โรงเรียนนวัตกรรมสุขภาพชุมชนเฟื่อง อธิบดีอนามัยเชื่อช่วยพัฒนาระบบสุขภาพ ปชช.

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - อธิบดีอนามัยเปิดประชุมโรงเรียนนวัตกรรมสุขภาพชุมชนที่เชียงใหม่ เผย ใช้ รพสต.เป็นโรงเรียนดึง ปชช.-ทุกภาคส่วนเข้าร่วมจัดการดูแลปัญหาสุขภาพ-ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หวังอนาคตโรงเรียนขยายตัวเป็นแหล่งอบรมสร้างโรงเรียนใหม่เพิ่มต่อ

วันนี้ (19 ม.ค.) ดร.นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย เป็นประธานในการจัดการประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โรงเรียนนวัตกรรมสุขภาพชุมชน ณ โรงแรมเซ็นทาราราดวงตะวัน จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีบุคลากรด้านสาธารณสุข องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบนเข้าร่วม

การประชุมในครั้งนี้เป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับโรงเรียนนวัตกรรมสุขภาพชุมชนแก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่สาธารณสุขเขต 15 และ 16 โดยโรงเรียนนวัตกรรมสุขภาพชุมชนเป็นส่วนหนึ่งของแผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์ ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการบริหารจัดการที่กระทรวงสาธารณสุขนำมาใช้ในการพัฒนากิจการสาธารณสุขมูลฐาน ด้วยการพัฒนาบทบาทของประชาชนผ่านการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านสุขภาพ โดยผ่านการพัฒนาระบบงานสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ทั้งของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบล (รพสต.) และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ทั้งนี้ การพัฒนาดังกล่าวจะอาศัยการนำวิทยากรเข้าไปช่วยพัฒนาโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบลและกองทุนหลักประกันสุขภาพตำบล ให้กลายเป็นโรงเรียนนวัตกรรมสุขภาพชุมชนในแต่ละพื้นที่ และทำหน้าที่เผยแพร่ความรู้เพื่อก่อตั้งโรงเรียนนวัตกรรมสุขภาพชุมชนแห่งอื่นๆ ต่อไปโดยแผนงานดังกล่าวได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 ที่ผ่านมา

ดร.นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงการดำเนินงานตามแนวทางของโรงเรียนนวัตกรรมสุขภาพชุมชน ว่า เป็นการดึงเอาประชาชนในชุมชนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพด้วยตัวเอง โดยใช้ รพสต.เป็นโรงเรียน

รวมทั้งดึงเอาบุคลากรและหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามาร่วมบริหารจัดการ เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สร้างแผนการแก้ไขและดูแลปัญหาด้านสุขภาพในชุมชนด้วยตนเอง และพัฒนาไปสู่การเผยแพร่ความรู้เพื่อสร้างโรงเรียนนวัตกรรมสุขภาพชุมชนแห่งอื่นๆ ต่อไป

สำหรับเรื่องที่กรมอนามัยเสนอให้โรงเรียนนวัตกรรมชุมชนต่างๆ ได้หาวิธีดำเนินการนั้น ได้แก่เรื่องของการเผยแพร่ความรู้เรื่องการเลี้ยงลูกด้วยน้ำนมแม่ในช่วง 6 เดือนแรก การเพิ่มปริมาณสารไอโอดีในอาหาร และการป้องกันปัญหาการตั้งครรถ์ก่อนวัยอันควรในกลุ่มวัยรุ่น