ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้ประกอบการบนเกาะเสม็ด จังหวัดระยอง ไม่เห็นด้วย ที่จังหวัดร่วมกับผู้ประกอบการจากกทม. จัดงาน “คอนเสิร์ตเสม็ดอินเลิฟ” ในวันที่ 19 ก.พ.ทั้งที่เป็นช่วงไฮซีซันมีนักท่องเที่ยวมากอยู่แล้ว หากสนับสนุนและส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวจริงควรจัดช่วงโลว์ซีซัน จะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการบนเกาะ
นางสาวจันจิรา สังข์สุวรรณ ผู้ประกอบการไวส์แซนด์ รีสอร์ท กล่าวถึงการจัดงาน “คอนเสิร์ตเสม็ดอินเลิฟ” ในความเป็นจริงไม่ควรจัดในช่วงไฮซีซัน เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาพักผ่อนบนเกาะเสม็ดเป็นจำนวนมากอยู่แล้วในช่วงนี้ และในวันที่มีงานเป็นวันหยุดหลายวัน ยิ่งจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะสร้างปัญหาด้านห้องน้ำ ขยะและน้ำเสีย
“การจะช่วยสนับสนุนหรือส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะเสม็ด หรือจังหวัดระยอง น่าจะใช้ช่วงเวลาที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาพักผ่อนน้อย ซึ่งถือว่าเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการ แต่การจัดงานในครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นการช่วยเหลือ แต่กลับจากสร้างปัญหาหรือผลกระทบ เพราะงานคอนเสิร์ต เมื่อมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวจำนวนมาก ห้องน้ำของรีสอร์ตมีไม่เพียงพอในการรองรับ โดยจะใช้ชายหาดแทนห้องน้ำ และผลกระทบที่เกิดขึ้น มีมากหลังจากจบงานคอนเสิร์ต” นางสาวจันจิรา กล่าว
นางสาวจันจิรา กล่าวต่อไปว่า ในความเป็นจริงการจัดงานคอนเสิร์ตดังกล่าว ควรจะสอบถามความคิดเห็นจากผู้ประกอบการในพื้นที่ ว่าในช่วงระยะเวลาใดที่เหมาะสมในการจัดงานดังกล่าว ไม่ใช่ถึงจะจัดวันไหนก็จัดได้ทันที โดยที่ผู้ประกอบการไม่ทราบเรื่องเลย ถือว่าไม่ถูกต้องหรือเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการให้มีรายได้เพิ่มขึ้น
นอกจากนั้น ผู้จัดงานคอนเสิร์ตยังปิดพื้นที่บริเวณหาดทรายแก้ว โดยจำหน่ายบัตรผู้ที่เข้ามาเที่ยวงานบัตรละ 1,200 บาทต่อคน ซึ่งมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ที่ต้องการมาพักผ่อนบริเวณชายหาดทรายแก้วต้องได้รับผลกระทบด้วย เพราะไม่สามารถผ่านเข้าออกบริเวณดังกล่าว เนื่องจากต้องเสียเงินเข้าพื้นที่พื้นที่
นางสาวจันจิจา กล่าวว่า คอนเสิร์ตดังกล่าว เคยจัดมาแล้ว 1 ครั้งเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งสร้างปัญหาและผลกระทบต่อผู้ประกอบการ และในครั้งนี้ก็จัดขึ้นอีกโดยผู้ประกอกบการส่วนใหญ่ไม่ทราบเลยว่าจะมีคอนเสิร์ตดังกล่าวบนเกาะเสม็ด และไม่มีใครเห็นด้วย แต่การจัดครั้งนี้เป็นนโยบายของทางจังหวัดที่ร่วมมือกับภาคเอกชนจากส่วนกลางจัดงานนี้ขึ้นมา
ด้านแหล่งข่าวผู้ประกอบการ ทรายแก้ว รีสอร์ท กล่าวว่า ในความเป็นจริงการมีคอนเสิร์ต ถือว่าเป็นสิ่งที่มีที่จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยว และพักผ่อนเพิ่มมากขึ้น แต่ช่วงเวลาในการจัดงานนั้นถือว่าไม่เหมาะสม เนื่องจากผู้ในช่วงเทศกาลและมีวันหยุดหลายวัน ซึ่งหากจะจัดจริงๆแล้ว ควรจะใช้ในช่วงโลซีซัน ที่มีนักท่องเที่ยวน้อยลง ซึ่งจะถือว่าเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการอย่างแท้จริง
สำหรับพื้นที่บริเวณจัดงานดังกล่าว เป็นพื้นที่ที่ไม่กว้างมากนัก และหากมีนักท่องเที่ยว เดินทางมาเที่ยวเป็นจำนวนมาก อาจจะผลต่อสภาพแวดล้อม หรือต้นไม้ที่ปลูกไว้ถูกทำลายลงได้ โดยควรตระหนักในปัญหาหลายๆด้านหากจะมีงานขนาดใหญ่เกิดขึ้นบนเกาะเสม็ด
นายลาภสิน พุดซ้อน ผู้ประกอบบนหาดแสงจันทร์ เผยว่า การจัดงานดังกล่าวในครั้งนี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และไม่สมควรที่อย่างยิ่ง เนื่องจากที่ผ่านมา ทางอุทยานได้มีประกาศห้ามหาผลประโยชน์ในเขตอุทยานแห่งชาติ และห้ามไม่ให้ผู้ประกอบการดำเนินการใดๆในเขตอุทยาน รวมทั้งห้ามมิให้ มีการขายเครื่องดื่มมึนเมา โดยที่ผ่านมาชาวบ้านและผู้ประกอบการบนเกาะที่ทำผิดก็ถูกดำเนินคดีไปแล้วหลายราย
ในครั้งนี้ทางภาครัฐกลับให้เอกชนจากส่วนกลาง มาทำผิดกฎหมายเสียเอง โดยการจัดงาน “เสม็ดอินเลิฟ” ซึ่งถือว่าเป็นการทำผิดกฎหมายของอุทยานเอง เพราะถือว่าเป็นการจัดกิจกรรมเพื่อหาผลปนระโยชน์ รวมทั้งในเรื่องของมึนเมา ซึ่งจะต้องนำมาจำหน่ายกันอย่างแน่นอน
“พวกเราชาวเกาะเสม็ดไม่ทราบว่าการที่จังหวัดเข้ามาจัดงานนั้นเพื่ออะไร เพราะหากจะบอกว่าเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวคงจะไม่ถูกต้องนัก เพราะปัจจุบันเกาะเสม็ด เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกไปอยู่ จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องมีการจัดงานเพื่อประชาชนสัมพันธ์อีก ซึ่งการจัดงานใหญ่ขนาดนี้ ยังเป็นการทำลายธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม หลังจากที่เลิกงาน สิ่งที่ทิ้งไว้บนเกาะคือ ขยะ ซึ่งชุมชนบนเกาะเสม็ดจะต้องรับผิดชอบ จึงอยากให้ภาครัฐ ได้คิดและทบทวน เพราะการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำ 2 มาตรฐาน”