ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - นายแพทย์สาธารณสุขเชียงใหม่เตือนค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กพุ่งเกินค่ามาตรฐานจนอยู่ในระดับส่งผลกระทบต่อสุขภาพแล้ว แนะกลุ่มเสี่ยงควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมนอกตัวอาคาร สั่งทุกโรงพยาบาลพร้อมรับผู้ป่วยที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอีก 3-5 วัน พร้อมเตรียมหน้ากากอนามัยไว้แล้ว 2.5 แสนชิ้นแจกประชาชน ยอมรับหวั่นสถานการณ์รุนแรงเข้าขั้นวิกฤต
นายแพทย์วัฒนา กาญจนกามล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัญหาคุณภาพอากาศเมืองเชียงใหม่ ที่วานนี้ (9 มี.ค.53) การตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 ของจังหวัดเชียงใหม่พบค่าเกินมาตรฐาน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งอยู่ในระดับที่เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพแล้ว จึงขอแจ้งเตือนให้ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ทั้งผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง โรคหอบหืด โรคหัวใจ โรคเบาหวาน คนแก่และเด็ก ควรหลีกเลี่ยงการออกทำกิจกรรมนอกตัวอาคาร เพื่อเป็นการป้องกันรักษาสุขภาพไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการสูดเอาฝุ่นละอองและสิ่งปนเปื้อนเข้าสู่ร่างกาย นอกจากนี้ในส่วนของผู้ป่วยโรคหอบหืด และโรคหัวใจ ควรสำรองยาเอาไว้ด้วยเผื่ออาการกำเริบ
ขณะเดียวกัน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เวลานี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการเตรียมหน้ากากอนามัยไว้จำนวน 100,000 ชิ้น และล่าสุดได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมจากกรมควบคุมโรคอีก 150,000 ชิ้น ทำให้มีหน้ากากอนายมัยรวม 250,000 ชิ้น สำหรับแจกจ่ายประชาชนเพื่อใช้ในการสวมใส่ป้องกันตัวเอง ซึ่งสามารถขอรับได้ที่สำนักงานสาธารณสุข หรือที่โรงพยาบาลในสังกัดทุกแห่ง
ในส่วนของการเตรียมความพร้อม การรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจที่จะเพิ่มขึ้นนั้น ได้มีการสั่งการให้โรงพยาบาลต่างๆ เตรียมความพร้อมไว้รองรับแล้ว ซึ่งคาดว่าอีก 3-5 วัน จำนวนผู้ป่วยน่าจะเพิ่มขึ้น หลังจากที่ฝุ่นละอองเริ่มทำให้ผู้ป่วยแสดงอาการเจ็บป่วยออกมา
สำหรับแนวโน้มสถานการณ์ปัญหาหมอกควันไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็กของจังหวัดเชียงใหม่ในปีนี้นั้น นายแพทย์วัฒนายอมรับว่า มีความเป็นไปได้สูงที่สถานการณ์ปัญหาจะรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพความแห้งแล้งและการขาดแคลนน้ำที่รุนแรง ซึ่งเป็นปัจจัยซ้ำเติมปัญหานี้ โดยจะต้องมีการจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดไปตลอดทั้งเดือนมีนาคมนี้
ทั้งนี้ หากการตรวจวัดคุณภาพอากาศพบค่าเกินมาตรฐานมากๆ และต่อเนื่องติดต่อกันหลายวันก็อาจมีความจำเป็นที่จังหวัด จะต้องประกาศให้เป็นพื้นที่ประสับภัยพิบัติจากปัญหาหมอกควันเหมือนเมื่อครั้งที่เคยเกิดวิกฤตปัญหานี้มาแล้วเมื่อปี 2550
รายงานข่าวแจ้งว่าเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 มี.ค.53) ได้เกิดฝนตกลงมาในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในวันเดียวกันนี้ พบว่าค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กPM10 และค่าดัชนีคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ยังคงเกินค่ามาตรฐานติดต่อกันเป็นวันที่สอง
ที่สถานีโรงเรียนยุพราชวิทยาลัยวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 ได้ 146.2ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร วัดค่าดัชนีคุณภาพอากาศได้ 111 และที่สถานีศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่วัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 ได้ 162.2ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร วัดค่าดัชนีคุณภาพอากาศได้ 118
นายแพทย์วัฒนา กาญจนกามล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัญหาคุณภาพอากาศเมืองเชียงใหม่ ที่วานนี้ (9 มี.ค.53) การตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 ของจังหวัดเชียงใหม่พบค่าเกินมาตรฐาน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งอยู่ในระดับที่เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพแล้ว จึงขอแจ้งเตือนให้ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ทั้งผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง โรคหอบหืด โรคหัวใจ โรคเบาหวาน คนแก่และเด็ก ควรหลีกเลี่ยงการออกทำกิจกรรมนอกตัวอาคาร เพื่อเป็นการป้องกันรักษาสุขภาพไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการสูดเอาฝุ่นละอองและสิ่งปนเปื้อนเข้าสู่ร่างกาย นอกจากนี้ในส่วนของผู้ป่วยโรคหอบหืด และโรคหัวใจ ควรสำรองยาเอาไว้ด้วยเผื่ออาการกำเริบ
ขณะเดียวกัน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เวลานี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการเตรียมหน้ากากอนามัยไว้จำนวน 100,000 ชิ้น และล่าสุดได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมจากกรมควบคุมโรคอีก 150,000 ชิ้น ทำให้มีหน้ากากอนายมัยรวม 250,000 ชิ้น สำหรับแจกจ่ายประชาชนเพื่อใช้ในการสวมใส่ป้องกันตัวเอง ซึ่งสามารถขอรับได้ที่สำนักงานสาธารณสุข หรือที่โรงพยาบาลในสังกัดทุกแห่ง
ในส่วนของการเตรียมความพร้อม การรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจที่จะเพิ่มขึ้นนั้น ได้มีการสั่งการให้โรงพยาบาลต่างๆ เตรียมความพร้อมไว้รองรับแล้ว ซึ่งคาดว่าอีก 3-5 วัน จำนวนผู้ป่วยน่าจะเพิ่มขึ้น หลังจากที่ฝุ่นละอองเริ่มทำให้ผู้ป่วยแสดงอาการเจ็บป่วยออกมา
สำหรับแนวโน้มสถานการณ์ปัญหาหมอกควันไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็กของจังหวัดเชียงใหม่ในปีนี้นั้น นายแพทย์วัฒนายอมรับว่า มีความเป็นไปได้สูงที่สถานการณ์ปัญหาจะรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพความแห้งแล้งและการขาดแคลนน้ำที่รุนแรง ซึ่งเป็นปัจจัยซ้ำเติมปัญหานี้ โดยจะต้องมีการจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดไปตลอดทั้งเดือนมีนาคมนี้
ทั้งนี้ หากการตรวจวัดคุณภาพอากาศพบค่าเกินมาตรฐานมากๆ และต่อเนื่องติดต่อกันหลายวันก็อาจมีความจำเป็นที่จังหวัด จะต้องประกาศให้เป็นพื้นที่ประสับภัยพิบัติจากปัญหาหมอกควันเหมือนเมื่อครั้งที่เคยเกิดวิกฤตปัญหานี้มาแล้วเมื่อปี 2550
รายงานข่าวแจ้งว่าเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 มี.ค.53) ได้เกิดฝนตกลงมาในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในวันเดียวกันนี้ พบว่าค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กPM10 และค่าดัชนีคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ยังคงเกินค่ามาตรฐานติดต่อกันเป็นวันที่สอง
ที่สถานีโรงเรียนยุพราชวิทยาลัยวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 ได้ 146.2ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร วัดค่าดัชนีคุณภาพอากาศได้ 111 และที่สถานีศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่วัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 ได้ 162.2ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร วัดค่าดัชนีคุณภาพอากาศได้ 118
