“สุเทพ” ลั่น “ฮุนเซน” เยือนตาเมือนธม นำกำลังติดอาวุธเข้ามาไม่ได้ ยันส่งแม่ทัพภาค 2 พร้อมดูแลความปลอดภัยให้ แต่จะเข้าพื้นที่ต้องแจ้งทางการไทยก่อน ชี้ปราสาทตาเมือนเป็นของไทย ไม่ซ้ำรอยคดีพระวิหาร วอนม็อบอย่าเข้าใกล้พื้นที่ หวั่นเจ้าหน้าที่ทำงานลำบาก พร้อมคุยเขมรเปิดทางนักท่องเที่ยวชมพื้นที่ แต่ยันไม่ถอนทหารออกเด็ดขาด
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้สัมภาษณ์
วันนี้ (8 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวถึงกรณีสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่มีความตรึงเครียดหลังจากสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เดินทางมาบริเวณพื้นที่พิพาท 4.6 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเหมือนเป็นการมายืนยันความเป็นเจ้าของว่า ความจริงตนก็ไม่อยากไปวิพากษ์วิจารณ์เจตนารมณ์ของสมเด็จฯ ฮุนเซน แต่ว่าพื้นที่ที่สมเด็จฯ ฮุนเซน มา โดยเฉพาะที่ปราสาทพระวิหารเราคงไปว่าเขาไม่ได้เพราะเป็นไปตามคำพิพากษาศาลโลก แต่ในพื้นที่ที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ นั้นยังเป็นพื้นที่ที่ไทยกับเขมรต่างอ้างสิทธิเป็นพื้นที่ของตนเองอยู่ ถือเป็นพื้นที่พิพาทกันอยู่ ซึ่งในระหว่างพิพาทอยู่นั้นฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งจะเข้ามาในพื้นที่นี้ก็ทำได้ เพียงแต่ว่าต้องแจ้งให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบ
“เมื่อสมเด็จฯ ฮุนเซน จะเข้ามาในพื้นที่นี้ก็ต้องบอกเราก่อน เราก็จะส่งคนไปต้อนรับ ซึ่งก็เหมือนกัน หากผมจะเข้าไปในพื้นที่นั้น ผมก็ต้องแจ้งให้เขาทราบ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุที่เป็นปัญหาลุกลามไปมากกว่านั้น และที่เขาจะมาที่ปราสาทตาเมือนธมวันนี้ ผมได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่แล้วว่า ได้ทราบเรื่องที่เขาจะมาแล้ว ซึ่งเราก็คงไม่อนุญาตให้เขาเข้ามาโดยมีกำลังติดอาวุธเข้ามาด้วย คงไม่ได้ในเขตของเรา เราจะไม่ยอมให้มีกองกำลังติดอาวุธใดๆ ล่วงล้ำเข้ามาในพื้นที่ของเรา ถ้ามีก็ต้องมีคนกองกำลังของเราอยู่ด้วย โดยทางแม่ทัพภาคที่ 2 จะเป็นผู้ดูแลเรื่องนี้” รองนายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่า หากไม่ให้มีกองกำลังติดอาวุธเราสามารถรับรองความปลอดภัยให้เขาได้หรือ ไม่ นายสุเทพกล่าวว่า เวลาผู้นำประเทศต่างๆ มาประเทศไทยก็ต้องดูแลรักษาความปลอดภัยเขาอยู่แล้ว ขณะที่การที่มาตั้งกองกำลังที่บริเวณชายแดนนั้น มองดูเหมือนพยายามที่จะกดดันให้เกิดความตึงเครียดหรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ความจริงเขาก็มีกองกำลังของเขาอยู่บริเวณชายแดนของเขาตลอดแนวอยู่แล้ว ส่วนเราก็มีกองกำลังของเราอยู่ตลอดแนวชายแดนเช่นกัน ซึ่งเขาก็ทราบดีว่าเราก็มีศักยภาพที่จะปกป้องอธิปไตยของเรา
เมื่อถามว่า ฝ่ายความมั่นคงได้มีการประเมินหรือไม่ว่า ทำไมสมเด็จฯ ฮุนเซน จึงเดินทางมาบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา รองนายกฯ กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิของเขาที่จะไปไหน มาไหน ซึ่งเขาก็อ้างว่ามาตรวจเยี่ยมชายแดน มาเยี่ยมทหารของเขาและมาชมปราสาทตาเมือนธม เมื่อถามว่า เหมือนเขาต้องการแสดงให้คณะกรรมการมรดกโลกได้เห็นหรือไม่ว่า ปราสาทเป็นของเขาไม่ว่าจะเป็นปราสาทพระวิหารหรือตาเมือนธม นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ใช่ ต้องแยกกันกรณีที่เขาพยายามแสดงต่อคณะกรรมการมรดกโลกนั้นเป็นเรื่องการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร และเขาก็พยายามจะให้เห็นว่าเขาสามารถที่จะแก้ปัญหา บริหารจัดการพื้นที่รอบๆ ปราสาทพระวิหารได้ซึ่งข้อเท็จจริงยังไม่ได้ และไม่ว่าเขาจะทำรายงานไปที่คณะกรรมการมรดกโลกอย่างไร แต่ในส่วนของกรรมการมรดกโลกของไทยก็คงจะไปให้ความเห็นต่อคณะกรรมการชุดใหญ่
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีของปราสาทตาเมือนธมจะซ้ำรอยกรณีของปราสาทพระวิหารที่ยังเป็นข้อถกเถียงกันอยู่ในขณะนี้หรือไม่ เพราะก็มีชาวเขมรออกมาบอกว่าเป็นของเขา นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ใช่ นั่นยังห่างไกลกันมาก ไม่ได้ เพราะเราดูแลครอบครองพื้นที่ตรงนี้มาตลอด ดังนั้น เขาจะมาอ้างไม่ได้ มันไม่เหมือนกันกับเขาพระวิหารที่มีกรณีพิพาทกันอยู่และมีการนำเรื่องขึ้นศาลโลก แต่กรณีของตาเมือนธมไม่ใช่
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า การเดินทางมาของสมเด็จฯ ฮุนเซน ที่บริเวณชายแดน แทนที่จะเป็นการมาเพื่อกระชับมิตร แต่กลับกลายเป็นการแตกร้าวรัฐบาลไทยจะมีท่าทีดำเนินการตรงนี้อย่างไรบ้าง รองนายกฯ กล่าวว่า ยืนยันว่าเราจะพยายามดูแลปกป้องอธิปไตยของเราซึ่งถือเป็นหน้าที่รัฐบาลอยู่ แล้ว ขณะเดียวกันก็จะพยายามดูแลไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงขึ้นบริเวณชายแดน ซึ่งได้แสดงเจตนานี้ให้ทางฝ่ายกัมพูชาทราบมาโดยตลอดว่าความขัดแย้งใดๆ ก็ตามต้องระมัดระวังไม่ให้ส่งผลกระทบถึงการดำเนินชีวิตตามปกติของประชาชนตลอดแนวชายแดน ซึ่งเขาทราบดี ดังนั้น ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็แล้วแต่เราก็ยืนยันในจุดยืนเดิมของเรา เมื่อถามว่าการที่มีกลุ่มมวลชนไปเคลื่อนไหวแสดงความไม่พอใจ นายสุเทพกล่าวว่า กลุ่มมวลชนต่างๆ กรุณาอย่าเข้าไปพื้นที่เหล่านี้เลย เพราะจะทำให้เจ้าหน้าที่ของเราทำงานได้ยากลำบากขึ้น
เมื่อถามถึงกรณีที่สมเด็จฯ ฮุนเซน มาพูดกับแม่ทัพภาคที่ 2 ว่า ขอให้ต่างฝ่ายต่างถอนทหารให้ทุกอย่างเป็นปกติ ประชาชนสามารถขึ้นไปเที่ยวชมพระวิหารได้นั้น รองนายกฯ กล่าวว่า ก็ต้องพูดคุยและหารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไรที่จะให้ประชาชนเข้าไปเที่ยวชมได้ เราก็อยากให้มีภาพอย่างนั้นอยู่แล้ว ซึ่งขณะนี้ปราสาทตาเมือนธมก็ยังเปิดเป็นปกติอยู่ ซึ่งการเจรจาก็จะมีคณะกรรมการเจรจาอยู่ ทำงานอยู่ตลอด และยืนยันว่าไม่มีการถอนกำลังทหารเด็ดขาด