ศรีสะเกษ - “ฮุน เซน” เบี้ย “นช.แม้ว” ผวาเปิดศึกปะทะ “เขาพระวิหาร” ชายแดนด้าน จ. ศรีสะเกษ ดอดส่ง “บิ๊กทหารเขมร” รุดเจรากับแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อยืนยันรักษาสัมพันธ์ที่ดีระหว่างทหาร 2 ฝ่ายต่อไปและไม่ให้ตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่มีอยู่ พร้อมเตรียมจัดแข่งกีฬาสานสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ที่ บ้านภูมิซรอล อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นวานนี้ ( 6 พ.ย.52) พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) และคณะ ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มายังโรงเรียนบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จากนั้นได้เดินทางขึ้นไปยังห้องประชุม ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อเจรจากับ พล.อ.เจีย ดารา รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ พล.ท.ซรัย ดึ๊ก ผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 กัมพูชา และ คณะ
ทั้งนี้ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับปัญหาชายแดนไทย – กัมพูชา และการเตรียมการที่จะจัดการแข่งขันกีฬาเพื่อสานสัมพันธ์ระหว่างไทย – กัมพูชา เพื่อเป็นการกระชับความพันธ์ระหว่างชาวไทยและชาวกัมพูชา ซึ่งได้มีการกำหนดร่วมกันว่าจะจัดแข่งขันกีฬาสานสัมพันธ์นี้ขึ้นในวันที่ 21 - 22 พ.ย. นี้ ที่ โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนทุกแขนงติดตามขึ้นไปทำข่าวแต่อย่างใด
พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่รอทำข่าวที่บริเวณ โรงเรียนบ้านภูมิซรอลว่า ขณะนี้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชายังคงสงบเรียบร้อยดีไม่มีปัญหาหรือเงื่อนไขใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งจากการที่ตนได้ขึ้นไปประชุมร่วมกับผู้นำทางการทหารของกัมพูชาที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารในวันนี้ เนื่องจาก พล.อ.เจีย ดารา รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกัมพูชาและคณะจำนวน 10 คน ได้รับคำสั่งจาก นายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาให้มาเจรจาร่วมกับกองทัพภาคที่ 2 เกี่ยวกับสถานการณ์ที่มีอยู่ ไม่ให้มีการตื่นตระหนักตกใจกันและอยากให้การรักษาสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเอาไว้
โดยสถานการณ์ด้านการเมืองก็ขอให้เป็นเรื่องของทางการเมืองแก้ไขกันไป ส่วนระดับพื้นที่ก็ขอให้มีการรักษาสัมพันธ์ต่อกันเอาไว้เช่นเดิม โดยทางฝ่ายกัมพูชาแจ้งว่าจะไม่มีการเพิ่มเติมกำลังทหารใดๆ และ หากจะมีการสั่งการใด ๆ ก็จะอยู่ที่ พล.อ.เจีย ดารา และ พล.ท.ซรัย ดึ๊ก เท่านั้น ซึ่งผู้นำทางทหารของกัมพูชาที่ติดต่อเพื่อเจรจากับทางกองทัพภาคที่ 2 ครั้งนี้ ก็ล้วนเป็นผู้นำทางทหารระดับสูงทั้งสิ้น
ความสัมพันธ์ทางการทูตเป็นคนละเรื่องกับความความสัมพันธ์ระดับพื้นที่ เพราะว่าระดับพื้นที่นั้นยังคงมีความสัมพันธ์ต่อกันเช่นเดิม ประชาชนระหว่าง 2 ประเทศยังคงไปมาหาสู่กันได้ตามปกติและจะยังไม่มีการสั่งปิดจุดผ่านแดนถาวรไทย – กัมพูชาแต่อย่างใด
“ขอฝากไปถึงประชาชนชาวไทยตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชาว่าไม่ให้มีความวิตกกังวลหรือว่าตื่นตระหนักใด ๆ เพราะว่าสถานการณ์ยังคงปกติอยู่” พล.ท.วีร์วลิต กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังเกิดวิกฤติความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลไทย-กัมพูชาทั้ง 2 ประเทศใช้มาตรการตอบโต้ทางการทูตต่อกันด้วยการเรียกเอกอัครราชทูตกลับประเทศ จากกรณี นายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา แต่งตั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและ นักโทษหนีคดีอาญาแผ่นดิน เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวและที่ปรึกษารัฐบาล ด้านเศรษฐกิจ ปรากฏว่า ทหารไทยที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณเขาพระวิหารและได้รับอนุญาตให้ลาพักกลับไปเยี่ยมครอบครัว ในช่วงนี้ ได้รับโทรศัพท์ด่วนจากฐานปฏิบัติการทุกฐานรอบเขาพระวิหารและตลอดแนวชายแดนไทย - กัมพูชาด้าน จ.ศรีสะเกษ แจ้งให้กลับเข้าปฏิบัติหน้าที่ตามฐานปฏิบัติการทุกแห่งโดยด่วน
ทำให้ทหารไทยทุกคนที่ได้รับคำสั่งให้หยุดพักต้องเร่งรีบพากันเดินทางกลับมาปฏิบัติหน้าที่ตรึงกำลังทหารรอบเขาพระวิหารอย่างเข้มงวดอีกครั้ง