“เสธ.แดง” ยันไม่ตกต่ำถึงขนาดต้อง “เล่นขี้” - หอบโฉนดเปลี่ยนหลักประกันลูกน้อง

“เสธ.แดง” หอบโฉนดที่ดินยื่นศาลขอเปลี่ยนหลักทรัพย์ประกัน 2 ลูกน้องดูแลบ้านพัก โดนจับคดีมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง ศาลตีราคาประกันคนละ 2 แสนเท่าเดิม พร้อมปัดไม่เกี่ยวปาอึบ้านนายกฯ ยันไม่ตกต่ำถึงขนาดนั้น ถ้าทำจริง “เสธ.แดง” คงต้องไปเปลี่ยนชื่อ

วันนี้ (4 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.30 น.ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ซึ่งถูกพักราชการ เดินทางมาเปลี่ยนหลักทรัพย์ประกันตัวใหม่ให้กับพลทหาร มานัสชัย คำพร อายุ 22 ปี สังกัดกองพันบริการ กองบริการศูนย์การทหารม้า จ.สระบุรี และนายเอกลักษณ์ วิเศษวงษา อายุ 24 ปี ผู้ดูแลบ้านพักที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีมีอาวุธปืนแลเครื่องยุทธภัณฑ์ ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดย พล.ต.ขัตติยะ นำโฉนดที่ดิน จ.นครนายก ราคาประเมิน 600,000 บาท มายื่นเป็นหลักประกันแทนหลักทรัพย์เดิมที่ใช้เงินสด 400,000 บาท ซึ่งศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้เปลี่ยนหลักทรัพย์ได้โดยตีราคาประกันเท่าเดิมคนละ 200,000 บาท

ภายหลัง พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า พร้อมจะให้ความช่วยเหลือทั้งสองคนอย่างเต็มที่ ขณะนี้ได้นายมานิตย์ จิตต์จันทร์กลับ ร่วมเป็นทีมทนายความดูแลคดีให้ตนและลูกน้องทั้งสองคน พร้อมยืนยันว่าอาวุธที่มีการตรวจค้นที่บ้านพักราชการของตนดังกล่าวไม่ใช่ของตน ซึ่งตนให้การปฏิเสธทุกข้อหาแล้วแต่อาวุธของกลางนั้นถูกนำมายัดให้ โดยการต่อสู้คดีตนจะเน้นประเด็นการตรวจค้นไม่ชอบ ไม่มีหมายค้น เพราะเมื่อการตรวจค้นไม่ชอบ การดำเนินนคดีก็ไม่ชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน ดังนั้นทำให้ตนมั่นใจว่ากองปราบปรามจะแพ้คดี

พล.ต.ขัตติยะ ยังกล่าวด้วยว่า หลังจากที่ตนถูกพักราชการแล้วไม่เป็นห่วงว่าจะถูกพิจารณาให้ปลดจากราชการในการที่เข้ามาร่วมเคลื่อนไหวภาคประชาชนกับกลุ่มเสื้อแดง เพราะการเคลื่อนไหวเป็นเรื่องชาติบ้านเมือง ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ไม่มีเหตุที่จะมาปลดตนออกจากราชการ โดยระหว่างตนกับ ผบ.ทบ.เป็นเรื่องของชาติ ไม่มีเรื่องส่วนตัวใดๆ หรือเรื่องทุจริต คดีอาชญากรรม ส่วนเรื่องการถูกพักราชการส่วนตัวก็มองว่าจริงๆแล้วกระทำการโดยไม่ชอบ เพราะยังสอบสวนตนไม่เสร็จแต่มาสั่งพักราชการ เพียงแต่การสั่งพักราชการเป็นเรื่องของอำนาจปกครอง อย่างไรก็ดี สำหรับชีวิตราชการของตนคงเหลืออีก 20 เดือนก็จะเกษียณราชการแล้ว หลังจากนั้นตนก็จะร่วมการเคลื่อนไหวภาคประชาชนกับกุล่มเสื้อแดงอย่างเต็มตัวตามอุดมการณ์ของตนที่มีอยู่เต็มที่ 100% โดยตนยืนยันว่าการเคลื่อนไหวกับกลุ่มเสื้อแดง ตนสาบานว่าไม่เคยรับเงินจาก พ.ต.ท.ทักษิณ เลย

ส่วนเหตุการณ์ปาอุจจาระที่บ้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พล.ต.ขัตติยะ กล่าวพร้อมเสียงหัวเราะว่า ไม่ใช่ฝีมือตนอย่างแน่นอน และไม่ใช่ลูกน้องหางแถวที่คุมไม่อยู่ อย่างมองให้ตนตกต่ำถึงขนาดต้องปาอุจจาระ ถ้าเป็นอย่างนั้นคงต้องเปลี่ยนจากชื่อ เสธ.แดง พล.ต.ขัตติยะไปเลย คงเป็นการกระทำของพวกม็อบหรือกลุ่มคนที่ไม่พอใจนายกฯ

สำหรับเรื่องการให้สัมภาษณ์เรื่องการลอบฆ่าผู้พิพากษาและองค์กรอิสระ พล.ต.ขัตติยะ ยืนยันว่า ยอมรับว่าตนพูดเอง แต่ก็เป็นการเตือนผู้พิพากษา กลับถูกมองว่าประสงค์ร้าย โดยภายหลัง น.ต.ประสงค์ สุ่นสิริ และนายสมชาย แสวงการ ออกมาพูดว่าถูกต้องจึงทำให้เสียงของ 40 ส.ว.ที่ออกมาตอบโต้ตนก็เบาลง ทั้งนี้ ตนไม่ห่วงว่าจะต้องถูกดำเนินคดีว่าเป็นการข่มขู่ผู้พิพากษา เพราะตนออกมาเตือนด้วยความหวังดี ไม่ใช่หวังผลการเมือง