกติ เพราะฝั่งโน้นเขามีสัตว์อะไรต่างๆ เยอะอยู่ เขาอาจจะทำอะไรก็ได้ ซึ่งเราได้ตรวจสอบไปแล้ว ฝ่ายเขาก็แจ้งว่าไม่มีอะไรและขอโทษฝ่ายไทยเรามาแล้ว

ต่อข้อถามว่า หลังการเจรจาแล้วแนวโน้มชายแดนจะดีขึ้น หรือจะไม่มีเหตุปะทะกันเกิดขึ้นอีกหรือไม่ และประชาชนไว้วางใจต่อสถานการณ์ได้หรือยัง พล.ท.ธวัชชัยกล่าวว่า ยังไม่ทราบในเรื่องนี้ เพราะไม่เกี่ยวกับเรา เราทำตามที่ได้พูดคุยตกลงกันไว้อยู่แล้ว ซึ่งเหตุปะทะทุกคนก็ไม่อยากให้มีเกิดขึ้นอีกอยู่แล้ว
พล.ท.ธวัชชัย  สมุทรสาคร มทภ.2 ประธานเปิดการประชุม




กำลังโหลดความคิดเห็น