พิษณุโลก - ป่าไม้สนธิกำลังจับไม้สักแปรรูป และไม้ท่อนบนยอดเขา ป่าสงวนแห่งชาติป่าเขากระยาง นครไทย หลังชาวบ้านร้องอดีตผู้ใหญ่บ้านอยู่เบื้องหลังตัดไม้ และแผ้วถางบุกรุกป่าใหม่ ขณะที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้อีกชุดขอหมายค้น บุกบ้านคนชาติตระการ เตรียมยึดบ้านสักตีแปะอำพราง หลังขยายผลจับกุมแปรรูปไม้สักกว่าร้อยแผ่น
วันนี้ (17 ก.พ.) นายนันทพงษ์ คำปิน หัวหน้าสายตรวจป่าไม้ภาคเหนือ นำเจ้าหน้าที่สายตรวจปราบปรามการกระทำความผิดกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ (ป่าไม้ภาคเหนือ) หน่วยป้องกันรักษาป่า พล14 (น้ำคลาด), ตำรวจป่าไม้ กก.4 บก ปทส., นปม., พร้อมกำลัง ตชด.315 ได้รับแจ้งว่า มีการบุกรุกป่าและลักลอบตัดไม้ แปรรูปไม้ จึงนำกำลังจำนวน 20 นาย เข้าไปตรวจสอบ บริเวณทางเข้าหมู่บ้านน้ำลัด บ้านเนินพลวง หมู่ 22 ต.หนองกระท้าว อ.นครไทย พิษณุโลก ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนโซน c หรือป่าสงวนแห่งชาติป่าเขากระยาง ในเขตอำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก
โดยสามารถยึดไม้สักจำนวนหลายท่อน 19 ท่อน ไม้สักแปรรูป จำนวน 17 แผ่น และไม้กระยาเลย 30 ท่อน (ยังไม่สามารถชักลากออกมาได้) บนพื้นที่เปิดใหม่ 28 ไร่ 1 งาน 4 ตารางวา ตามไหล่เขา บริเวณเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขากระยาง เขตอำเภอนครไทย จากนั้นได้นำไม้สักท่อน และไม้สักแปรรูปที่ถูกตัดทิ้งบนเขามาเก็บไว้หน่วยน้ำคลาด พร้อมยึดที่ดินที่ถูกแผ้วถางบริเวณป่าสงวนแห่งชาติ ใกล้กับสวนยางพารา
นายนันทพงษ์ กล่าว่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้สนธิกำลัง พร้อมร่วมกับ นายไชยา สิงหพันธ์ นิติกร กรมป่าไม้ เข้าตรวจสอบพื้นที่หลังจากมีชาวบ้านร้องเรียน ว่า พบการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเขากระยาง จำนวนกว่า 100 ไร่ ซึ่งที่ดินดังกล่าวเป็นของ นายสุบิน เชื้อบุญมี อดีตผู้ใหญ่บ้าน ต.หนองกระท้าว
จากการตรวจสอบ พบว่า ป่าถูกแผ้วถางป่า ตัดไม้ และแปรรูปบนยอดเขาบริเวณกว้าง ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้จึงได้ยึดไม้กระยาเลย ไม้สักท่อน ไม้สักแปรรูป และยึดที่ดินทั้งหมดนำส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นครไทย เพื่อดำเนินตรวจสอบหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามฐานความผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 11 ทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 69, มาตรา 48 มีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในครอบครอง และ มาตรา 14 พ.ร.บ.ป่าสงวน 2507 ทำไม้ในเขตป่าสงวน และตรวจสอบที่ดินแล้วว่า ไม่ใช่ที่ดิน ส.ป.ก.ตามที่ นายสุบิน อดีตผู้ใหญ่บ้านกล่าวอ้าง
วันเดียวกันนั้น เจ้าหน้าที่ป่าไม้, ตำรวจ สภ.ชาติตระการ และ ตชด.ได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 52/1 หมู่บ้านห้วยดี หมู่ที่ 7 ตำบลท่าสะแก อำเภอชาติตระการ ของ นายประมวล มหาการเกตุ หลังมีการลักลอบทำไม้และแปรรูปไม้สัก โดยนำไม้สักที่ได้จากการแปรรูปไปตีแปะอำพราง จำนวน 2 หลัง
ซึ่งเป็นการขยายผลหลังจาก นายประสงค์ อุไรวรณ์ นายอำเภอชาติตระการ, นายมานพ สายอุ่นใจ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการยุทธการแก้ไขปัญหาวิกฤตป่าไม้ของชาติที่ 2 พิษณุโลก ยึดไม้บรรทุกไม้สักแปรรูป จำนวน 29 ท่อน ไม้สักแปรรูปจำนวน 105 แผ่น ปริมาณ 7.65 ลูกบาศก์เมตร กองรวมกันอยู่ พร้อมตรวจดูที่บริเวณหน้าตัดของไม้ทุกท่อน/แผ่น ไม่ปรากฏรูปรอยตราของพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือรอยตราเอกชนตีประทับ
จึงได้ตรวจยึดของกลางและรวบรวมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องขยายผล นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรชาติตระการ กระทั่งขอหมายค้นจากศาลจังหวัดพิษณุโลก ที่ 61//2554 และ 62/2554 เพื่อตรวจสอบบ้าน นายประมวล มหาการเกตุเพื่อทำการตรวจสอบ และเตรียมขอผู้เชี่ยวชาญจากกรมป่าไม้ทำการตรวจพิสูจน์ว่า เป็นสิ่งปลูกสร้างก็คือบ้าน หรือไม้แปรรูป (อำพราง) หากระบุว่า เป็นบ้านที่นำไม้สักมาตีแปะหรืออำพราง ก็จะให้อำนาจศาลจังหวัดพิษณุโลกยึดไม้บ้านดังกล่าวต่อไป