ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – เชียงใหม่จมหมอกควัน ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กพุ่งทะลุเกณฑ์มาตรฐาน สั่งจับตาสถานการณ์ใกล้ชิดหากแนวโน้มไม่กระเตื้องเตรียมเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดออกประกาศแจ้งเตือนประชาชน ขณะที่สาธารณสุขแนะนำรักษาสุขภาพใช้ผ้าปิดจมูกป้องกัน ด้านท่าอากาศยานเชียงใหม่ยืนยันไม่มีผลกระทบการขึ้นลงของเครื่องบิน
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า วันนี้ (26 ก.พ.) สภาพตัวเมืองเชียงใหม่ยังคงถูกปกคลุมทึบไปทั่วด้วยหมอกควัน จนไม่สามารถมองเห็นดอยสุเทพได้ตามปกติ ซึ่งเวลานี้การมองเห็นดอยสุเทพหรือไม่ ในแต่ละวันนั้น ได้กลายเป็นเสมือนตัวบ่งชี้คุณภาพอากาศเมืองเชียงใหม่อย่างง่ายๆ สำหรับคนเชียงใหม่ไปแล้ว ขณะที่ข้อมูลการตรวจวัดคุณภาพอากาศเมืองเชียงใหม่ของกรมควบคุมมลพิษ พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 เฉลี่ย 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 วันนี้ (26 ก.พ.) เกินค่ามาตรฐาน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรติดต่อกันเป็นวันที่สอง
โดยที่สถานีตรวจวัดโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย มีค่า 176.3 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สถานีตรวจวัดศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ มีค่า 120.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และสถานีตรวจวัดพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ มีค่า 122 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนวานนี้ตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 เกินค่ามาตรฐาน ที่สถานีตรวจวัดโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย มีค่า 129.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
นายสัญญา ทุมตะขบ นักวิชาการสิ่งแวดล้อมสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ และเลขาศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์หมอกควันจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จากข้อมูลการตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษพบว่าในวันนี้(26 ก.พ.52) 8 จังหวัดภาคเหนือมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินมาตรฐานเกือบทั้งหมด ยกเว้นจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง แต่ยังไม่เกินค่ามาตรฐาน
สำหรับสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดสภาพหมอกควันนั้น ยังคงมาจากการเผา ซึ่งส่วนใหญ่น่าจะเป็นการเผาป่าเพื่อหาของป่าและล่าสัตว์ โดยในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา พบจุดค่าความร้อนสูงผิดปกติจากการเผา (Hot Spot) จำนวนมาก ส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดลำพูน ลำปาง และพื้นที่ทางตอนใต้ของจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้ จากสภาพปัญหาในเวลานี้ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงจะต้องมีมาตรการที่เข้มข้นมากยิ่งขึ้นในการดูแลควบคุมการเผาในพื้นที่ที่รับผิดชอบ ซึ่งล่าสุดวานนี้(25 ก.พ.52) ในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการประชุมนายอำเภอทุกอำเภอเพื่อเน้นย้ำในการป้องกันแก้ไขปัญหานี้แล้ว
นอกจากนี้ นักวิชาการสิ่งแวดล้อมสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวยอมรับว่า สถานการณ์ปัญหาหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ รวมทั้งจังหวัดเชียงใหม่มีความน่าเป็นห่วง เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันนี้ของปี 2550 ที่เกิดวิกฤติแล้ว ในช่วงเดียวกันนี้ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กยังอยู่ในมาตรฐาน ขณะที่ในปีนี้มีจุด Hot Spot จำนวนน้อยกว่า แต่กลับมีค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานแล้ว ซึ่งเมื่อถึงช่วงเดือนมีนาคม ที่เป็นช่วงที่มีการเผาเตรียมพื้นที่เพาะปลูกก็ไม่แน่ใจว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร
ทั้งนี้ จากสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในเวลานี้ นายสัญญา กล่าวว่า ทางสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ กับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กำลังร่วมกันติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งข้อมูลคุณภาพอากาศและจำนวนผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในช่วงนี้ โดยหากแนวโน้มสถานการณ์ปัญหาหมอกควันยังไม่ดีขึ้น จะมีการจัดทำข้อเสนอแนะถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เพื่อให้มีการออกประกาศของทางจังหวัดเชียงใหม่แจ้งเตือนประชาชนต่อไป
ขณะที่ ทันตแพทย์ สุรสิงห์ วิศรุตรัตน์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงการดูแลสุขภาพของประชาชนในช่วงนี้ว่า ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจจะต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษโดยในช่วงนี้ควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมนอกตัวอาคาร ขณะที่บุคคลทั่วไปโดยเฉพาะคนชราและเด็กควรจำกัดการออกกำลังกายนอกตัวอาคาร หากมีความจำเป็นต้องออกทำกิจกรรมนอกตัวอาคารควรสวมหน้ากากอนามัยหรือใช้ผ้าชุบน้ำปิดจมูก
ด้านว่าที่เรืออากาศโทจตุรงคพล สดมณี ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวว่า จากสถานการณ์หมอกควันที่ปกคลุมจังหวัดเชียงใหม่อยู่ในเวลานี้ ยังไม่ได้รับรายงานจากสายการบินใดๆ ว่าได้รับผลกระทบ หรือมีอุปสรรคในการนำเครื่องบินขึ้นลงแต่อย่างใด เพราะสถานการณ์ยังไม่เลวร้ายและท่าอากาศยานเชียงใหม่ก็มีเครื่องมืออุปกรณ์สำหรับช่วยเดินอากาศที่ทันสมัยด้วย ทั้งนี้ ขอยืนยันกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่ว่าเครื่องบินยังสามารถทำการขึ้นลงได้ตามปกติ