ศรีสะเกษ - กัมพูชาขน “อดีตทหารเขมรแดง” เสริมกำลังขึ้นบนเขาพระวิหารต่อเนื่อง ขณะทหารไทยเตรียมพร้อมที่มั่นไม่มีการเสริมกำลัง แต่คุมเข้มไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องขึ้นไปบนเขาพระวิหาร อ้างไม่ปลอดภัย
วันนี้ (11 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พบว่ามีกำลังทหารกัมพูชาสังกัดภูมิภาคที่ 4 กัมพูชา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอดีตกองกำลังทหารเขมรแดง ที่เคยปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณเขาพระวิหารมานาน ได้เดินทางโดยรถยนต์ปิกอัพขึ้นไปเสริมกำลังบนเขาพระวิหารอย่างต่อเนื่อง โดยกระจายกำลังทหารไปรอบบริเวณเขาพระวิหาร เพื่อเตรียมพร้อมหากมีการปะทะกันกับทหารไทยที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
ขณะที่ทหารไทยไม่ได้มีการเสริมกำลังทหารแต่อย่างใด แต่ยังคงตรึงกำลังเข้มอยู่ในแนวเขตที่ตั้งของตนเอง เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์เหตุผิดปกติ ที่อาจเกิดขึ้นได้ หลังจากสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา มาปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน จ.ศรีสะเกษ จ.อุบลราชธานี และ จ.สุรินทร์ ในช่วงวันที่ 6-8 ก.พ.ที่ผ่านมา และได้แสดงท่าทีแข็งกร้าวกับ กับประเทศไทยอย่างรุนแรง
ส่วนที่ที่บริเวณด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งมีทหารพราจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 มาตั้งด่านตรวจเข้มอยู่นั้น ได้มีคำสั่งกำชับจากผู้บังคับบัญชา ไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องขึ้นไปบนอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารอย่างเด็ดขาด โดยอ้างว่าอาจได้รับอันตราย เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่ปกติ มีเพียงรถทหาร ที่เป็นรถบรรทุกน้ำและยุทธภัณฑ์เท่านั้นที่ผ่านขึ้นไปบนอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารได้
ส่วนทางด้านชาวบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ปรากฏว่า ชาวบ้านยังคงทำมาหากินกันตามปกติ แต่ยังมีความหวาดหวั่นภัยสงครามที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาซึ่งชาวบ้านทุกคนได้เตรียมพร้อม ที่จะอพยพหนีภัยสงครามตลอดเวลาหากมีคำสั่งจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้เนื่องจากสถานการณ์บริเวณเขาพระวิหาร นับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีของกัมพูชามาตรวจพื้นที่บริเวณนี้อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจ