ศรีสะเกษ – ทหารไทยตั้งด่านตรวจคุมเข้มทางขึ้นอุทยานฯ เขาพระวิหาร ห้ามผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องผ่านขึ้นไปเด็ดขาด ขณะชาวบ้านภูมิซรอล ผวาภัยสงครามพากันเร่งปรับปรุงทำความสะอาดหลุมหลบภัย เตรียมรับมือการสู้รบระหว่างทหารไทย-กัมพูชา บนเขาวิหารที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
วันนี้ (8 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากสถานการณ์ความสัมพันธ์ระหว่างเทศไทย-กัมพูชา มีปัญหาถึงขั้นมีการเรียกเอกอัครราชทูตกลับประเทศนั้น ล่าสุด ปรากฏว่า ที่บริเวณหน้าสถานีควบคุมไฟป่า จ.ศรีสะเกษ ด้านหน้าด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้มีทหารไทยจากกรมทหาราบที่ 6 จ.อุบลราชธานี นำกำลังจำนวนหนึ่งพร้อมอาวุธปืนครบมือมาตั้งด่านตรวจอยู่ห่างจากด่านเก็บค่าธรรมเนียมอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารประมาณ 150 เมตร และทำการตรวจเข้มรถทุกคันที่จะขึ้นไปบริเวณเขาพระวิหารชายแดนไทย-กัมพูชา โดยไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องผ่านขึ้นไปอย่างเด็ดขาด
ทั้งนี้ จะอนุญาตให้เพียงชาวบ้านที่ไปทำไร่ทำนาบริเวณใกล้เคียงเท่านั้น ที่ผ่านเข้า-ออกไปได้ โดยทางฝ่ายทหารอ้างเหตุผลเพื่อความปลอดภัย และยังพบว่า มีรถปิกอัพบรรทุกกำลังทหารและเสบียงอาหารขึ้นไปบนอุทยานแห่งเขาพระวิหารอย่างคึกคัก ขณะเดียวกัน ที่ บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
นางอั้ว บัวต้น อายุ 65 ปี ชาวบ้านภูมิซรอล ที่อยู่ใกล้กับทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร
ได้นำบรรดาชาวบ้าน และญาติพี่น้องไปทำการปรับปรุงทำความสะอาดหลุมหลบภัยที่ทางราชการมาสร้างไว้ให้ชาวบ้านได้ใช้ยามเกิดศึกสงคราม แต่เนื่องจากก่อสร้างมานานแล้ว ทำให้มีวัชพืชต้นหญ้าขึ้นปกคลุมเต็มไปหมด
นายอนุสรณ์ แก้วลอย อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 ม.12 บ้านภูมิซรอลใหม่ ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งมาร่วมในการทำความสะอาดหลุมหลบภัย กล่าวว่า ขณะนี้พวกเรากลัวจะมีการสู้รบระหว่างทหารไทยกับกัมพูชาเกิดขึ้น จึงต้องเตรียมพร้อมด้วยความปลอดภัยไว้ก่อน และเห็นว่า หลุมหลบภัยที่ทางราชการมาสร้างนานแล้วรกรุงรังวัชพืชปกคลุมเต็มไปหมด จึงได้พากันมาทำความสะอาดเอาไว้
“หากเกิดการสู้รบกันขึ้นบนเขาพระวิหารชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ชาวบ้านจะสามารถใช้ในการหลบภัยได้ เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมาเคยมีกระสุนปืนใหญ่มาตกที่บริเวณหมู่บ้านแห่งนี้มาแล้ว แต่โชคดีที่ไม่มีชาวบ้านได้รับอันตรายแต่อย่างใด” นายอนุสรณ์ กล่าว
