xs
xsm
sm
md
lg

“มทภ.2” ยัน “ตาเมือนธม” เป็นของไทย - ชี้ไม่รุกรานใคร/ขอบคุณ ปชช.แสดงพลังป้องอธิปไตย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ท.วีร์วลิต  จรสัมฤทธิ์ มทภ.2
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “พล.ท.วีร์วลิต” มทภ.2 ยันปราสาทตาเมือนธม เป็นของไทยแน่นอน เพราะแสดงความเป็นเจ้าของมาตลอด พร้อมประท้วงกรณีเขมรสร้างถนนมาจ่อปราสาทผิดข้อตกลงร่วมกัน ระบุไทยไม่เคยรุกรานใครก่อนแต่มั่นใจทหารกองทัพภาค 2 รักษาอธิปไตยด้านชายแดนไทย-เขมรได้ ขอบคุณปชช.ทุกกลุ่มที่ไปแสดงพลังปกป้องอธิปไตยไทย แต่วอนอยู่ในขอบเขตและกลับออกมาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยเพื่อให้ทหารปฏิบัติหน้าที่ได้

วันนี้ (8 ก.พ.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่สโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) เปิดเผยถึงการเดินทางมาเยือนพื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย ด้านปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ของ สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาว่า การที่สมเด็จฯ ฮุนเซน จะขึ้นมายังปราสาทพระวิหาร นั้นต้องยึดถือตามที่นายกรัฐมนตรีหรือรัฐบาลไทยได้ชี้แจงไปแล้วว่า การที่จะขึ้นมาตรงจุดนี้มี 2 วิธี คือ ผ่านทางการทูต กับใช้ความสัมพันธ์ทางทหาร

อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าปราสาทตาเมือนธมเป็นของไทยแน่นอน เพราะไทยเราดูแลและแสดงความเป็นเจ้าของมาโดยตลอด แม้แต่การบูรณะทางกรมศิลปากรก็ได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง จึงยืนยันได้ว่าปราสาทตาเมือนธมเป็นของไทย

ส่วนกรณีที่ฝ่ายกัมพูชาอ้างว่าเป็นของเขานั้น คงเป็นการอ้างสิทธิ์เท่านั้น เพราะขณะนี้เส้นเขตแดนไม่มีความชัดเจน ในพื้นที่ที่กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ดูแลอยู่นั้น ได้ตรวจสอบแล้วพบความคลาดเคลื่อนเรื่องพรมแดนตามแผนที่ที่ทั้ง 2 ฝ่ายมีอยู่ ซึ่งมีปัญหาอยู่หลายจุดตั้งแต่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ไปจนถึงช่องบังละแงะ ที่ยังมีความคลาดเคลื่อน ฉะนั้นความเข้าใจคลาดเคลื่อนจึงเกิดขึ้นได้ แต่หากเขายืนยันว่าเป็นของเขาก็อาจใช้วิธีการเหมือนเขาพระวิหาร โดยใช้หลักฐานมาพูดคุยกันได้

สำหรับหมู่บ้านชายแดนที่สมเด็จฯ ฮุนเซน เดินทางมาเปิดนั้น ไม่ได้อยู่ในพื้นที่พิพาทแต่อย่างใด อยู่ห่างจากปราสาทตาเมือนธมลงไปประมาณ 4 กิโลเมตร (กม.) ส่วนการทำถนนมีอยู่ 2 เส้นคือ บริเวณเชื่อมเส้นทาง 612 ก็ทำขึ้นมาแต่ยังไม่ถึงตัวปราสาทตาเมือนธม ห่างประมาณ 400 เมตร ซึ่งอยู่ในฝั่งของกัมพูชา แต่ฝ่ายไทยเราได้ประท้วงไปตลอดว่าไม่ควรเข้ามากระทำใดๆ ที่บริเวณชายแดนตามข้อตกลงที่มีอยู่เพราะอาจก่อให้เกิดผลกระทบตามมาได้

ต่อข้อถามว่า กัมพูชากล่าวหาว่าไทยเราเป็นฝ่ายรุกรานก่อนตลอดนั้น พล.ท.วีร์วลิต กล่าวว่า ขอยืนยันได้ว่าไทยไม่เคยไปรุกรานใดๆ ทั้งสิ้น ทหารไทยดูแลในพื้นที่ที่เรามีสิทธิ์อยู่มาโดยตลอด ไม่เคยจัดกำลังไปรุกรานหรืออะไรทั้งสิ้น แม้แต่การจะก่อให้เกิดการปะทะกันขึ้นก็ยังมีกฎในการปะทะอยู่ทุกขั้นตอน ไทยไม่เคยเป็นฝ่ายกระทำการใดๆ ก่อนเลย

ส่วนการให้ข่าวลักษณะนี้ออกมาจะทำให้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาตึงเครียดขึ้นมาหรือไม่ พล.ท.วีร์วลิต กล่าวว่า อาจมีบ้างแต่คิดว่าขณะนี้ระดับผู้บังคับหน่วยทหารในพื้นที่พยายามพูดคุยกัน โดยเมื่อวันที่ 6 ก.พ. ที่ผ่านมาสมเด็จฯ ฮุน เซน ได้เชิญขึ้นไปพบบริเวณปราสาทพระวิหารเนื่องจากมีเวลาน้อย แต่ฝ่ายเราก็ได้ขอตกลงว่า จะต้องให้กำลังทหารของไทยอยู่ในพื้นที่บริเวณวัดแก้วสิขาคีรีสวาระ ด้วย ซึ่งฝ่ายกัมพูชาก็ตกลง และก่อนไปพบ ได้พูดคุยกับ พล.อ.เตีย บัญ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ยังยืนยันว่า อยากให้ทั้ง 2 ประเทศมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน อยากให้กลับไปสู่สภาพเมื่อก่อนวันที่ 15 ก.ค. 2551 ด้วยซ้ำ ทั้งนี้เพื่อประโยชน์และความผาสุกของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ

การออกมาให้ข่าวเป็นไปอีกทางของฝ่ายกัมพูชานั้น หากติดตามมาโดยตลอดก็เป็นธรรมชาติที่จะสร้างข่าวขึ้น เพื่อให้ฝ่ายของตนได้เปรียบ ทำให้ฝ่ายไทยเราดูติดลบ แต่ในส่วนของไทยก็ชี้แจงไปตามข้อเท็จจริงที่เป็นอยู่ ไม่ได้เกินเลยไปกว่านั้น ฉะนั้นจึงยืนยันได้ว่าขณะนี้ทางกองทัพภาคที่ 2 ยังคงรักษาอธิปไตยตามเขตแดนได้ และทั้ง 3 จุดที่ทางฝ่ายกัมพูชาได้ขอมาว่า สมเด็จฯ ฮุนเซน เดินทางไปนั้น คือ จุดปราสาทพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ ไทยเราก็ได้จัดกำลังไปร่วมเพื่อแสดงว่าจุดนี้มีข้อพิพาทกันอยู่ และยึดถือตามศาลโลกที่ได้ตัดสินไป ขณะที่จุดสามเหลี่ยมมรกต อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี และ จุดชายแดนปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ก็ได้ประสานงานร่วมกัน

“จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานจากฝ่ายกัมพูชาว่าสมเด็จฯ ฮุนเซน จะเดินทางไปยังบริเวณชายแดนไทย-เขมร ด้านจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ แต่อย่างใด หากจะไปจริงก็จะต้องประสานงานพูดคุยกันก่อนว่าจะเข้าไปได้มาน้อยเพียง” พล.ท.วีร์วลิต กล่าวฃ

พล.ท.วีร์วลิต กล่าวต่อว่า ส่วนที่มีข่าวว่ากัมพูชาใช้งบประมาณกว่า 53 ล้านบาท ในการพัฒนาพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชานั้น คิดว่าคงนำเงินมาใช้ในการก่อสร้างและปรับปรุงถนนเป็นส่วนใหญ่ เพราะรายได้ของกัมพูชาตอนนี้คือมาจากการท่องเที่ยว ฉะนั้นจึงต้องมีการพัฒนาถนนบางส่วนและปรับปรุงถนนให้เป็นถนนคอนกรีต หรือทางลาดยาง แม้แต่เส้นทาง 68 จากช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ตอนนี้ก็อยู่ระหว่างการก่อสร้างถนน และได้มีการตัดถนนเชื่อมไปยังจังหวัดพระวิหารของกัมพูชา

อย่างไรก็ตาม ขอฝากไปถึงประชาชนทุกฝ่ายทุกกลุ่มว่าไม่ว่าจะเป็นกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) และ กลุ่มคนเสื้อแดง หรือ นปช.ก็ตาม ต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้ไปแสดงพลังปกป้องอธิปไตย แต่การแสดงพลังขอให้อยู่ในขอบเขต อย่าได้ไปกีดขวางการปฏิบัติงานทางทหารซึ่งเมื่อได้แสดงพลังไปแล้วขอให้ถอนกลับออกมา เนื่องจากเราเป็นห่วงความปลอดภัยของพลังมวลชนเหล่านั้นเพราะเป็นคนไทยไม่อยากให้เกิดการสูญเสีย ซึ่งทหารก็ต้องดูแลตรงนี้

“ขอขอบคุณที่ไปแสดงพลัง แต่ขอร้องให้กลับมาอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย หากจะแสดงอะไรก็มีสื่อมวลชนคอยช่วยประชาสัมพันธ์อยู่แล้ว” พล.ท.วีร์วลิต กล่าว

8/2/53 “ฮุนเซน” ทุ่ม 100 ล้านเหรียญ พัฒนาพื้นที่รอบ “ปราสาทพระวิหาร”


8/2/53 "วีระพร้อมกลุ่มมวลชน" ยังปักหลัก "ปราสาทตาเมือนธม" รออ่านแถลงการณ์


8/2/53 ทหารไทยคุมเข้มชายเแดน "ปราสาทตาเมือนธม"


8/2/53 “สุเทพ” กร้าว!! ปลดอาวุธ “ฮุนเซน” เหยียบตาเมือนธม ลั่นไม่ถอนทหารพ้นชายแดน

กำลังโหลดความคิดเห็น