xs
xsm
sm
md
lg

ผู้พิพากษาภาค 5 รุมต้าน ปปช.สอบ หน.ศาลกรุงเก่ากรณีออกหมายจับ “สุนัย”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย – ผู้พิพากษาภาค 5 นับร้อยรุมค้าน ปปช.ตั้งอนุกรรมการสอบหัวหน้าศาลคดีออกหมายจับ “อดีตอธิบดีดีเอสไอ” ร่วมลงชื่อต้านเสนอผ่านอธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 ยืนยันศาลต้องมีอิสระในการใช้ดุลพินิจภายใต้กฎหมาย



รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า วันนี้ (17 ก.พ.) ที่ศาลจังหวัดเชียงราย บรรดาผู้พิพากษาในพื้นที่ภาค 5 นำโดยนายเรืองชัย จันทร์แก้วแร่ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดเชียงราย, นายวิโรม อินทรสโร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลประจำสำงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 5, นายวราเชน ชูพงศ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดฝาง, นายชวลิต ศรีสง่า ผู้พิพากษาอาวุโสศาลจังหวัดเชียงราย, นายเกียรติศักดิ์ ชัยวงษ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดเชียงราย แผนกคดีเยาวชนและครอบครัว, นายวิชชุพล สุขสวัสดิ์ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดเทิง, นายสุวิชา สุขเกษมหทัย ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลจังหวัดเทิง ฯลฯ

ได้ร่วมกันแถลงข่าวสนับสนุนสำนักงานศาลยุติธรรม ต่อกรณีที่คณะกรรมป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนนายอิทธิพล โสขุมา ผู้พิพากษาศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ได้ออกหมายจับนายสุนัย มโนมัยอุดม อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ในข้อหาฐานหมิ่นประมาทไปเมื่อเร็วๆ นี้

นายเรืองชัยเปิดเผยว่า จากกรณีที่ ป.ป.ช.ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนนายอิทธิพลว่า เป็นการกระทำผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ กระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือกระทำความผิดต่อหน้าที่ในการยุติธรรม ทางตนและผู้พิพากษาในพื้นที่ภาค 5 ได้ลงลายมือชื่อจากหัวหน้าผู้พิพากษาศาลและผู้พิพากษาศาลจำนวน 22 แห่งในภาค 5 รวมจำนวนทั้งหมดกว่า 100 คน เพื่อสนับสนุนการดำเนินการของนายวิรัช ชินวินิจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ซึ่งได้มีหนังสือไปยัง ป.ป.ช.ว่า ผู้พิพากษาต้องมีดุลพินิจที่เป็นอิสระในการพิจารณาโดยเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด โดยไม่อาจมีการแทรกแซง หรือก้าวล่วงจากหน่วยงานหรือบุคคลใด ซึ่งก็รวมไปถึงการออกหมายจับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาดังกล่าวด้วย เพราะหากคู่ความไม่เห็นพ้องกับดุลพินิจ ก็ยังสามารถใช้สิทธิดำเนินการตามกฎหมายได้

ด้านนายวราเชน ชูพงศ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล จ.ฝาง กล่าวว่า หลังทราบข่าวดังกล่าวตนก็ได้เรียกประชุมผู้พิพากษาศาลในสังกัดทุกคน ซึ่งพวกเราก็มีความเห็นพ้องกันว่าเห็นด้วยกับแนวทางของนายวิรัช และขอเป็นกำลังใจต่อนายอิทธิพล และขอยืนยันในความเป็นอิสระในการใช้ดุลพินิจของผู้พิพากษาด้วย

ขณะที่นายเกียรติศักดิ์ ชัยวงษ์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดเชียงราย แผนกคดีเยาวชนและครอบครัว กล่าวว่า ความจริงเรื่องนี้เกิดขึ้นยืดเยื้อมานานกว่า 1 ปีแล้ว แต่พึ่งจะมาเป็นข่าวคึกโครม ซึ่งตนก็ยืนยันว่าการทำหน้าที่ของผู้พิพากษาต้องมีความเป็นอิสระในการใช้ดุลพินิจ แต่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด สำหรับนายอิทธิพล ก็ถือเป็นผู้พิพากษารุ่นน้องของตน และเมื่อดูจากแนวทางปฏิบัติต่อกรณีนี้แล้วก็เห็นว่าได้ใช้ดุลพินิจตามกฎหมาย และได้มีการปรึกษาผู้พิพากษาในศาล จ.พระนครศรีอยุธยา ทั้งหมดแล้ว จึงเห็นว่ามีข้อมูลครบถ้วนจึงมีการออกหมายจับดังกล่าว

“ดังนั้น การที่ผู้พิพากษาศาลต้องถูก ป.ป.ช.ตรวจสอบจะทำให้ต่อไปในอนาคตจะถูกครอบงำ และดุลพินิจของศาลก็จะถูกเบี่ยงเบนไปจากหลักการได้”

จากนั้น คณะหัวหน้าผู้พิพากษาศาลทั้งหมดนำโดยนายเรืองชัยได้ยื่นหนังสือความเห็นพร้อมลายมือชื่อของผู้พิพากษาในภาค 5 ทั้งหมดกว่า 100 รายชื่อ ต่อนางนุจรินทร์ จันทร์พรายศรี อธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 ซึ่งได้เดินทางไปตรวจราชการที่ศาล จ.เชียงราย ในวันนี้ (17 ก.พ.)ด้วย

ทั้งนี้ การออกมาเคลื่อนไหวของหัวหน้าผู้พิพากษาศาลและผู้พิพากษาศาลดังกล่าว ถือว่า เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งมากนัก โดยที่ผ่านมาส่วนใหญ่การเคลื่อนไหวของคณะข้าราชการตุลาการศาลยุติธรรม มักจะเกี่ยวกับกิจกรรมภายในศาลหรือกิจกรรมที่เอื้อประโยชน์ต่อสังคมเป็นหลัก

กำลังโหลดความคิดเห็น