ศรีสะเกษ – กัมพูชาระดมอาวุธหนักปืนใหญ่-เครื่องยิงระเบิดอาร์พีจี พร้อมกำลังพลส่วนใหญ่เป็นอดีตทหารเขมรแดงตรึงรอบเขาพระวิหาร ชี้มีความชำนาญด้านภูมิประเทศสูงหวังผลหากปะทะทหารไทยได้เปรียบในการรบมากกว่า ขณะชาวบ้านภูมิซรอลพร้อมอพยพได้ตลอดเวลาหากเกิดการสู้รบ
วันนี้ (26 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์การตรึงกำลังระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชาที่บริเวณเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ล่าสุดขณะนี้ ทหารกัมพูชาได้มีการเสริมกำลังขึ้นมาอย่างต่อเนื่องพร้อมทั้งนำอาวุธหนักทั้งปืนใหญ่และเครื่องยิงระเบิดอาร์พีจี ไปตรึงกำลังตลอดแนวโดยรอบเขาพระวิหาร ซึ่งทหารกัมพูชาส่วนมากเป็นอดีตทหารเขมรแดงที่มีความเชี่ยวชาญด้านการรบในเขตชายแดนด้านเขาพระวิหาร
ทั้งนี้ เนื่องจากในอดีตบริเวณเขาพระวิหารเป็นเขตพื้นที่ยึดครองของเขมรแดงมาก่อน ซึ่งมีฐานที่มั่นสุดท้ายอยู่ที่ อ.อันลองเวง จ.อุดรมีชัย กัมพูชา ไม่ห่างจากเขาพระวิหาร และทหารเขมรแดงเหล่านี้ได้เข้าร่วมกับฝ่ายรัฐบาลกัมพูชาหลังจากที่ นายพลตา ม็อก อดีตผู้นำเขมรแดง ได้หมดอำนาจลง
นายทหารกัมพูชานายหนึ่งเปิดเผยว่า การที่ฝ่ายกัมพูชานำทหารเขมรแดงมาร่วมตรึงกำลังที่บริเวณเขาพระวิหารในครั้งนี้เนื่องจากทหารเขมรแดงมีความชำนาญภูมิประเทศและเชี่ยวชาญการรบในพื้นที่เขาพระวิหารสูงมาก มั่นใจว่าหากเกิดการปะทะกันขึ้นทางฝ่ายกัมพูชาจะได้เปรียบในการรบมากกว่า
อย่างไรก็ตาม พวกเราทหารกัมพูชาเองไม่อยากให้มีการรบกันเกิดขึ้นเพราะจะทำให้เกิดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของทั้ง 2 ฝ่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกันที่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านติดชายแดนเขาพระวิหารแห่งนี้ยังคงดำเนินชีวิตตามปกติไม่ได้มีความตื่นตระหนกหวาดกลัวกับสถานการณ์ตึงเครียดจากการตรึงกำลังระหว่างทหารไทยกับกัมพูชาแต่อย่างใด
นายบุญมี บัวต้น นายกองค์การบริหารส่วน (อบต.) เสาธงชัย กล่าวว่า พวกเราไม่รู้สึกหวาดกลัวว่าจะมีการสู้รบกันขึ้นมา เนื่องจากเชื่อมั่นว่าทหารไทยสามารถที่จะควบคุมสถานการณ์แลรักษาความปลอดภัยได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม ขณะนี้ทาง อบต.เสาธงชัยได้ร่วมกับทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเตรียมแผนในการอพยพประชาชน รวมทั้งจัดเตรียมหลุมหลบภัยต่างๆ ในหมู่บ้านเรียบร้อยแล้ว