ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 จับกุม 2 ผัวเมีย ร่วมกันโกงเงินค่ายางพาราจากเกษตรกรในพื้นที่หนองคายกว่า 300 ตัน ชาวสวนยางเดือดร้อนกว่า 700 รายการจับกุมครั้งนี้ สามารถยึดรถยนต์ 1 คัน พร้อมเงินสดเฉียด 12 ล้านบาท
วันนี้ (4 ก.พ.) ที่สำนักงานตำรวจภูธร ภาค 4 เกษตรกรที่ปลูกยางพาราจากอำเภอบึงกาฬ อำเภอศรีวิไล และอำเภอโซ่พิสัย จังหวัดหนองคาย กว่า 10 คน ได้เข้าชี้ตัวนายสีสุวรรณ์ อุทัยลี อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 196 หมู่ 5 ต.โนนสมบูรณ์ อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย และนางเกียงกร บุ่งนาม อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 หมู่ 12 ต.บะยาว อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี สองสามีภรรยา หลังร่วมกันก่อเหตุฉ้อโกงทรัพย์เกษตรกรที่ปลูกยางพารา เป็นเงินประมาณ 20 ล้านบาท
โดยผู้ต้องหาทั้งสองได้เข้าร่วมประมูลการซื้อขายขี้ยางพารา หรือน้ำยางแห้ง จากเกษตรกรจากคณะกรรมการประมูลยางพารา อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย เมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา โดยมียางพาราจำนวน 300 ตัน ปรากฎว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 เป็นผู้ชนะการประมูล
หลังจากนั้นผู้ต้องหาได้นำน้ำยางแห้งจำนวน 300 ตัน ไปจำหน่ายให้แก่บริษัทแห่งหนึ่งได้เงินประมาณ 20 ล้านบาท และได้ตกลงจะนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายน้ำยางแห้งไปแจกจ่ายให้กับเกษตรกรที่นัดไว้ในวันที่ 27 มกราคม แต่ผู้ต้องหาได้หลบหนีพร้อมเงินจำนวนดังกล่าว จากนั้นเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนกว่า 700 ราย ได้ทยอยเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรบึงกาฬ สถานีตำรวจภูธรศรีวิไล และสถานีตำรวจภูธรโซ่พิสัย
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2554 ที่ผ่านมา ตำรวจกองกำกับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 ได้สืบทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 ได้เข้าพักที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.หนองนาคำ จ.ขอนแก่น จึงได้นำหมายจับเข้าจับผู้ต้องหาทั้งสองพร้อมของกลางรถยนต์เชฟโรเลต รุ่นแคปติวา 1 คัน และเงินสด 1,150,000 บาท ซึ่งผู้ต้องหาได้รับสารภาพ พร้อมขยายผลติดตามเงินสดที่เหลือ
โดยได้ไปไปตรวจสอบที่บ้านนายสีสุวรรณ์ ที่ อ.บึงกาฬ พบเงินสดฝังไว้ในดินหลังบ้านอีก 8 ล้านบาท พร้อมติดตามทรัพย์ที่นำเงินไปซื้อมา รวมเงินสดที่ตรวจยึดได้จำนวน 11,980,000 ล้านบาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหาร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ประชาชนเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป ส่วนเงินสดและทรัพย์มีค่าที่ผู้ต้องหาทั้งสองได้ไปซื้อมา ตำรวจจะทำการขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาคืนให้เกษตรกรที่ถูกผู้ต้องหาทั้งสองโกง โดยมอบให้ พล.ต.ต.ฉลอง ภาคย์ภิญโญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย เป็นผู้นำเงินของกลางเพื่อเตรียมแจกจ่ายให้ผู้เสียหายต่อไป