แพร่ - ตำรวจภาค 5 พร้อม ตร.ภูธรจังหวัดแพร่ จับล็อตใหญ่ เฮโรอีนร่วม 200 กก.มูลค่านับพันล้าน พร้อมขบวนการค้ายานรก 12 คน และรถในขบวนอีก 5 คัน หลังขนผ่านเส้นทางสายรองในจังหวัดแพร่ เลี่ยงด่านตรวจมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ แต่หนีไม่พ้นเจอ จนท.ไล่จับ ก่อนนำไปซุกท่อคลองส่งน้ำ จนถูกพลเมืองดีพบเห็นแจ้ง ตร.เข้าจับกุมได้ เล็งขยายผลต่อ เชื่อเป็นแก๊งใหญ่จาก กทม.ขนจากเชียงราย
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดแพร่ ว่า เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ต.ต.สรณคมน์ กึกก้อง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองแพร่ ได้รับแจ้งจาก นายชัยชาญ วันมหาใจ ผู้ใหญ่บ้านปากห้วย หมู่ที่ 6 ตำบลวังธง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ว่า พบกลุ่มคนมีพิรุธ รวมตัวกันที่บริเวณป่าละเมาะใกล้กับคลองส่งน้ำสาย 11 ชลประทานบ้านวังธง จึงได้แจ้งให้ชุดกรรมการหมู่บ้านเข้าตรวจสอบ
ต่อมาเมื่อกลุ่มคนดังกล่าวเห็นว่า มีคนจำนวนมากมาที่บริเวณคลองส่งน้ำดังกล่าว จึงได้วิ่งหนีไป กรรมการหมู่บ้านจึงเข้าไปดู พบกระสอบฟาง บรรจุสิ่งของภายในจำนวน 12 ห่อ ซุกซ่อนบริเวณปากท่อส่งน้ำด้านล่างของป่าละเมาะ พร้อมกับได้แจ้งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองแพร่ เจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 50 นาย พร้อมตำรวจวิทยาการแพร่ เข้าร่วมตรวจสอบ เนื่องจากยังไม่ทราบว่าภายในบรรจุอะไร
นายสมศักดิ์ เทวินทร์ อายุ 55 ปี บ้านเลขที่ 56 หมู่ที่ 3 ต.วังธง อ.เมืองแพร่ ที่มีบ้านพักริมคลองส่งน้ำดังกล่าวเปิดเผยว่า ช่วงเวลาประมาณ 16.00 น.วันเดียวกัน ได้สังเกตพบว่ามีรถยนต์จำนวน 2-3 คันวิ่งมาจอดที่บริเวณดังกล่าว และมีกลุ่มวัยรุ่น 3-4 คน เดินลงไปด้านล่าง และขับรถออกไป
ตนจึงได้เข้าไปสอบถาม กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้ตะโกนมาว่ากำลังปลดทุกข์ ก็ไม่ได้สนใจอะไร คิดว่าเป็นชาวบ้านที่มาหาของป่า แต่พอใกล้ค่ำ สุนัขที่เลี้ยงไว้ได้เห่าไม่หยุด และพบว่ามีรถยนต์เข้ามาบริเวณดังกล่าวอีก ตนเห็นท่าไม่ดีจึงได้แจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านมาตรวจสอบ จนกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดขับรถหลบหนีไป
จากการตรวจสอบดังกล่าว เจ้าหน้าที่ถึงกับผงะ เมื่อพบว่ากระสอบฟาง 11 กระสอบ และเป้ทหารสะพายหลัง 1 ใบ รวมจำนวน 12 ถุงนั้น บรรจุเฮโรอีนบริสุทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์อัดแท่ง เต็มกระสอบ และใช้เชือกเถาวัลย์มัดปากถุง แล้วนำไปซ่อนไว้ในท่อส่งน้ำเพื่อรอการขนออกนอกพื้นที่
ขณะที่นายชวน ศิรินันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเมื่อเวลา 23.00 น.ก่อนมีการขนย้ายเฮโรอีนจำนวนทั้งหมดมาตรวจสอบที่กองบังคับการตำรวจภูธรแพร่ บอกว่า เป็นเฮโรอีนบริสุทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์อัดแท่ง รวมน้ำหนัก 195.2 กิโลกรัม และควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ทั้งสิ้นจำนวน 12 คน รถยนต์กระบะจำนวน 5 คัน ถือเป็นการจับกุมครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในจังหวัดแพร่ และถ้าเล็ดลอดผ่านไปได้จะมีราคาขายในตลาดมืดสูงกว่า 1,000 ล้านบาท เนื่องจากราคาซื้อขายตามชายแดนอยู่ที่กิโลกรัมละ 7.5 แสนบาท แต่ถ้าขายในตลาดมืดจะสูงมาก
ด้าน พล.ต.ต.พงษ์ศักก์ เชื้อสมบูรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่าง ตำรวจภูธรภาค 5 โดย พ.ต.อ.ธนรัตน์ สุขสวัสดิ์ ผู้กำกับสืบสวนภาค 5 ที่ติดตามสืบสวนและทราบว่าเป็นขบวนการใหญ่จากกรุงเทพมหานคร และเคยถูกจับกุมมาแล้ว จึงได้ขยายผลและทำให้ทราบว่า ขบวนการดังกล่าวจะใช้เส้นทางลำเลียงผ่านจังหวัดแพร่ แต่หลบเลี่ยงเส้นทางหลัก เนื่องจากมีการฝึกซ้อมตำรวจนับพันนายเตรียมพร้อมรับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 54 นี้ ทำให้ขบวนการดังกล่าวหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางหลัก หันมาใช้เส้นทางคลองส่งน้ำชลประทานที่เชื่อมต่อระหว่างอำเภอ มีรถร่วมขบวนจำนวน 2 คัน และรถขนจำนวน 2 คัน
เมื่อขบวนรถขนเฮโรอีนดังกล่าวมาถึงตลาดบ้านท่าขวัญ จ.ส.ต.สุรัตน์ชัย พันธุ์เวช เจ้าหน้าที่ตำรวจตู้ยามบ้านเวียงตั้ง ได้ตั้งด่านสกัดตรวจค้นตามปกติ และพบมีพิรุธ จึงขอตรวจค้น ปรากฏว่า รถทั้ง 4 คันขับหนี ทำให้ จ.ส.ต.สุรัตน์ชัย ตัดสินใจขับรถยนต์สกัดไว้แต่คนร้ายหนีไปได้ จนในที่สุดก็พบเบาะแสการจับกุมดังกล่าว
สำหรับผู้ต้องหาทั้งหมด ที่จับได้ในช่วงแรก 7 คน ทราบชื่อคือนายอดิศร ท่อเจริญไชยกุล อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 74/2 หมู่ที่ 25 ต.ตับเต่า อ.เถิง จ.เชียงราย เป็นคนขับรถยนต์โตโยต้าวีโก้สีดำทะเบียน บว 3149 เชียงราย และมีคนนั่งมาด้วยคือนายศักดิ์ดา อุ่นหล้า อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 25 หมู่ที่ 3 ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.นครพนม และนายเอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี บ้านเลขที่ 22 หมู่ที่ 15 ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย ซึ่งจับได้พร้อมรถที่ขับปิดท้ายขบวนจากจำนวน 4 คัน
ส่วน นายเน้ย แซ่ฟ้า อายุ 26 ปี บ้านเลขที่67/1 หมู่ที่ 15 ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย คนขับรถยนต์โตโยต้าวีโก สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ตธ -8716 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถนำคันที่ 1 มีคนนั่งมาด้วยคือนายสุวิท วงศ์บุญชัยประเสริฐ อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 93 หมู่ที่ 15 ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย, นายเอกพล แซ่ลี อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 2/1 หมู่ที่ 15 ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย และนายอนุชา แซ่ท่อ อายุ 20 ปี บ้านเลขที่ 2 ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย
ส่วนในตอนค่ำวันเดียวกัน สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้อีก 5 คน และรถยนต์ อีก 3 คัน รวมผู้ต้องหาทั้งหมด 12 คน รถยนต์จำนวน 5 คัน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามขยายผลการจับกุม และยึดทรัพย์ ขบวนการใหญ่นี้ต่อไป เนื่องจากพบว่ามีเครือข่ายกว้างขวางมาก และการจับกุมครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ใหญ่มาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจับกุมยาเสพติดในครั้งนี้สะท้อนถึงกระบวนการค้ายาเสพติดใช้จังหวัดแพร่เป็นฐานการค้า นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มนักการเมืองในท้องถิ่น ใช้ช่องทางตามระบบราชการเดินทางไปลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนพม่ามาพักไว้ในเขต อ.เด่นชัย และลำเลียงต่อเข้า กทม.ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดแพร่ ว่า เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ต.ต.สรณคมน์ กึกก้อง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองแพร่ ได้รับแจ้งจาก นายชัยชาญ วันมหาใจ ผู้ใหญ่บ้านปากห้วย หมู่ที่ 6 ตำบลวังธง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ว่า พบกลุ่มคนมีพิรุธ รวมตัวกันที่บริเวณป่าละเมาะใกล้กับคลองส่งน้ำสาย 11 ชลประทานบ้านวังธง จึงได้แจ้งให้ชุดกรรมการหมู่บ้านเข้าตรวจสอบ
ต่อมาเมื่อกลุ่มคนดังกล่าวเห็นว่า มีคนจำนวนมากมาที่บริเวณคลองส่งน้ำดังกล่าว จึงได้วิ่งหนีไป กรรมการหมู่บ้านจึงเข้าไปดู พบกระสอบฟาง บรรจุสิ่งของภายในจำนวน 12 ห่อ ซุกซ่อนบริเวณปากท่อส่งน้ำด้านล่างของป่าละเมาะ พร้อมกับได้แจ้งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองแพร่ เจ้าหน้าที่จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 50 นาย พร้อมตำรวจวิทยาการแพร่ เข้าร่วมตรวจสอบ เนื่องจากยังไม่ทราบว่าภายในบรรจุอะไร
นายสมศักดิ์ เทวินทร์ อายุ 55 ปี บ้านเลขที่ 56 หมู่ที่ 3 ต.วังธง อ.เมืองแพร่ ที่มีบ้านพักริมคลองส่งน้ำดังกล่าวเปิดเผยว่า ช่วงเวลาประมาณ 16.00 น.วันเดียวกัน ได้สังเกตพบว่ามีรถยนต์จำนวน 2-3 คันวิ่งมาจอดที่บริเวณดังกล่าว และมีกลุ่มวัยรุ่น 3-4 คน เดินลงไปด้านล่าง และขับรถออกไป
ตนจึงได้เข้าไปสอบถาม กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้ตะโกนมาว่ากำลังปลดทุกข์ ก็ไม่ได้สนใจอะไร คิดว่าเป็นชาวบ้านที่มาหาของป่า แต่พอใกล้ค่ำ สุนัขที่เลี้ยงไว้ได้เห่าไม่หยุด และพบว่ามีรถยนต์เข้ามาบริเวณดังกล่าวอีก ตนเห็นท่าไม่ดีจึงได้แจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านมาตรวจสอบ จนกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดขับรถหลบหนีไป
จากการตรวจสอบดังกล่าว เจ้าหน้าที่ถึงกับผงะ เมื่อพบว่ากระสอบฟาง 11 กระสอบ และเป้ทหารสะพายหลัง 1 ใบ รวมจำนวน 12 ถุงนั้น บรรจุเฮโรอีนบริสุทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์อัดแท่ง เต็มกระสอบ และใช้เชือกเถาวัลย์มัดปากถุง แล้วนำไปซ่อนไว้ในท่อส่งน้ำเพื่อรอการขนออกนอกพื้นที่
ขณะที่นายชวน ศิรินันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเมื่อเวลา 23.00 น.ก่อนมีการขนย้ายเฮโรอีนจำนวนทั้งหมดมาตรวจสอบที่กองบังคับการตำรวจภูธรแพร่ บอกว่า เป็นเฮโรอีนบริสุทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์อัดแท่ง รวมน้ำหนัก 195.2 กิโลกรัม และควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ทั้งสิ้นจำนวน 12 คน รถยนต์กระบะจำนวน 5 คัน ถือเป็นการจับกุมครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในจังหวัดแพร่ และถ้าเล็ดลอดผ่านไปได้จะมีราคาขายในตลาดมืดสูงกว่า 1,000 ล้านบาท เนื่องจากราคาซื้อขายตามชายแดนอยู่ที่กิโลกรัมละ 7.5 แสนบาท แต่ถ้าขายในตลาดมืดจะสูงมาก
ด้าน พล.ต.ต.พงษ์ศักก์ เชื้อสมบูรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแพร่ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ เป็นความร่วมมือระหว่าง ตำรวจภูธรภาค 5 โดย พ.ต.อ.ธนรัตน์ สุขสวัสดิ์ ผู้กำกับสืบสวนภาค 5 ที่ติดตามสืบสวนและทราบว่าเป็นขบวนการใหญ่จากกรุงเทพมหานคร และเคยถูกจับกุมมาแล้ว จึงได้ขยายผลและทำให้ทราบว่า ขบวนการดังกล่าวจะใช้เส้นทางลำเลียงผ่านจังหวัดแพร่ แต่หลบเลี่ยงเส้นทางหลัก เนื่องจากมีการฝึกซ้อมตำรวจนับพันนายเตรียมพร้อมรับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 54 นี้ ทำให้ขบวนการดังกล่าวหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางหลัก หันมาใช้เส้นทางคลองส่งน้ำชลประทานที่เชื่อมต่อระหว่างอำเภอ มีรถร่วมขบวนจำนวน 2 คัน และรถขนจำนวน 2 คัน
เมื่อขบวนรถขนเฮโรอีนดังกล่าวมาถึงตลาดบ้านท่าขวัญ จ.ส.ต.สุรัตน์ชัย พันธุ์เวช เจ้าหน้าที่ตำรวจตู้ยามบ้านเวียงตั้ง ได้ตั้งด่านสกัดตรวจค้นตามปกติ และพบมีพิรุธ จึงขอตรวจค้น ปรากฏว่า รถทั้ง 4 คันขับหนี ทำให้ จ.ส.ต.สุรัตน์ชัย ตัดสินใจขับรถยนต์สกัดไว้แต่คนร้ายหนีไปได้ จนในที่สุดก็พบเบาะแสการจับกุมดังกล่าว
สำหรับผู้ต้องหาทั้งหมด ที่จับได้ในช่วงแรก 7 คน ทราบชื่อคือนายอดิศร ท่อเจริญไชยกุล อายุ 22 ปี บ้านเลขที่ 74/2 หมู่ที่ 25 ต.ตับเต่า อ.เถิง จ.เชียงราย เป็นคนขับรถยนต์โตโยต้าวีโก้สีดำทะเบียน บว 3149 เชียงราย และมีคนนั่งมาด้วยคือนายศักดิ์ดา อุ่นหล้า อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 25 หมู่ที่ 3 ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.นครพนม และนายเอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี บ้านเลขที่ 22 หมู่ที่ 15 ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย ซึ่งจับได้พร้อมรถที่ขับปิดท้ายขบวนจากจำนวน 4 คัน
ส่วน นายเน้ย แซ่ฟ้า อายุ 26 ปี บ้านเลขที่67/1 หมู่ที่ 15 ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย คนขับรถยนต์โตโยต้าวีโก สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ตธ -8716 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถนำคันที่ 1 มีคนนั่งมาด้วยคือนายสุวิท วงศ์บุญชัยประเสริฐ อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 93 หมู่ที่ 15 ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย, นายเอกพล แซ่ลี อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 2/1 หมู่ที่ 15 ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย และนายอนุชา แซ่ท่อ อายุ 20 ปี บ้านเลขที่ 2 ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย
ส่วนในตอนค่ำวันเดียวกัน สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้อีก 5 คน และรถยนต์ อีก 3 คัน รวมผู้ต้องหาทั้งหมด 12 คน รถยนต์จำนวน 5 คัน
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามขยายผลการจับกุม และยึดทรัพย์ ขบวนการใหญ่นี้ต่อไป เนื่องจากพบว่ามีเครือข่ายกว้างขวางมาก และการจับกุมครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ใหญ่มาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจับกุมยาเสพติดในครั้งนี้สะท้อนถึงกระบวนการค้ายาเสพติดใช้จังหวัดแพร่เป็นฐานการค้า นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มนักการเมืองในท้องถิ่น ใช้ช่องทางตามระบบราชการเดินทางไปลำเลียงยาเสพติดจากชายแดนพม่ามาพักไว้ในเขต อ.เด่นชัย และลำเลียงต่อเข้า กทม.ด้วย