เชียงราย - เกษตรกรเครือข่ายกองทุนฟื้นฟูฯ โวยรัฐบาลห่วงแต่ซื้ออาวุธ ไม่เหลียวแลชาวนา ปล่อยปัญหาหนี้สินคาราคาซัง ขู่ชุมนุมใหญ่กลางเดือนนี้อีกรอบ หากยังไม่ยอมรับข้อเสนอ
วันนี้ (1 ก.พ.) เกษตรกรจากพื้นที่หลายอำเภอซึ่งเป็นสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จำนวนประมาณ 300 คน นำโดย นายประนอม เชิมชัยภูมิ นายวิรัตน์ พรหมสอน ฯลฯ ได้พากันมาชุมนุมที่ศาลากลาง จ.เชียงราย เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาอันเกิดจากหนี้สิน ซึ่งยืดเยื้อมานานหลายปี
ข้อเรียกร้องมีเนื้อหาระบุว่า ขอให้รัฐบาลสานต่อโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินและฟื้นฟูอาชีพให้กับเกษตรกร เนื่องจากในอดีตมติคณะรัฐมนตรี เคยระบุให้แก้ไขปัญหาหนี้สินหลายเรื่อง เช่น ช่วงที่สมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ อยู่ระหว่างการได้รับการช่วยเหลือให้สถาบันการเงินยุติการรับชำระและยึดทรัพย์หรือขายทอดตลาด จากนั้นให้ลูกหนี้ที่เป็นสมาชิกดังกล่าวได้ผ่อนชำระหนี้จำนวน 50% ของหนี้ต้นทั้งหมดภายในระยะเวลา 15 ปี
ในข้อเรียกร้องระบุอีกว่า ช่วงนั้นให้มีการตรวจสอบวินัยการชำระหนี้หากพบว่าลูกหนี้มีวินัยดี ก็จะให้ยกเลิกหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยอีก 50% ที่เหลือทันที อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 7 เม.ย.และ 22 มิ.ย.2553 ทางคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตีความว่าไม่สามารถทำได้ ทำให้สถาบันการเงินยังคงดำเนินการให้ลูกหนี้ชำระหนี้ และก่อให้เกิดความเดือดร้อนเรื่องทรัพย์สินที่ต้องสูญเสียไปไม่รู้จักจบสิ้น
จึงยื่นหนังสือผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดไปยังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้ดำเนินการตามคำมั่นที่ให้ไว้กับประชาชนโดยดำเนินการตามแนวทาง พ.ร.บ.กองทุนฟื้นฟูฯ ปี 2552 และแก้ไขเพิ่มเติมปี 2545 ตามแผนแม่บทกองทุนฟื้นฟูฯ 5 ปี ระหว่างปี 2555-2559
นายประนอม กล่าวว่า ช่วงนี้พวกเราจะไปชุมนุมกันที่กรุงเทพฯ ก็ปรากฏว่า มีสารพัดม็อบเต็มไปหมด ทำให้พวกเราไม่สะดวกจะเดินทางไป ดังนั้น จึงจะยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัด และนับจากนี้คงจะประสานงานกันอย่างต่อเนื่อง หากว่ายังไม่ได้รับการแก้ไขก็เชื่อว่าโอกาสที่พรรคร่วมรัฐบาลชุดปัจจุบันจะได้กลับมาเป็นรัฐบาล หลังการเลือกตั้งสมัยหน้าคงจะยากมาก
“ที่จริงรัฐบาลสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ด้วยการไม่ต้องให้เรื่องถึงสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้ โดยจัดสรรงบประมาณผ่านกองทุนฟื้นฟูฯ ให้ดำเนินการได้เลย”
ด้าน นายวิรัตน์ กล่าวอีกว่า มีโครงการต่างๆ ที่อยากเปรียบเทียบคือเรื่องโครงการจัดซื้ออาวุธของกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีข่าวออกมาว่า จะต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาล เมื่อเปรียบเทียบกับปัญหาหนี้สินของเกษตรกร แล้วสามารถเจียดงบประมาณดังกล่าวมาให้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ปรากฏว่ารัฐบาลนี้กลับจะซื้ออาวุธ จึงสงสัยว่าจะซื้ออาวุธไปทำไม ในเมื่อรบกับใครก็แพ้ หรือแม้แต่กับประเทศกัมพูชาในปัจจุบันก็แพ้
ทั้งนี้ หากว่า วันที่ 11 ก.พ.54 ยังไม่เห็นผล ก็จะมาชุมนุมกันที่ศาลากลางจังหวัดอีก และวันที่ 13 ก.พ.54 ก็อาจจะเคลื่อนพลไปเชียงใหม่ จากนั้นคงจะร่วมกันเดินทางไปชุมนุมที่กรุงเทพฯ ต่อไป
ด้าน นายสมชัย หทยะตันติ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ได้รับหนังสือจากชาวบ้าน และยืนยันว่า จะจัดทำเป็นหนังสือพร้อมแนบข้อเรียกร้องส่งไปยังรัฐบาลโดยเร่งด่วน
ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนจากหมู่บ้านสมานมิตร หมู่ 1 ต.ดอนศิลา อ.เวียงชัย ได้ยื่นหนังสือเพิ่มเติมให้จังหวัดได้เสนอไปยังรัฐบาลให้สานต่อโครงการโฉนดชุมชนบนที่ดินสาธารณะรอบ “หนองหลวง” ซึ่งเป็นหนองน้ำสาธารณะ เนื้อที่กว้างขวางประมาณ 9,000 กว่าไร่ ติด 2 อำเภอ 3 ตำบล คือ ต.ห้วยสัก อ.เมืองเชียงราย และ ต.เวียงชัย ต.ดอนศิลา อ.เวียงชัย หลังจากชาวบ้านเคยเสนอขอออกโฉนดเฉพาะที่ติดกับหมู่บ้านสมานมิตร ไปยังสำนักงานโฉนดที่ดินจำนวน 3,589 ไร่ แต่ปัจจุบันเกิดความขัดแย้งระหว่างกลุ่มชาวบ้านที่มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย จึงทำให้เรื่องยืดเยื้อมาจนถึงปัจจุบัน