xs
xsm
sm
md
lg

“ปุระชัย”โผล่โคราช ชี้สังคมไทยแตกแยกแบ่งสีเหตุขาดปัญญา-อภัยทาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ร.ต.อ. ดร.ปุระชัย  เปี่ยมสมบูรณ์ บรรยายพิเศษเรื่อง “จริยธรรมสำหรับมนุษย์ ” ในงานสัมมนา ผู้ตรวจการแผ่นดินพบประชาชนในส่วนภูมิภาค ที่ จ.นครราชสีมา วันนี้ ( 11 ก.พ.)
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “ปุระชัย” โผล่โคราช ชี้สังคมไทยแตกแยก แบ่งสีแบ่งฝักฝ่ายเหตุขาดปัญญาและอภัยทาน ระบุการสร้างจริยธรรมให้มนุษย์ต้องเริ่มจากครอบครัวเป็นหลัก แนะผู้บริหารประเทศต้องยึดหลักทศพิธราชธรรม ลดความโลภ-โกรธ-หลงลงให้ได้ ถึงจะปกครองคนอื่นได้ และต้องทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีไม่ทำชั่วเองและไม่มี 2 มาตรฐาน

วันนี้ (11 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่โรงแรมดุสิต ปริ๊นเซสโคราช อ.เมือง จ.นครราชสีมา ร.ต.อ. ดร.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) บรรยายพิเศษเรื่อง “จริยธรรมสำหรับมนุษย์” ในงานสัมมนา “ผู้ตรวจการแผ่นดินพบประชาชนในส่วนภูมิภาค” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-11 ก.พ. นี้ โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานรัฐและรัฐวิสาหกิจรวมถึงนักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวนครราชสีมาและจังหวัดใกล้เคียงเข้ารับฟังจำนวนกว่า 500 คน

ร.ต.อ.ดร.ปุระชัย ได้กล่าวบรรยายในตอนหนึ่งว่า มนุษย์เป็นบุคคลที่มีจิตใจสูงกว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่นๆ มีสติปัญญามีความคิด มีการเรียนรู้ ซึ่งพฤติกรรมของมนุษย์ไม่ได้มาจากพันธุกรรมแต่มาจากการเรียนรู้ การฝึกฝน และการสั่งสอนจนกลายเป็นจริยธรรม ซึ่งต้องปลูกฝังและสั่งสอนจากสถาบันครอบครัวในการปูพื้นฐานมาก่อนที่จะถูกสังคมกล่อมเกลา ฉะนั้นสถาบันครอบครัวจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้มนุษย์มีจริยธรรม คุณธรรม หากครอบครัวไม่มีความพร้อมที่จะกล่อมเกลา หล่อหลอม มนุษย์ที่เกิดมาก็จะทำกลายเป็นปัญหาสังคมต่อไป

มนุษย์มีความเท่าเทียมกันทั่วโลก ไม่ว่าจะชนชาติใด ผิวสีใด ฐานะอย่างไรหรือนับถือศาสนาใด ทุกคนมีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน เพียงแต่ทำหน้าที่แตกต่างกันเท่านั้น ฉะนั้นอย่าเหิมเกริม และอย่าคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของโลก อย่าสร้างความแตกแยกเข่นฆ่ากัน ซึ่งสังคมไทยเรากำลังเผชิญกับปัญหาความแตกแยก แบ่งฝักแบ่งฝ่าย แบ่งสีอยู่ในปัจจุบันและนำไปสู่การเข่นฆ่าซึ่งกันและกัน เช่น สถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เข่นฆ่ากันทุกวัน หรือการชุมนุมต่างๆ เหล่านี้ เกิดจากความไม่เข้าใจกัน และความไม่มีปัญญาของมนุษย์จึงทำให้เกิดปัญหาขึ้น หากทุกคนใช้ปัญญารู้จักคิด รู้จักการเรียนรู้ที่จะอยู่ด้วยกันปัญหาต่าง ๆ ก็จะไม่เกิดขึ้นสังคมจะอยู่อย่างสงบสุข

ร.ต.อ.ปุระชัย กล่าวอีกว่า การมีจริยธรรมต้องคิดถึงตนเองและบุคคลอื่น การคิดถึงตนเองหมายถึง การมีวินัยในตัวเอง มีความสุขกับสิ่งที่มีอยู่ ดูแลรักษาสุขภาพตัวเองให้ดี ดูแลครอบครัวให้อบอุ่นเพราะสิ่งล้ำค่าที่สุดในชีวิตครอบครัวไม่ใช่การมีบ้าน มีรถ แต่คือการมีลูกที่ดี สามารถยืนบนขาของเขาเองได้ ฉะนั้นหากทุกคนดูแลครอบครัวให้ดี มีความรับผิดชอบ ไม่สร้างปัญหา ไม่นอกใจกันและกันก็จะทำให้ชีวิตครอบครัวมีความสุข

และที่สำคัญต้องรู้จักอภัยทานซึ่งสังคมไทยกำลังขาดแคลนอย่างมาก เพราะการอภัยทานคือการให้อภัยซึ่งกันและกัน จงคิดว่าไม่มีใครสมบูรณ์แบบที่สุดต้องผสมผสานกันจนลงตัว ต้องยอมรับซึ่งกันและกันเพราะทุกคนมีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน

ส่วนการคิดถึงบุคคลอื่นนั้น ถือเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะผู้บริหาร ทั้งผู้บริหารประเทศและผู้บริหารหน่วยงานทุกระดับ จะต้องยึดหลักทศพิธราชธรรม หรือธรรมะ 10 ประการ คือ การลดความโลภ โกรธ และความหลงลงให้ได้ คนเราทุกวันนี้ไม่มีธรรม ผู้สูงอายุหลายคนกลายเป็นวัยรุ่นใจร้อน อายุ 70-80 ปี ยังออกไปโวยวายสร้างความขัดแย้งแทนที่จะเป็นเสาหลักของบ้าน เพราะวัยขนาดนี้ต้องมีวุฒิภาวะ ต้องเป็นคนห้ามทัพ ไม่ใช่ไปก่อทัพเอง จัดทัพเอง ชนกันเองจะฆ่ากันเองถามว่ามันถูกทางหรือไม่

“การเป็นผู้นำจะต้องเป็นแบบอย่างของสังคมไม่ประพฤติชั่วเอง ไม่พูดอย่างทำอย่าง ไม่มี 2 มาตรฐาน ไม่มีปากว่าตาขยิบ รูปแบบของชีวิตทั้งต่อหน้าและลับหลังต้องตรงไปตรงมาจึงจะปกครองคนอื่นได้” ร.ต.อ.ดร.ปุระชัย กล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น