พระนครศรีอยุธยา - ปรรชาชนโวยรถไฟเสียไปเลือกตั้งต่างจังหวัดไม่ทันเกือบ 1,000 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 02.50 น.วันนี้ (3 ก.ค.) พ.ต.อ.ศารทูล ประดิษฐ์ ผกก.สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งว่า มีผู้โดยสารรถไฟเกือบ 1,000 คน กำลังจะเดินทางไปเลือกตั้ง ส.ส.ที่ จ.อุบลราชธานี แต่รถไฟเกิดเสียที่สถานีรถไฟคลองพุทรา ต.บางกระสั้น อ.บางปะอิน สร้างความไม่พอใจผู้โดยสารจึงลงมาประท้วงเกิดความวุ่นวายกลัวก่อเหตุจลาจลจึงสั่งการให้ พ.ต.ท.สมนึก สีดารักษ์ สวป.พร้อมกำลังรุดไประงับเหตุ
ไปถึงพบรถไฟสายกรุงเทพ-อุบลราชธานี ขบวนที่ 977 จำนวน 5 โบกี้ (รถขบวนเสริม) จอดเสียอยู่ด้านหน้าสถานีรถไฟคลองพุทรามีผู้โดยสารจำนวนมากลงมาจับกลุ่มและต่อรองกับเจ้าหน้าที่ให้นำรถบัสมารับแทนเพราะว่าจะไปเลือกตั้งไม่ทันถ้ารอรถไฟ เจ้าหน้าที่รถไฟได้ประสานไปทางกรุงเทพให้ปล่อยรถไฟมารับผู้โดยสาร จนกระทั่งเวลา 04.50 น.รถไฟสายกรุงเทพ-สุรินทร์ ขบวนที่ 143 (ขบวนรถเสริม) มารับผู้โดยสารทั้งหมดเดินทางต่อไปและนำส่งถึง จ.อุลบราชธานี
นายจันทร์ ชินวงศ์ อายุ 50 ปีชาว จ.อุบลราชธานี ผู้โดยสารกล่าวว่า ตนและภรรยาขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิลงทุนปิดร้านตั้งใจจะไปเลือกตั้งที่บ้านเกิดที่เขต 4 จ.อุบลราชธานีแต่ต้องผิดหวังอย่างมากที่รถไฟเกิดเสียอย่างกะทันหัน โดยตนมองว่าน่าจะเกี่ยวกับการเมืองซึ่งส่วนใหญ่ผู้โดยสารจะไปเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย
นายภาณุพงศ์ บัวพา อายุ 20 ปี หนุ่มอุบลราชธานี บอกว่า ตั๋วลงเวลารถออก 22.00 น.แต่รถไฟได้เดินทางออกจากกรุงเทพฯประมาณ 24.00 น.ล่าช้าไป 2 ชั่วโมงจากการสังเกต พบว่ารถไฟสายเหนือและสายใต้ถูกปล่อยไปก่อน 3-4 ขบวน รถไฟมาเสียที่สถานีคลองพุทราประมาณ 02.50 น.และรอรถไฟมารับประมาณ05.00 น.เดินทางต่อคาดว่าไปเลือกตั้งไม่ทันแน่นอน
นายสมควร จันจินดา นายสถานีรถไฟคลองพุทรา กล่าวว่า โดยปกติรถไฟก็มีเสียเกือบทุกวันตามเส้นทางแต่วันนี้เป็นวันเลือกตั้งทุกคนจึงมองว่าเป็นเรื่องการเมืองเมื่อมีรถไฟมาเสียที่สถานีทางสถานีก็ได้ประสานนำรถไฟมารับผู้โดยสารเดินทางต่อไปได้ซึ่งรถไฟออกจากสถานีคลองพุทราเวลา 04.57 น.ไปถึงปลายทางจ.อุบลราชธานีประมาณ 15.00 น.ส่วนขบวนรถไฟที่เสียจะได้ประสานให้เจ้าหน้าที่รถไฟลากกลับไปซ่อมที่กรุงเทพฯต่อไป
นายทินกร ศรีผุดผ่อง พนักงานขับรถไฟ กล่าวว่า การทางรถไฟได้วางแผน และมีเจตนาดีที่จะส่งเสริมการเลือกตั้งโดยเสริมขบวนรถไฟที่จะขนส่งพี่น้องเดินทางกลับภูมิลำเนาไปเลือกตั้งแต่ขบวนรถไฟออกจากกรุงเทพเครื่องยนต์เกิดขัดข้องจนกระทั่งมาถึงสถานีรถไฟคลองพุทราซึ่งเป็นเหตุสุดวิสัยที่เครื่องเกิดชำรุดกลางทาง
นายชาญชัย โพกดอกไม้ นายสถานีรถไฟอยุธยา เปิดเผยกรณีที่ขบวนรถไฟ เสียนานกว่า 7 ชั่วโมงว่า ว่า ขบวนรถดังกล่าวเป็นขบวนรถเสริม ขบวนที่ 977 กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี ออกจาก กทม.เวลาประมาณ 4 ทุ่ม และมาเสียบริเวณสถานีคลองพุทรา อ.บางปะอิน เนื่องจากเกียร์ของรถไฟพัง ไม่สามารถซ่อมแซมได้ จึงต้องรอรถขบวนใหม่มาเปลี่ยน โดยรถขบวนที่มาเปลี่ยนเป็นรถดีเซลรางเสริมพิเศษ ขบวนรถที่ 143 เที่ยว 2 กรุงเทพฯ-สุรินทร์ ออกจาก กทม.เวลา 03.00 น.และมารับคนที่จุดดังกล่าวถึงสถานีถึงสถานีอยุธยา เวลา 05.00 น.โดยล่าสุดการรถไฟแห่งประเทศไทย ขยายปลายทางจาก จ.สุรินทร์ ให้ไปถึง จ.อุบลราชธานี เพื่อส่งประชาชนที่ต้องการจะเดินทางไปเลือกตั้งแล้ว
นายสถานีรถไฟอยุธยา กล่าวว่า รถไฟที่เสียในครั้งนี้ เกิดจากสภาพหัวรถจักร ไม่เกี่ยวกับการถ่วงเวลาประชาชน เพื่อไม่ให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งแต่อย่างใด ซึ่งประชาชนที่อยู่ในขบวนรถไฟดังกล่าวมีราว 1,000 คน ซึ่งเมื่อเกิดรถไฟเสีย และยังไม่มีรถมาเปลี่ยนทำให้หลายคนเข้าใจว่าถูกรัฐบาลกลั่นแกล้งนั้น ไม่เป็นความจริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 02.50 น.วันนี้ (3 ก.ค.) พ.ต.อ.ศารทูล ประดิษฐ์ ผกก.สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งว่า มีผู้โดยสารรถไฟเกือบ 1,000 คน กำลังจะเดินทางไปเลือกตั้ง ส.ส.ที่ จ.อุบลราชธานี แต่รถไฟเกิดเสียที่สถานีรถไฟคลองพุทรา ต.บางกระสั้น อ.บางปะอิน สร้างความไม่พอใจผู้โดยสารจึงลงมาประท้วงเกิดความวุ่นวายกลัวก่อเหตุจลาจลจึงสั่งการให้ พ.ต.ท.สมนึก สีดารักษ์ สวป.พร้อมกำลังรุดไประงับเหตุ
ไปถึงพบรถไฟสายกรุงเทพ-อุบลราชธานี ขบวนที่ 977 จำนวน 5 โบกี้ (รถขบวนเสริม) จอดเสียอยู่ด้านหน้าสถานีรถไฟคลองพุทรามีผู้โดยสารจำนวนมากลงมาจับกลุ่มและต่อรองกับเจ้าหน้าที่ให้นำรถบัสมารับแทนเพราะว่าจะไปเลือกตั้งไม่ทันถ้ารอรถไฟ เจ้าหน้าที่รถไฟได้ประสานไปทางกรุงเทพให้ปล่อยรถไฟมารับผู้โดยสาร จนกระทั่งเวลา 04.50 น.รถไฟสายกรุงเทพ-สุรินทร์ ขบวนที่ 143 (ขบวนรถเสริม) มารับผู้โดยสารทั้งหมดเดินทางต่อไปและนำส่งถึง จ.อุลบราชธานี
นายจันทร์ ชินวงศ์ อายุ 50 ปีชาว จ.อุบลราชธานี ผู้โดยสารกล่าวว่า ตนและภรรยาขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิลงทุนปิดร้านตั้งใจจะไปเลือกตั้งที่บ้านเกิดที่เขต 4 จ.อุบลราชธานีแต่ต้องผิดหวังอย่างมากที่รถไฟเกิดเสียอย่างกะทันหัน โดยตนมองว่าน่าจะเกี่ยวกับการเมืองซึ่งส่วนใหญ่ผู้โดยสารจะไปเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย
นายภาณุพงศ์ บัวพา อายุ 20 ปี หนุ่มอุบลราชธานี บอกว่า ตั๋วลงเวลารถออก 22.00 น.แต่รถไฟได้เดินทางออกจากกรุงเทพฯประมาณ 24.00 น.ล่าช้าไป 2 ชั่วโมงจากการสังเกต พบว่ารถไฟสายเหนือและสายใต้ถูกปล่อยไปก่อน 3-4 ขบวน รถไฟมาเสียที่สถานีคลองพุทราประมาณ 02.50 น.และรอรถไฟมารับประมาณ05.00 น.เดินทางต่อคาดว่าไปเลือกตั้งไม่ทันแน่นอน
นายสมควร จันจินดา นายสถานีรถไฟคลองพุทรา กล่าวว่า โดยปกติรถไฟก็มีเสียเกือบทุกวันตามเส้นทางแต่วันนี้เป็นวันเลือกตั้งทุกคนจึงมองว่าเป็นเรื่องการเมืองเมื่อมีรถไฟมาเสียที่สถานีทางสถานีก็ได้ประสานนำรถไฟมารับผู้โดยสารเดินทางต่อไปได้ซึ่งรถไฟออกจากสถานีคลองพุทราเวลา 04.57 น.ไปถึงปลายทางจ.อุบลราชธานีประมาณ 15.00 น.ส่วนขบวนรถไฟที่เสียจะได้ประสานให้เจ้าหน้าที่รถไฟลากกลับไปซ่อมที่กรุงเทพฯต่อไป
นายทินกร ศรีผุดผ่อง พนักงานขับรถไฟ กล่าวว่า การทางรถไฟได้วางแผน และมีเจตนาดีที่จะส่งเสริมการเลือกตั้งโดยเสริมขบวนรถไฟที่จะขนส่งพี่น้องเดินทางกลับภูมิลำเนาไปเลือกตั้งแต่ขบวนรถไฟออกจากกรุงเทพเครื่องยนต์เกิดขัดข้องจนกระทั่งมาถึงสถานีรถไฟคลองพุทราซึ่งเป็นเหตุสุดวิสัยที่เครื่องเกิดชำรุดกลางทาง
นายชาญชัย โพกดอกไม้ นายสถานีรถไฟอยุธยา เปิดเผยกรณีที่ขบวนรถไฟ เสียนานกว่า 7 ชั่วโมงว่า ว่า ขบวนรถดังกล่าวเป็นขบวนรถเสริม ขบวนที่ 977 กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี ออกจาก กทม.เวลาประมาณ 4 ทุ่ม และมาเสียบริเวณสถานีคลองพุทรา อ.บางปะอิน เนื่องจากเกียร์ของรถไฟพัง ไม่สามารถซ่อมแซมได้ จึงต้องรอรถขบวนใหม่มาเปลี่ยน โดยรถขบวนที่มาเปลี่ยนเป็นรถดีเซลรางเสริมพิเศษ ขบวนรถที่ 143 เที่ยว 2 กรุงเทพฯ-สุรินทร์ ออกจาก กทม.เวลา 03.00 น.และมารับคนที่จุดดังกล่าวถึงสถานีถึงสถานีอยุธยา เวลา 05.00 น.โดยล่าสุดการรถไฟแห่งประเทศไทย ขยายปลายทางจาก จ.สุรินทร์ ให้ไปถึง จ.อุบลราชธานี เพื่อส่งประชาชนที่ต้องการจะเดินทางไปเลือกตั้งแล้ว
นายสถานีรถไฟอยุธยา กล่าวว่า รถไฟที่เสียในครั้งนี้ เกิดจากสภาพหัวรถจักร ไม่เกี่ยวกับการถ่วงเวลาประชาชน เพื่อไม่ให้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งแต่อย่างใด ซึ่งประชาชนที่อยู่ในขบวนรถไฟดังกล่าวมีราว 1,000 คน ซึ่งเมื่อเกิดรถไฟเสีย และยังไม่มีรถมาเปลี่ยนทำให้หลายคนเข้าใจว่าถูกรัฐบาลกลั่นแกล้งนั้น ไม่เป็นความจริง