ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ย้ำทุกฝ่ายห้ามนิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ปัญหาหมอกควันอย่างเด็ดขาด แม้ฝนตกช่วยทำให้ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเบาบางลง แต่หวั่นปัญหาพร้อมกลับมาทวีความรุนแรงได้ตลอดเวลาหากยังมีการเผา สั่งการกำชับ นอภ.ทั้ง 25 อำเภอ พร้อมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งและกำนันผู้ใหญ่บ้าน ให้ควบคุมเข้มดูแลไม่ให้มีการเผาในพื้นที่
หม่อมหลวง ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า แม้สถานการณ์ปัญหาหมอกควันไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จะบรรเทาเบาบางลง เนื่องจากฝนที่ตกลงมา ทั้งจากการทำฝนเทียมและฝนที่ตกลงมาตาธรรมชาติ จนส่งผลให้ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กPM10 ไม่เกินค่ามาตรฐาน 120 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และอยู่ในระดับที่ถือได้ว่าปลอดภัยต่อสุขภาพของประชาชน อย่างไรก็ตามยังไม่อาจนิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ได้
ทั้งนี้ ยังคงมีความจำเป็นที่จะต้องขอความร่วมมือจากทุภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการช่วยกันป้องกันและบรรเทาปัญหาดังกล่าว โดยได้มีการสั่งการเน้นย้ำกำชับไปยังทั้ง 25 อำเภอของจังหวัดเชียงใหม่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง และกำนันผู้ใหญ่บ้านแล้ว ให้ช่วยกันดูแลควบคุมไม่ให้มีการเผาในพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์กลับมารุนแรงอีก ซึ่งการดำเนินการในการป้องกันแก้ไขปัญหานั้นจะมีการประเมินผลการทำงานด้วยว่าได้ผลมากน้อยเพียงใด
ขณะเดียวกัน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ปัญหาหมอกควันไฟป่านั้น ไม่ได้เป็นปัญหาของจังหวัดใดจังหวัดหนึ่งแต่เพียงจังหวัดเดียวเท่านั้น แต่เป็นปัญหาของทุกจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนที่จะต้องมือกันในการป้องกันแก้ไข ซึ่งเวลานี้ทางจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการประสานความร่วมมือกับทุกจังหวัดในการดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่เพื่อจัดการแก้ไขคลี่คลายสถานการณ์ปัญหาลงให้ได้
ด้าน นายบรรพต คันธเสน ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ฝนที่ตกลงมาทำให้สถานการณ์ปัญหาหมอกควันไฟป่าในพื้นที่คลี่คลายลง อย่างไรก็ตามยอมรับว่ายังคงมีความเสี่ยงเป็นอย่างมากที่สถานการณ์ปัญหาจะกลับมาทวีความรุนแรงขึ้นอีก หากยังพบว่ามีการเผาเป็นจำนวนมาก ทั้งในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดข้างเคียง รวมทั้งประเทศบ้าน ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องทำงานร่วมกันอย่างจริงจังเพื่อแก้ไขปัญหานี้
ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ บอกด้วยว่า ขณะนี้ทางจังหวัดเชียงใหม่ได้สนับสนุนงบประมาณโดยใช้งบพัฒนาจังหวัดจำนวน 3.8 ล้านบาท ให้พื้นที่เสี่ยงไฟป่าจำนวน 126 ตำบล นำไปใช้ในการจัดกำลังอาสาสมัครป้องกันไฟป่า เพื่อทำการตรวจตราและดับไฟ เชื่อว่าน่าจะช่วยทำให้ปัญหาการเกิดไฟป่าและการเผาที่เป็นสาเหตุสำคัญของปัญหาหมอกควันไฟป่าลดลง
สำหรับรายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศเมืองเชียงใหม่นั้น จากรายงานของกรมควบคุมมลพิษ ณ เวลา 09.00 น.วันนี้ (16 มี.ค.) ที่สถานีศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ วัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 ได้ 44.3 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) วัดได้ 53 ส่วนที่สถานีโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย วัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 ได้ 64.6 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) วัดได้ 65 ซึ่งภาพรวมคุณภาพอากาศถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง