สุรินทร์ - ชายแดนไทย-กัมพูชา ตรึงเครียดหนัก หลังทหารสองฝ่ายวางกำลัง พร้อมอาวุธหนักเข้ม ก่อน “ฮุนเซน” เยือนชายแดนเขมร พร้อมข่าวลือในพื้นที่สะพัด ทหารเขมรเตรียมฉวยโอกาสยึดปราสาทตาเมือนธม ฟากเจ้าหน้าที่ไทยไม่ประมาทวางกำลังพร้อมอาวุธหนักแน่นหนา ขณะ “เพื่อนแม้ว” นั่ง ฮ.ลงชายแดนเขมร เปิดถนนพร้อมหมู่บ้านชายแดน ก่อนส่งองครักษ์ดอดเจรจาขอเยี่ยมปราสาทตาเมือนธม เจอฝ่ายไทยปฏิเสธให้ยึดหลักธรรมเนียมปฏิบัติก่อน เลยเสียหน้าเผ่นแนบกลับทันที
(สัญญาณภาพขาดหายบางช่วง เป็นจากทีวีเขมร Bayon TV)
วันนี้ (8 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านบริเวณปราสาทตาเมือนธม บ.หนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ในช่วงเช้าที่ผ่านมาตกว่าอยู่ในภาวะตึงเครียดหนัก หลังทหารทั้ง 2 ฝ่ายได้เสริมกำลังพร้อมอาวุธหนักเข้าตรึงกำลังเผชิญหน้ากันตลอดแนว ในระหว่างรอการเดินทางมาเยือนพื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย ด้านปราสาทตาเมือนธมของ สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาในวันนี้ ท่ามกลางมีกระแสว่าทหารฝ่ายกัมพูชาอาจฉวยโอกาสเปิดฉากโจมตีเข้ายึดปราสาทตาเมือนธม เพื่อให้เป็นจุดแตกหักนำไปสู่การเจรจาระหว่างประเทศ ขณะที่ฝ่ายทหารได้รับคำสั่งให้เตรียมพร้อมอาวุธเต็มอัตราศึกเช่นกัน พร้อมประกาศปิดปราสาทตาเมือนธมไม่ให้มีการเข้าออกชั่วคราว
ทั้งนี้ ความตึงเครียดดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องหน่วยรักษาความปลอดภัยของสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาพร้อมด้วยอาวุธประจำกายกว่า 50 นายได้เข้ามาประชิดรั้วชายแดนไทยทางขึ้นตัวปราสาทตาเมือนธม ห่างเพียง 30 เมตร ทำให้ พล.ต.ชวลิต ชุณประสาน ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี (ผบ.กกล.สุรนารี) ได้สั่งการให้ชุดเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 23 และ กองร้อยทหารพรานจู่โจมที่ 960 กรมทหารพรานที่ 26 นำกำลังทหาร พร้อมด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ เข้ารักษาพื้นที่ทั้งในและนอกปราสาทตาเมือนธมอย่างเข้มงวดขั้นสูงสุด เพื่อรักษาพื้นที่ไม่ให้ฝ่ายกัมพูชารุกล้ำเข้าในเขตปราสาทตาเมือนธม พร้อมทั้งห้ามบุคคลภายนอกเดินทางเข้ามายังตัวปราสาทตาเมือนธมอย่างเด็ดขาด
ขณะที่ทางจังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ และฝ่ายทหาร นำโดย พล.ต.ต.รณพงษ์ ทรายแก้ว ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์, นายวิเชียร จันทรโณทัยและ นายสมเกียรติ สังข์ขาวสุทธิรักษ์ รองผู้ว่าฯ สุรินทร์ รวมทั้ง นายธีรวัฒน์ สุดสุข นายอำเภอพนมดงรัก ได้ระดมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อป.พร.) และตำรวจกว่า 500 นาย ตั้งตรวจสกัดตามเส้นทางที่จะเข้าไปสู่ปราสาทตาเมือนธม ชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างเข้มงวด ถึง 3 จุด
โดยจุดตรวจสกัดด่านแรกอยู่ที่บริเวณหน้าวัดบ้านหนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ทางขึ้นปราสาทตาเมือนธมห่างจากตัวปราสาทชายแดนไทย-กัมพูชา ประมาณ 5 กม. ซึ่งไม่อนุญาตให้ประชาชน กลุ่มพลังมวลชน สื่อมวลชนและผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องผ่านจุดตรวจสกัดนี้เข้าไปอย่างเด็ดขาด รวมทั้งชาวบ้าน ในพื้นที่ก็ไม่สามารถเดินทางเข้าไปทำสวน ไร่ นา ได้ตามปกติเช่นกัน
สำหรับจุดตรวจสกัดที่ 2 อยู่ลึกเข้าไป ห่างจากปราสาทตาเมือนธมชายแดนไทย-กัมพูชา 1 กม. มีกำลังทหารและตำรวจชุดควบคุมฝูงชนจำนวน 500 นาย พร้อมโล่ นำรั้วเหล็กและลวดหนามมาตั้งด่านสกัดปิดถนนอย่างหนาแน่น และ จุดตรวจสกัดที่ 3 ทหารราบกรมทหารราบเฉพาะกิจที่ 23 กองกำลังสุรนารี (กกล.สุรนารี) ได้นำรั้วลวดหนามมาปิดกั้นถนนไว้ ห่างจากปราสาทตาเมือนธม ราว 500 เมตร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกลุ่มมวลชนปกป้องแผ่นดินไทย ภายใต้การนำ ของนายวีระ สมความคิด ประธานภาคีเครือข่ายติดตามสถานการณ์กรณีเขาพระวิหาร กว่า 150 คน ซึ่งได้เดินทางมายังชายแดนด้านปราสาทตาเมือนธมตั้งแต่เมื่อวาน (7 ก.พ.) วันนี้ได้ปักหลักพร้อมเปิดเวทีปราศรัยอยู่ที่บริเวณปราสาทตาเมือนโต๊ด ซึ่งเป็นปราสาทหลังกลางในบรรดากลุ่มปราสาทตาเมือน 3 หลัง (ปราสาทตาเมือน, ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาเมือนธม) อยู่ห่างจากปราสาทตาเมือนธม ราว 1 กิโลเมตร โดยได้ปักหลักค้างแรมอยู่ที่ปราสาทตาเมือนโต๊ดนี้ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ท่ามกลางการดูแลความสงบเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อย่างเข้มงวด
อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (7 ก.พ.) กลุ่มภาคีเครือข่ายฯ ได้ร่วมกันทำกิจกรรมร้องเพลงชาติไทย บริเวณหน้าฐานปฏิบัติการปราสาทตาเมือนธม ทหารพรานกองร้อยจู่โจม ที่ 960 บ.หนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณชายแดนด้วย
สำหรับส่วนกลุ่มคนเสื้อแดง พบมีการเคลื่อนไหวพยายามรวบรวมมวลชน อยู่ที่บ้านตาเมียง ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จำนวนหนึ่งและได้ส่งตัวแทนเข้ามาสังเกตการณ์ที่บริเวณด่านตรวจสกัด หน้าวัดบ้านหนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ แต่ไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายแต่อย่างใด
ต่อมาเวลาประมาณ 09.00 น. รายงานข่าวแจ้งว่า สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาและคณะ ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 6 ลำ มายังพื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย ด้านปราสาทตาเมือนธม ลงจอดที่บ้านโอร์รุมจอง ใกล้กับกองพันทหารชายแดนที่ 422 ห่างจากชายแดนไทยปราสาทตาเมือนธม ราว 6 กม. โดยสมเด็จฯ ฮุนเซน ได้เป็นประธานเปิดถนน เส้นทางจากบ้านกู่ อ.สำโรง จ.อุดรมีชัย ระยะทาง 13 กม. มุ่งหน้าตรงมายังปราสาทตาเมือนธม จ่อชายแดนไทยห่างตัวปราสาท ราว 400 เมตร และ เป็นประธานเปิดหมู่บ้านตาเมือน ซึ่งเป็นหมู่บ้านแนวกันชนชายแดน ขนาด 400 หลังคาเรือน ห่างจากประสาทตาเมือนธมราว 4 กม. ทั้งนี้ในระหว่างการปฏิบัติภารกิจดังกล่าว ทหารองครักษ์ สมเด็จฯ ฮุนเซน พยายามประสานกับฝ่ายทหารไทยเพื่อขอให้ สมเด็จฯ ฮุนเซน ได้เดินทางเข้ามาเยี่ยมชมภายในปราสาทตาเมือนธม ซึ่งฝ่ายไทยได้ชี้แจงถึงเรื่องธรรมเนียมปฏิบัติระหว่างประเทศที่ต้องแจ้งล่วงหน้าตามขั้นตอนของกระทรวงต่างประเทศ รวมทั้งเรื่องความไม่ปลอดภัยที่ยากต่อการควบคุมสถานการณ์ เนื่องจากมีกลุ่มมวลชนชาวไทยมาปักหลักประท้วงอยู่ใกล้กับตัวปราสาท
หลังจากนั้นเวลาประมาณ 10.00 น. หลังเสร็จสิ้นการปฏิบัติภารกิจ สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีและคณะ ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ออกจากพื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย ด้านปราสาทตาเมือนธม มุ่งหน้าสู่ จ.เสียมราฐ ประมาณ 160 กม. ทันที เพื่อเดินทางต่อไปยังกรุงพนมเปญ เมืองหลวงกัมพูชา จากนั้นทหารไทยได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสามารถเดินทางเข้าไปทำข่าว บันทึกภาพภายในตัวปราสาทตาเมือนธมได้
ขณะนี้ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนกว่า 500 นาย ได้ยกเลิกการตั้งจุดสกัดตามเส้นทางเข้าปราสาทตาเมือนธม และได้ทยอยเคลื่อนกำลังพล กลับที่ตั้งในแต่ละสถานีตำรวจ แต่ยังคงเหลือทหารจากกรมทหารราบเฉพาะที่ 23 และทหารพรานกรมทหารพรานที่ 26 และทหารพรานกองร้อยจู่โจมที่ 960 ตรึงกำลังอยู่ในพื้นที่โดยรอบปราสาทตาเมือนธม ชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างเข้มงวดต่อไป
ทางด้านกลุ่มพลังมวลชนปกป้องแผ่นดินไทย นำโดย นายวีระ สมความคิด ประธานภาคีเครือข่ายติดตามสถานการณ์กรณีเขาพระวิหาร กว่า 150 คน ที่ปักหลักเปิดเวทีปราศรัยที่อยู่บริเวณปราสาทเมือนโต๊ด หลังทราบข่าวการเดินทางกลับ สมเด็จฯ ฮุนเซนโดยไม่เดินทางเข้ามายังปราสาทตาเมือนธมแล้ว จึงประกาศยุติการชุมนุมในเวลา 11.00 น. และพากันเดินทางกลับในเวลา 13.00 น.วันเดียวกันนี้ (8 ก.พ.)
พ.อ.ธเนศ วงศ์ชอุ่ม เสนาธิการกองกำลังสุรนารี (กกล.สุรนารี) เปิดเผยว่า ในวันนี้เดิมทีทหารกรมทหารราบเฉพาะกิจที่ 23 และกรมทหารพรานที่ 26 กองกำลังสุรนารี ไม่ได้มีการเสริมกำลังเข้าไปในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม แต่เนื่องจากฝ่ายทหารองครักษ์ของสมเด็จฯ ฮุนเซน นายรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ทำการอารักขาความปลอดภัยและติดอาวุธเข้ามาประชิดชายแดนใกล้กับปราสาทตาเมือนธมเป็นอย่างมาก ทางฝ่ายทหารไทยจึงได้สั่งการให้เตรียมพร้อมระดับขั้นสูงสุดคือพร้อมปฏิบัติการทางยุทธการ จึงเข้าตรึงกำลังในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธมและบริเวณโดยรอบอย่างเข้มงวด
ส่วนการรักษาความสงบเรียบร้อยให้กับกลุ่มพลังมวลชนที่เดินทางมาชุมนุมอยู่ใกล้ตัวปราสาทตาเมือนธมนั้น เป็นหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ที่ส่งตำรวจชุดควบคุมฝูงชนเข้ามาปฏิบัติงานในการรักษาความปลอดภัยและไม่ให้เกิดความรุนแรงกลุ่มมวลชน
“นอกจากนี้ ทางทหารองครักษ์ สมเด็จฯ ฮุนเซน ได้มีการประสานงานมายัง พล.ต.ชวลิต ชุณประสาน ผบ.กกล.สุรนารี เพื่อขอให้ สมเด็จฯ ฮุนเซน เดินทางเข้ามาชมปราสาทตาเมือนธม ซึ่งทาง ผบ.กกล.สุรนี ได้แจ้งกลับไปว่าขณะนี้สถานการณ์ ปราสาทตาเมือนธม ไม่ปกติ มีกลุ่มพลังมวลชน จำนวนมากเข้ามายังพื้นที่ อาจทำให้ไม่เกิดความปลอดภัย ทำให้ทหารองครักษ์ สมเด็จฯ ฮุนเซน ไม่มีการตอบกลับมา และทราบต่อมาว่า สมเด็จฯ ฮุนเซน ได้เดินทางกลับไปยัง จ.เสรียมราฐ แล้ว ในเวลาเวลา 10.00 น.” พ.อ.ธเนศ กล่าว