ประจวบคีรีขันธ์ - ลูกสาวโร่แจ้งตำรวจ หลังพบกระดูกถูกเผาในไร่ สงสัยเป็นพ่อที่หายตัวไปพร้อมรถกว่า 3 สัปดาห์ก่อน ขณะที่ตำรวจยังไม่สามารถระบุชัดว่ากระดูกมนุษย์ ต้องส่งพิสูจน์ให้ชัดเจนก่อน
เมื่อเวลา 15.15 น. วันนี้ (15 เม.ย.5) พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ สืบหยิ่ว พนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งจาก น.ส.จันจิรา เนียมนิล อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 199 ม.13 ต.ทับใต้ อ.หัวหิน ว่า ขณะนี้พบเศษกระดูกจำนวนมาถูกเผากระจัดกระจายอยู่ ภายในไร่ในพื้นที่หมู่ 2 ต.ทับใต้ อ.หัวหิน ของนายวีรชัย เนียมนิล อายุ 57 ปี ผู้เป็นพ่อของตน และตนเองคาดว่าน่าจะเป็นกระดูกของ นายวีรชัย ซึ่งเป็นพ่อของตนเอง ที่หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.56 ที่ผ่านมา และตนกับนางจิดาภา ผสมทอง ผู้เป็นแม่ได้นำความเข้าแจ้งต่อ พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา
หลังรับแจ้ง พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วจึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.ธกมน สีทะหา สวป.สภ.หัวหิน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างหัวหิน รุดไปยังที่ได้รับแจ้งพบ น.ส.จันจิรา และนางจิดาภา และชาวบ้านจำนวนหนึ่ง อยู่ในที่ได้รับแจ้ง โดยชาวบ้านต่างกระจัดกระจายช่วยกันขุดคุ้ยกองขี้เถ้าขุยมะพร้าว และตอไม้ไผ่ที่ถูกไฟไหม้ โดยมี น.ส.จันจิรา ยืนร่ำให้กอดกะละมังที่มีผ้าขาวปูรองอยู่ภายในมีเศษซากกระดูกชิ้นเล็กชิ้นน้อยซึ่งถูกไฟเผาจนเป็นเถ้าถ่าน
น.ส.จันจิรา กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าเศษเถ้ากระดูกดังกล่าวนั้นเป็นกระดูกของ นายวีรชัย ผู้เป็นพ่อที่หายตัวไป พร้อมกับรถยนต์กระบะสี่ประตู ยี่ห้อมาสด้า บีที 50 สีดำ หมายเลขทะเบียน กจ 1081 ประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่ประมาณวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยพ่อไม่ได้เอาทรัพย์สินอะไรไปเลย แม้แต่บัตรประชาชน ใบขับขี่ก็ยังอยู่ และโทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้ โดยไม่มีใครรู้ว่าพ่อหายไปไหน เพราะพ่ออยู่บ้านที่ปลูกอยู่ในไร่ที่มีเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่เพียงคนเดียว ก่อนหายตัวไป พ่อก็แบ่งขายไป 2 ไร่ ได้เงินมา 2 ล้านบาทก็เอามาใช้หนี้ธนาคาร และก็ยังมีเงินเหลืออยู่ แต่ตรวจสอบเงินแล้วก็ยังอยู่ครบถ้วนดี
แต่ก่อนที่พ่อจะหายตัวไปไม่กี่วัน ได้ให้นายใหญ่ ที่ทำร้านค้าซื่อโชคศิวัฒน์ ตั้งอยู่ที่ อ.ปราณบุรี มาเหมาตัดไม้ไผ่ที่มีอยู่ภายในไร่ทั้งหมดไปในราคา 10,800 บาท หลังจากนั้นนายใหญ่ ได้ให้คนงานชาวพม่าเข้ามาตัดไม้ไผ่ไป พร้อมกับทำการขุดแล้วเผาต่อไม้ไผ่ด้วย จากนั้นก็ไม่เจอตัวพ่ออีกเลยตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค. ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าพ่อหายตัวไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันแน่ เพราะมีเพื่อนบ้านชื่อนางลี ซึ่งเป็นภรรยาชาวต่างชาติ โทร.มาหาตนเองวันที่ 19 และถามว่าพ่อไปไหนโทร.ไม่ติดเลย
เมื่อตนรู้จึงขับรถมาดูก็ไม่พบแล้วบ้านก็ปิด สอบถามคนงาน จำนวน 5 คน ที่มาตัดไม้ไผ่ ซึ่งเป็นชาวพม่า ต่างก็พูดจาวกวน และบอกว่าไม่รู้ แต่เมื่อเย็นวันที่ 18 ยังเห็นนั่งกินข้าวอยู่เลย ตนพยายามโทรศัพท์หาแต่ก็ติดต่อไม่ได้ จนวันที่ 23 มี.ค.ตนพร้อมแม่ และน้องๆ จึงพากันไปแจ้งความเอาไว้ และออกติดตามหาตลอดมาแต่ไม่พบ และจนวันนี้ตนสงสัยว่าทำไมถึงมีการเผาต่อเนื่องในไร่หลายวันมาแล้ว ทั้งที่พ่อไม่อยู่จึงช่วยกันคุ้ยดูก็พบเศษเถ้า และชิ้นส่วนกระดูกต่างๆ จำนวนมาก ดังนั้น ตนเองจึงเชื่อว่าพ่อน่าจะถูกฆ่าตายแล้วเผาดังกล่าว ส่วนรถคงถูกชิงเอาไปด้วย จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว
พ.ต.ท.ธกมน กล่าวว่า สำหรับเศษชิ้นส่วนกระดูกที่พบนั้นยังปักใจเชื่อไม่ได้ ดังนั้น จะทำการส่งชิ้นส่วนไปทำการตรวจพิสูจน์ทางดีเอ็นเอกับบรรดาลูกๆ ว่าตรงกันหรือไม่ต่อไป และจะเร่งติดตามเอาตัวผู้ต้องสงสัย โดยเฉพาะนายใหญ่ และคนงานชาวพม่าที่มารับเหมาตัดไม้ไผ่ทั้งหมดมาสอบสวนต่อไป