"มาร์ค" สั่งทำความเห็นยัน “กก.มรดกโลก” ไทยมีสิทธิ์เขตแดนรอบปราสาทพระวิหาร ลั่นไม่ถอนทหารไทยตามคำขู่ ซัดพฤติกรรม “ฮุนเซน” หวังผลการเมืองในประเทศ พร้อมเชื่อมโยงการเมืองไทย-ฮุบพื้นที่ประสาทพระวิหาร "สุเทพ" อัดนายกฯกัมพูชาอย่าพูดเกินความจริง ด้านกธม.ทหารวุฒิสภารุดลงพื้นที่ ลั่น“ตาเมือนธม”ของไทย ห้าม“นายกฯเขมร”เหยียบ
วานนี้ (7 ก.พ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ระบุว่าประเทศไทยรุกรานกัมพูชาตลอดเวลา อาจส่งผลคณะกรรมการมรดกโลกเข้าใจผิดว่า คงไม่เป็นการสร้างความเข้าใจผิดอะไร ซึ่งเราก็จะใช้จุดตรงนี้ในการไปอธิบายให้เห็นว่าพื้นที่ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับมรดกโลก เราถือเป็นพื้นที่ของเราชัดเจน และการที่สมเด็จฮุนเซนยอมรับโดยการออกมาพูด ในทำนองว่า ไทยเข้าไปรุกราน ก็เท่ากับท่านยอมรับว่าพื้นที่ตรงนั้นเป็นพื้นที่ที่ถือเป็น ของไทย ดังนั้นก็จะมีความชัดเจนมากขึ้นในการที่จะไปบอกกับคณะกรรมการมรดกโลกว่าพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ที่กัมพูชาอ้างว่าเป็นของเขานั้นไม่ใช่ โดยจะบอกกับทางคณะกรรมการมรดกโลก เพราะเรามีกำหนดการในช่วงที่ทางกัมพูชาจะต้องส่งแผนในการบริหารจัดการพื้นที่ เราก็ต้องทำความเห็นเสนอไปอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าก่อนหน้านี้ที่ไทยเคยทำเรื่องแย้งการขอขึ้นทะเบียนมรดกโลก ร่วมกันมีผลแล้วหรือยัง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในชั้นนี้เป็นเรื่องที่ทางกัมพูชาจะเสนอแผนตามมติเดิมของคณะกรรมการมรดกโลก เราก็จะเอาแผนเขามาดู เพราะจะต้องมีเรื่องของแผนที่และเขตแดนต่างๆ จากนั้นไทยก็จะเสนอความเห็นของเราต่อไป ในส่วนที่มีข่าวว่าวันที่ 15 ก.พ.นี้ จะมีการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ก็ไม่เป็นความจริง เพราะการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกจะมีขึ้นในช่วงกลางปีนี้ แต่ว่าแผนจะต้องส่งล่วงหน้า ก่อนการประชุม ซึ่งตนไม่แน่ใจว่า 60 หรือ 90 วัน
ส่วนที่สมเด็จฮุนเซนมีแผนที่จะเดินทางเข้าไปที่ปราสาทตาเมือนธม ในวันที่ 8 ก.พ.นี้นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ฝ่ายไทยจะปฏิบัติเหมือนเดิม โดยจะมีคนของเรา ไปรับที่บริเวณที่เป็นเขตแดนของเรา ส่วนที่สมเด็จฮุนเซนจะขอให้ทหารไทยถอนกำลังออกจากพื้นที่ในช่วงที่จะเดินทางไปนั้น ไม่ได้ เมื่อถามย้ำว่าถ้าฝ่ายกัมพูชาไม่ยินยอม จะทำอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวย้ำว่า "ไม่ได้"
ต่อข้อถามว่าการพูดของสมเด็จฮุนเซนเหมือนเป็นการปลุกระดมชาวกัมพูชา จะทำให้ปัญหาตามแนวชายแดนปะทุขึ้นมาอีกครั้งหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สมเด็จฮุนเซนก็ทำอย่างนี้ เป็นระยะๆอยู่แล้ว แต่เราก็ใช้แนวปฏิบัติที่ไม่ต้องการให้เกิด ปัญหาการปะทะกัน เมื่อถามว่ามองนัยยะของสมเด็จฮุนเซนอย่างไรที่ถึงขนาด สวมชุดทหารทั้งตัวเองและภรรยาเข้ามาในพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็เป็นความพยายามของสมเด็จฮุนเซน แต่เราก็ชัดเจนว่า ถ้าพื้นที่ไหน เป็นของเรา เราก็อยู่ตรงนั้น
ส่วนที่ระบุว่าสมเด็จฮุนเซนหวังผลนั้นวิเคราะห์หรือไม่ว่า เขาหวังผลอะไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มันอาจจะมีการเมืองในประเทศ การเมืองที่มาเกี่ยวกับเรา และเรื่องมรดกโลก ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ระบุว่าความพยายามของสมเด็จฮุนเซนที่เกี่ยวข้องกับไทยนั้น เกี่ยวข้องกับกลุ่มคนเสื้อแดงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงไม่ต้องขยายความ
ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา จะลงพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ในวันที่ 8 ก.พ.ว่า หากกัมพูชาจะเข้ามา เจ้าหน้าที่กัมพูชาต้องประสานมายังฝ่ายไทย ซึ่งขอยืนยันว่า พื้นที่ปราสาทตาเมือนธมเป็นของไทย เมื่อถามว่า ดูเหมือนการเดินเกมของสมเด็จฮุนเซน จะเป็นไปพร้อมกับการเดินเกมของกลุ่มเสื้อแดง นายสุเทพ ตอบว่า การจะไปคาดการณ์ว่า มีเจตนาหรือแผนการอย่างไร คงไม่ถูกต้อง แต่คนไทยอาจมีความรู้สึกหรือความคิดเช่นนั้น แต่ตนไม่ขอตั้งข้อสังเกตหรือคาดการณ์ในเชิงลบ
เมื่อถามว่า สมเด็จฮุนเซน ระบุว่า ไทยมีแผนการรุกรานกัมพูชาตลอดเวลา นายสุเทพ กล่าวว่า ถ้าสมเด็จฮุนเซนพูดเช่นนั้นจริง คงเข้าใจผิด ประเทศไทยไม่มีเจตนาไปรุกรานเพื่อนบ้าน รัฐบาลไทยตั้งใจอยู่ร่วมกับเพื่อนบ้านโดยสันติ มีมิตรไมตรีต่อกัน กรณีกัมพูชาเป็นเพราะสมเด็จฮุนเซนปฏิบัติหลายสิ่งไม่ตรงกับที่รัฐบาลไทยมีความคาดหวังไว้ แต่ความไม่เข้าใจกันในเรื่องนี้ ไม่ได้หมายความว่า จะมากล่าวอ้างว่า เราจะไปรุกราน ขอฝากไปยังสมเด็จฮุนเซนว่า ต้องพูดเฉพาะที่เป็นความจริง ถ้าพูดเกินไปจากนั้น จะเกิดความเข้าใจผิด
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อเหลือง และ เสื้อแดงเข้าไปเคลื่อนไหวในพื้นที่ที่มีปัญหาพิพาทระหว่างไทย-กัมพูชาว่า เรื่องระหว่างประเทศควรให้เป็นเรื่องรัฐบาลทั้ง 2 ฝ่ายได้ดำเนการตามกฎหมาย
ขณะเว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศ ระบุวันเดียวกันว่า ตามที่สมเด็จ ฮุนเซน มีกำหนดการที่จะเดินทางมาเยี่ยมพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชาระหว่างวันที่ 6-8 กุมภาพันธ์2553 โดยอาจจะเข้ามาในพื้นที่ของไทยในบางจุดด้วย นั้น กระทรวงการต่างประเทศขอเรียนย้ำ ดังนี้ 1. รัฐบาลไทยไม่ขัดข้องหากนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประสงค์ที่จะเดินทางเข้ามาในพื้นที่ของไทย แต่ต้องแจ้งให้ทราบและขออนุญาตก่อน โดยรัฐบาลไทยจะมีผู้แทนไปต้อนรับในระดับที่เหมาะสม 2. การเยือนดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยของไทย เนื่องจาก ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ การเดินทางเข้ามาดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบ ใดๆ ทั้งสิ้นต่อการอ้างสิทธิทางกฎหมายเหนือดินแดนของไทย ซึ่งฝ่ายไทยได้เคยอ้างสิทธิ และยังคงไว้ ซึ่งสิทธิของไทยอยู่อย่างเต็มที่
**“ตาเมือนธม”ลดตึงเครียดรับ“ฮุนเซน”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาเมือนธม บ.หนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ วานนี้ (7 ก.พ.) ได้ลดความตึงเครียดทางการทหารลงระดับหนึ่งหลังจากช่วง 2 วันที่ผ่านมาทั้ง 2 ฝ่ายได้เสริมกำลังทหารพร้อมอาวุธหนัก-เบาตรึงกำลังเผชิญหน้ากันอย่างต่อเนื่องตลอดแนวชายแดน ด้านปราสาทตาเมือนธม, ช่องกร่าง และปราสาทตาควาย บ้านไทยสันติสุข ต.บักได อ.พนมดงรัก ซึ่งอยู่ห่างจากปราสาทตาเมือนธมไปทางด้านทิศตะวันออกประมาณ 15 กิโลเมตร ทั้งนี้ สืบเนื่องจากสมเด็จฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา มีกำหนดจะเดินทางมาเยือนพื้นที่พิพาทชายแดนกัมพูชา-ไทย บริเวณปราสาทตาเมือนธมในวันนี้ (8 ก.พ.) แต่ยังไม่มีใครสามารถยืนยันกำหนดการที่ชัดเจนได้
อย่างไรก้ตาม สถานการณ์ชายแดนด้านปราสาทตาเมือนธมผ่อนคลายลงดังกล่าวสืบเนื่องจากวานนี้นี้ พ.อ.อดุล บุณธรรมเจริญ ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 26 กองกำลังสุรนารีได้เจรจาร่วมกับ พ.อ.เนี๊ยะ วงศ์ รองผู้บังคับการ กองพันทหารชายแดนที่ 422 กัมพูชา ให้มีการลดการเผชิญหน้าทางทหารทั้ง 2 ฝ่ายเพื่อคลายความตึงเครียดลงตามข้อเสนอของฝ่ายกัมพูชา ทั้งนี้เพื่อเตรียมต้อนรับการมาเยือนพื้นที่ของสมเด็จฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรี โดยให้ทหารทั้ง 2 ฝ่ายอยู่ในฐานที่ตั้งเดิมของตัวเอง
พร้อมทั้งให้ทหารพรานไทยเปิดให้ประชาชนชาวไทย-กัมพูชา สื่อมวลชนและทหารกัมพูชาที่ปลดอาวุธสามารถเดินทางเข้าไปเยี่ยมชมภายในตัวปราสาทตาเมือนธมได้เช่นเดิม ซึ่งทำให้วันนี้มีสื่อมวลชนไทยและกัมพูชาเดินทางเข้าบันทึกภาพ รายงานข่าวในปราสาทตาเมือนธมกันอย่างคึกคัก
ขณะที่ทหารฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.อ. แก๋ว ปง รองผู้บัญชาการทหารบก (รองผบ.ทบ.) กัมพูชา พ.อ.แป๋ง โวย นายทหารระดับสูงของกัมพูชาและคณะ ได้เดินทางมาเข้ามาเยี่ยมชมดูลาดเลาภายในปราสาทตาเมือนธม โดยมี พ.อ.อดุล บุณธรรมเจริญ ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 26 พร้อมด้วยนายทหารพราน ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด
ทางด้านนายประสงค์ นุรักษ์ ส.ว. และ กรรมาธิการทหาร วุฒิสภาได้เดินทางมายังปราสาทตาเมือนธม และเข้าพูดคุย กับ พ.อ.อดุล พร้อมได้พบปะพูดคุย กับ พล.อ.แก๋ว ปง ที่เดินทางมาเยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธมดังกล่าวด้วย
นายประสงค์ เปิดเผยภายหลังว่า สถานการณ์ต่างๆ ที่ปราสาทตาเมือนธมวานนี้ค่อนข้างเรียบร้อยดี ทหารดูแลพื้นที่ให้อยู่ในความสงบได้และยืนยันว่า ปราสาทตาเมือนธม เป็นของประเทศไทย ส่วนทหารกัมพูชาที่เดินทางข้ามชายแดนเข้ามาที่ปราสาทตาเมือนธมเป็นการเข้ามาท่องเที่ยว แม้แต่งกายด้วยชุดทหารก็ไม่ได้มีการพกพาอาวุธเข้ามาแต่อย่างใด ถือว่าทุกอย่างอยู่ในความเรียบร้อย และทหารไทยสามารถจัดระเบียบได้ดี อย่างไรก็ตาม การที่ทหารกัมพูชาแต่งกายด้วยชุดทหารเข้ามาได้ โดยเฉพาะเป็นนายทหารระดับสูงในสถานการณ์อย่างนี้ถือว่าไม่เหมาะสม
“ส่วนกรณีที่สมเด็จฯฮุน เซน จะเดินทางเข้ามายังปราสาทตาเมือนธมนั้นไม่สามารถกระทำได้อย่างแน่นอน ทุกอย่างต้องผ่านกระบวนการกระทรวงการต่างประเทศเท่านั้น ” นายประสงค์ กล่าว
**"วีระ"นำทัพปชช.บุกตาเหมือนธม
ต่อมาเวลา 12.30 น.ที่วัดบ้านหนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ นายวีระ สมความคิด ประธานภาคีเครือข่ายติดตามสถานการณ์กรณีเขาพระวิหาร พร้อมด้วยมวลชนสมาชิกเครือข่ายกว่า 150 คน ได้เดินทางโดยขบวนรถยนต์ กว่า 40 คัน เข้ามาเจรจากับ นายธีรวัฒน์ สุดสุข นายอำเภอพนมดงรัก ซึ่งตั้งจุดตรวจสกัดร่วมกับ เจ้าหน้าที่ทหารพรานอยู่ที่บริเวณวัดบ้านหนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก เพื่อขออนุญาตผ่านจุดตรวจเข้าไปยังตัวปราสาทตาเมือนธม เพื่อเข้าเยี่ยมชมและประกาศเจตนารมณ์การเคลื่อนไหวของพลังมวลชนในครั้งนี้ ซึ่งการเจรจาใช้เวลาประมาณ 20 นาที
จากนั้น นายอำเภอพนมดงรัก ได้นำกลุ่มแกนนำ ภาคีเครือข่ายติดตามสถานการณ์กรณีเขาพระวิหาร เข้าเจรจาร่วมกับ พ.อ.กิตติศักดิ์ บุญพระธรรมชัย รองผู้บัญชาการกรมทหารราบเฉพาะกิจที่ 23 ในฐานปฏิบัติการยุทธการ กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ซึ่งตั้งอยู่ภายในวัดบ้านหนองคันนา เช่นกัน โดยได้ข้อตกลงร่วมกันว่า การเข้าไปยังปราสาทตาเมือนธมให้แบ่งการเดินทางไปเป็นชุด และ ห้ามไม่ให้มีการถ่ายภาพที่ตั้งของทหารไทย และให้ท่องเที่ยวด้วยความสงบ
จากนั้นกลุ่มพลังมวลชนได้ เดินทางไปยังปราสาทตาเมือนธม โดยการควบคุมของ นายวีระ สมความคิด ซึ่งได้เข้าเยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธมและแสดงเจตนารมณ์ของประชาชนในการปกป้องแผ่นดินไทยอย่างถึงที่สุด ก่อนเดินทางกลับด้วยความสงบเรียบร้อยในช่วงบ่ายวันเดียวกัน
**ยัน"ฮุน เซน"ประชิดชายแดนไทยวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า มีรายงานข่าวทางการทหารยืนยันว่า สมเด็จฯ ฮุน เซน มีกำหนดการเดินทางมาเยือนพื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย ด้านปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก ในช่วงเที่ยงวันนี้ ( 8 ก.พ.) ค่อนข้างแน่นอน โดยมีกำหนดเป็นประธานเปิดใช้ถนนเส้นทางจากบ้านกู่ อ.สำโรง จ.อุดรมีชัย ระยะทาง 13 กิโลเมตรมุ่งหน้าตรงมายังปราสาทตาเมือนธม ชายแดนไทยห่างตัวปราสาทราว 400 เมตร ซึ่งบุตรสาวของสมเด็จฯ ฮุน เซน เป็นผู้ร่วมรณรงค์หาเงินสนับสนุนค่าก่อสร้าง
พร้อมเป็นประธานเปิดหมู่บ้านตาเมือน ซึ่งเป็นหมู่บ้านแนวกันชนชายแดนแห่งใหม่ ที่ฝ่ายกัมพูชาสร้างบ้านเรือนให้กับทหารและประชาชนชาวกัมพูชาได้เข้ามาอยู่อาศัยติดกับชายแดนไทย จำนวน 400 หลังคาเรือน ห่างจากตัวประสาทตาเมือนธมไปประมาณ 4 กิโลเมตร (กม.) และเป็นประธานเปิดที่ทำการ กองพันทหารชายแดนที่ 422 บ้านโอร์รุมจอง ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม ราว 6 กิโลเมตร
**ทหารตรึงอุบลฯกำลังช่องบก
วันเดียวกันที่ช่องบกบ้านโดมประดิษฐ์ ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี นายวิโรฒ มีแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นายอิทธิพร บุญประคอง รองอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ พล.ต.ชวลิต ชุนประสาน ผบ.กองกำลังสุรนารี (กกล.) พ.อ.นิรุทธ์ เกตุศิริ ผบ.ฉก.กรมทหารราบที่ 16 ได้ไปรอพบปะกับผู้แทนฝ่ายกัมพูชา ซึ่งมีข่าวว่าสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา จะเดินทางมาเปิดใช้ถนนตัดใหม่จากเมืองจอมกระสาน จ.พระวิหาร มาที่สามเหลี่ยมมรกต ซึ่งสามเหลี่ยมรกต เป็นรอยต่อพรมแดน 3 ประเทศคือ ไทย ลาว และกัมพูชา ตั้งอยู่บนเทือกเขาพนมดงรัก เขตบ้านโดมประดิษฐ์ ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน
กระทั่งถึงเวลาฝ่ายกัมพูชามี พล.ท.ซอ ทาวี รอง ผวจ.พระวิหาร และ พล.ท.ซรัย ดึ๊ก ผบ.กองพลสนับสนุนที่ 3 เดินทางมาพบกับตัวแทนฝ่ายไทย ซึ่งรออยู่ในศาลาตรีมุขตรงจุดรอยต่อ 3 ประเทศ เพื่อร่วมรับประทานอาหารเที่ยงและเจรจาหารือด้านความร่วมมือ โดยให้ผู้สื่อข่าวรออยู่ที่ฐานปฏิบัติการอนุพงศ์ของหน่วยทหารพราน ซึ่งอยู่ห่างจากศาลาตรีมุขราว 2 กิโลเมตร การเจรจาใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ตัวแทนกัมพูชาและไทย จึงได้แยกย้ายกันเดินทางกลับ
**"ฮุนเซน”ขลาด!ส่งสมุนมาคุย
นายวิโรฒ กล่าวถึงหัวข้อการเจรจาว่ามีการพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องการสร้างความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศในระดับท้องถิ่น โดยจะมีการจัดแข่งขันกีฬา รวมทั้งการละเล่นต่างๆ ร่วมกันในอนาคต และฝ่ายกัมพูชายังได้ร้องขอฝ่ายไทย ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมกับผู้ป่วยที่เป็นชาวกัมพูชา ซึ่งจะเดินทางข้ามแดนเข้ามาขอรับการรักษาที่โรงพยาบาลฝั่งไทย เนื่องจากกัมพูชาไม่มีสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน ซึ่งฝ่ายไทยได้ตอบรับยินดีให้การช่วยเหลือ
นายวิโรฒ กล่าวอีกว่า การหารือครั้งนี้ไม่มีการพูดคุยเรื่องความสัมพันธ์ระดับนโยบาย มีแต่หารือเฉพาะในส่วนท้องถิ่นเท่านั้นและสมเด็จฯฮุน เซน ก็ไม่ได้เดินทางเข้ามาบริเวณสามเหลี่ยมมรกต เพียงแต่เป็นประธานเปิดใช้ถนนและเยี่ยมเยียนประชาชนชาวกัมพูชาในเขตเมืองจอมกระสานเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศรอบรอยต่อสามเหลี่ยมมรกตมีการวางกำลังรักษาการณ์ตามแนวชายแดนทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาอย่างคึกคัก แต่ไม่มีบรรยากาศของความตรึงเครียดของทั้งสองฝ่ายแต่อย่างใด
วานนี้ (7 ก.พ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ระบุว่าประเทศไทยรุกรานกัมพูชาตลอดเวลา อาจส่งผลคณะกรรมการมรดกโลกเข้าใจผิดว่า คงไม่เป็นการสร้างความเข้าใจผิดอะไร ซึ่งเราก็จะใช้จุดตรงนี้ในการไปอธิบายให้เห็นว่าพื้นที่ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับมรดกโลก เราถือเป็นพื้นที่ของเราชัดเจน และการที่สมเด็จฮุนเซนยอมรับโดยการออกมาพูด ในทำนองว่า ไทยเข้าไปรุกราน ก็เท่ากับท่านยอมรับว่าพื้นที่ตรงนั้นเป็นพื้นที่ที่ถือเป็น ของไทย ดังนั้นก็จะมีความชัดเจนมากขึ้นในการที่จะไปบอกกับคณะกรรมการมรดกโลกว่าพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ที่กัมพูชาอ้างว่าเป็นของเขานั้นไม่ใช่ โดยจะบอกกับทางคณะกรรมการมรดกโลก เพราะเรามีกำหนดการในช่วงที่ทางกัมพูชาจะต้องส่งแผนในการบริหารจัดการพื้นที่ เราก็ต้องทำความเห็นเสนอไปอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าก่อนหน้านี้ที่ไทยเคยทำเรื่องแย้งการขอขึ้นทะเบียนมรดกโลก ร่วมกันมีผลแล้วหรือยัง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในชั้นนี้เป็นเรื่องที่ทางกัมพูชาจะเสนอแผนตามมติเดิมของคณะกรรมการมรดกโลก เราก็จะเอาแผนเขามาดู เพราะจะต้องมีเรื่องของแผนที่และเขตแดนต่างๆ จากนั้นไทยก็จะเสนอความเห็นของเราต่อไป ในส่วนที่มีข่าวว่าวันที่ 15 ก.พ.นี้ จะมีการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ก็ไม่เป็นความจริง เพราะการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกจะมีขึ้นในช่วงกลางปีนี้ แต่ว่าแผนจะต้องส่งล่วงหน้า ก่อนการประชุม ซึ่งตนไม่แน่ใจว่า 60 หรือ 90 วัน
ส่วนที่สมเด็จฮุนเซนมีแผนที่จะเดินทางเข้าไปที่ปราสาทตาเมือนธม ในวันที่ 8 ก.พ.นี้นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ฝ่ายไทยจะปฏิบัติเหมือนเดิม โดยจะมีคนของเรา ไปรับที่บริเวณที่เป็นเขตแดนของเรา ส่วนที่สมเด็จฮุนเซนจะขอให้ทหารไทยถอนกำลังออกจากพื้นที่ในช่วงที่จะเดินทางไปนั้น ไม่ได้ เมื่อถามย้ำว่าถ้าฝ่ายกัมพูชาไม่ยินยอม จะทำอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวย้ำว่า "ไม่ได้"
ต่อข้อถามว่าการพูดของสมเด็จฮุนเซนเหมือนเป็นการปลุกระดมชาวกัมพูชา จะทำให้ปัญหาตามแนวชายแดนปะทุขึ้นมาอีกครั้งหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สมเด็จฮุนเซนก็ทำอย่างนี้ เป็นระยะๆอยู่แล้ว แต่เราก็ใช้แนวปฏิบัติที่ไม่ต้องการให้เกิด ปัญหาการปะทะกัน เมื่อถามว่ามองนัยยะของสมเด็จฮุนเซนอย่างไรที่ถึงขนาด สวมชุดทหารทั้งตัวเองและภรรยาเข้ามาในพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็เป็นความพยายามของสมเด็จฮุนเซน แต่เราก็ชัดเจนว่า ถ้าพื้นที่ไหน เป็นของเรา เราก็อยู่ตรงนั้น
ส่วนที่ระบุว่าสมเด็จฮุนเซนหวังผลนั้นวิเคราะห์หรือไม่ว่า เขาหวังผลอะไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มันอาจจะมีการเมืองในประเทศ การเมืองที่มาเกี่ยวกับเรา และเรื่องมรดกโลก ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ระบุว่าความพยายามของสมเด็จฮุนเซนที่เกี่ยวข้องกับไทยนั้น เกี่ยวข้องกับกลุ่มคนเสื้อแดงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงไม่ต้องขยายความ
ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา จะลงพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ในวันที่ 8 ก.พ.ว่า หากกัมพูชาจะเข้ามา เจ้าหน้าที่กัมพูชาต้องประสานมายังฝ่ายไทย ซึ่งขอยืนยันว่า พื้นที่ปราสาทตาเมือนธมเป็นของไทย เมื่อถามว่า ดูเหมือนการเดินเกมของสมเด็จฮุนเซน จะเป็นไปพร้อมกับการเดินเกมของกลุ่มเสื้อแดง นายสุเทพ ตอบว่า การจะไปคาดการณ์ว่า มีเจตนาหรือแผนการอย่างไร คงไม่ถูกต้อง แต่คนไทยอาจมีความรู้สึกหรือความคิดเช่นนั้น แต่ตนไม่ขอตั้งข้อสังเกตหรือคาดการณ์ในเชิงลบ
เมื่อถามว่า สมเด็จฮุนเซน ระบุว่า ไทยมีแผนการรุกรานกัมพูชาตลอดเวลา นายสุเทพ กล่าวว่า ถ้าสมเด็จฮุนเซนพูดเช่นนั้นจริง คงเข้าใจผิด ประเทศไทยไม่มีเจตนาไปรุกรานเพื่อนบ้าน รัฐบาลไทยตั้งใจอยู่ร่วมกับเพื่อนบ้านโดยสันติ มีมิตรไมตรีต่อกัน กรณีกัมพูชาเป็นเพราะสมเด็จฮุนเซนปฏิบัติหลายสิ่งไม่ตรงกับที่รัฐบาลไทยมีความคาดหวังไว้ แต่ความไม่เข้าใจกันในเรื่องนี้ ไม่ได้หมายความว่า จะมากล่าวอ้างว่า เราจะไปรุกราน ขอฝากไปยังสมเด็จฮุนเซนว่า ต้องพูดเฉพาะที่เป็นความจริง ถ้าพูดเกินไปจากนั้น จะเกิดความเข้าใจผิด
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อเหลือง และ เสื้อแดงเข้าไปเคลื่อนไหวในพื้นที่ที่มีปัญหาพิพาทระหว่างไทย-กัมพูชาว่า เรื่องระหว่างประเทศควรให้เป็นเรื่องรัฐบาลทั้ง 2 ฝ่ายได้ดำเนการตามกฎหมาย
ขณะเว็บไซต์ของกระทรวงการต่างประเทศ ระบุวันเดียวกันว่า ตามที่สมเด็จ ฮุนเซน มีกำหนดการที่จะเดินทางมาเยี่ยมพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชาระหว่างวันที่ 6-8 กุมภาพันธ์2553 โดยอาจจะเข้ามาในพื้นที่ของไทยในบางจุดด้วย นั้น กระทรวงการต่างประเทศขอเรียนย้ำ ดังนี้ 1. รัฐบาลไทยไม่ขัดข้องหากนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประสงค์ที่จะเดินทางเข้ามาในพื้นที่ของไทย แต่ต้องแจ้งให้ทราบและขออนุญาตก่อน โดยรัฐบาลไทยจะมีผู้แทนไปต้อนรับในระดับที่เหมาะสม 2. การเยือนดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยของไทย เนื่องจาก ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ การเดินทางเข้ามาดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบ ใดๆ ทั้งสิ้นต่อการอ้างสิทธิทางกฎหมายเหนือดินแดนของไทย ซึ่งฝ่ายไทยได้เคยอ้างสิทธิ และยังคงไว้ ซึ่งสิทธิของไทยอยู่อย่างเต็มที่
**“ตาเมือนธม”ลดตึงเครียดรับ“ฮุนเซน”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาเมือนธม บ.หนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ วานนี้ (7 ก.พ.) ได้ลดความตึงเครียดทางการทหารลงระดับหนึ่งหลังจากช่วง 2 วันที่ผ่านมาทั้ง 2 ฝ่ายได้เสริมกำลังทหารพร้อมอาวุธหนัก-เบาตรึงกำลังเผชิญหน้ากันอย่างต่อเนื่องตลอดแนวชายแดน ด้านปราสาทตาเมือนธม, ช่องกร่าง และปราสาทตาควาย บ้านไทยสันติสุข ต.บักได อ.พนมดงรัก ซึ่งอยู่ห่างจากปราสาทตาเมือนธมไปทางด้านทิศตะวันออกประมาณ 15 กิโลเมตร ทั้งนี้ สืบเนื่องจากสมเด็จฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา มีกำหนดจะเดินทางมาเยือนพื้นที่พิพาทชายแดนกัมพูชา-ไทย บริเวณปราสาทตาเมือนธมในวันนี้ (8 ก.พ.) แต่ยังไม่มีใครสามารถยืนยันกำหนดการที่ชัดเจนได้
อย่างไรก้ตาม สถานการณ์ชายแดนด้านปราสาทตาเมือนธมผ่อนคลายลงดังกล่าวสืบเนื่องจากวานนี้นี้ พ.อ.อดุล บุณธรรมเจริญ ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 26 กองกำลังสุรนารีได้เจรจาร่วมกับ พ.อ.เนี๊ยะ วงศ์ รองผู้บังคับการ กองพันทหารชายแดนที่ 422 กัมพูชา ให้มีการลดการเผชิญหน้าทางทหารทั้ง 2 ฝ่ายเพื่อคลายความตึงเครียดลงตามข้อเสนอของฝ่ายกัมพูชา ทั้งนี้เพื่อเตรียมต้อนรับการมาเยือนพื้นที่ของสมเด็จฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรี โดยให้ทหารทั้ง 2 ฝ่ายอยู่ในฐานที่ตั้งเดิมของตัวเอง
พร้อมทั้งให้ทหารพรานไทยเปิดให้ประชาชนชาวไทย-กัมพูชา สื่อมวลชนและทหารกัมพูชาที่ปลดอาวุธสามารถเดินทางเข้าไปเยี่ยมชมภายในตัวปราสาทตาเมือนธมได้เช่นเดิม ซึ่งทำให้วันนี้มีสื่อมวลชนไทยและกัมพูชาเดินทางเข้าบันทึกภาพ รายงานข่าวในปราสาทตาเมือนธมกันอย่างคึกคัก
ขณะที่ทหารฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.อ. แก๋ว ปง รองผู้บัญชาการทหารบก (รองผบ.ทบ.) กัมพูชา พ.อ.แป๋ง โวย นายทหารระดับสูงของกัมพูชาและคณะ ได้เดินทางมาเข้ามาเยี่ยมชมดูลาดเลาภายในปราสาทตาเมือนธม โดยมี พ.อ.อดุล บุณธรรมเจริญ ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 26 พร้อมด้วยนายทหารพราน ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด
ทางด้านนายประสงค์ นุรักษ์ ส.ว. และ กรรมาธิการทหาร วุฒิสภาได้เดินทางมายังปราสาทตาเมือนธม และเข้าพูดคุย กับ พ.อ.อดุล พร้อมได้พบปะพูดคุย กับ พล.อ.แก๋ว ปง ที่เดินทางมาเยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธมดังกล่าวด้วย
นายประสงค์ เปิดเผยภายหลังว่า สถานการณ์ต่างๆ ที่ปราสาทตาเมือนธมวานนี้ค่อนข้างเรียบร้อยดี ทหารดูแลพื้นที่ให้อยู่ในความสงบได้และยืนยันว่า ปราสาทตาเมือนธม เป็นของประเทศไทย ส่วนทหารกัมพูชาที่เดินทางข้ามชายแดนเข้ามาที่ปราสาทตาเมือนธมเป็นการเข้ามาท่องเที่ยว แม้แต่งกายด้วยชุดทหารก็ไม่ได้มีการพกพาอาวุธเข้ามาแต่อย่างใด ถือว่าทุกอย่างอยู่ในความเรียบร้อย และทหารไทยสามารถจัดระเบียบได้ดี อย่างไรก็ตาม การที่ทหารกัมพูชาแต่งกายด้วยชุดทหารเข้ามาได้ โดยเฉพาะเป็นนายทหารระดับสูงในสถานการณ์อย่างนี้ถือว่าไม่เหมาะสม
“ส่วนกรณีที่สมเด็จฯฮุน เซน จะเดินทางเข้ามายังปราสาทตาเมือนธมนั้นไม่สามารถกระทำได้อย่างแน่นอน ทุกอย่างต้องผ่านกระบวนการกระทรวงการต่างประเทศเท่านั้น ” นายประสงค์ กล่าว
**"วีระ"นำทัพปชช.บุกตาเหมือนธม
ต่อมาเวลา 12.30 น.ที่วัดบ้านหนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ นายวีระ สมความคิด ประธานภาคีเครือข่ายติดตามสถานการณ์กรณีเขาพระวิหาร พร้อมด้วยมวลชนสมาชิกเครือข่ายกว่า 150 คน ได้เดินทางโดยขบวนรถยนต์ กว่า 40 คัน เข้ามาเจรจากับ นายธีรวัฒน์ สุดสุข นายอำเภอพนมดงรัก ซึ่งตั้งจุดตรวจสกัดร่วมกับ เจ้าหน้าที่ทหารพรานอยู่ที่บริเวณวัดบ้านหนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก เพื่อขออนุญาตผ่านจุดตรวจเข้าไปยังตัวปราสาทตาเมือนธม เพื่อเข้าเยี่ยมชมและประกาศเจตนารมณ์การเคลื่อนไหวของพลังมวลชนในครั้งนี้ ซึ่งการเจรจาใช้เวลาประมาณ 20 นาที
จากนั้น นายอำเภอพนมดงรัก ได้นำกลุ่มแกนนำ ภาคีเครือข่ายติดตามสถานการณ์กรณีเขาพระวิหาร เข้าเจรจาร่วมกับ พ.อ.กิตติศักดิ์ บุญพระธรรมชัย รองผู้บัญชาการกรมทหารราบเฉพาะกิจที่ 23 ในฐานปฏิบัติการยุทธการ กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ซึ่งตั้งอยู่ภายในวัดบ้านหนองคันนา เช่นกัน โดยได้ข้อตกลงร่วมกันว่า การเข้าไปยังปราสาทตาเมือนธมให้แบ่งการเดินทางไปเป็นชุด และ ห้ามไม่ให้มีการถ่ายภาพที่ตั้งของทหารไทย และให้ท่องเที่ยวด้วยความสงบ
จากนั้นกลุ่มพลังมวลชนได้ เดินทางไปยังปราสาทตาเมือนธม โดยการควบคุมของ นายวีระ สมความคิด ซึ่งได้เข้าเยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธมและแสดงเจตนารมณ์ของประชาชนในการปกป้องแผ่นดินไทยอย่างถึงที่สุด ก่อนเดินทางกลับด้วยความสงบเรียบร้อยในช่วงบ่ายวันเดียวกัน
**ยัน"ฮุน เซน"ประชิดชายแดนไทยวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า มีรายงานข่าวทางการทหารยืนยันว่า สมเด็จฯ ฮุน เซน มีกำหนดการเดินทางมาเยือนพื้นที่ชายแดนกัมพูชา-ไทย ด้านปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก ในช่วงเที่ยงวันนี้ ( 8 ก.พ.) ค่อนข้างแน่นอน โดยมีกำหนดเป็นประธานเปิดใช้ถนนเส้นทางจากบ้านกู่ อ.สำโรง จ.อุดรมีชัย ระยะทาง 13 กิโลเมตรมุ่งหน้าตรงมายังปราสาทตาเมือนธม ชายแดนไทยห่างตัวปราสาทราว 400 เมตร ซึ่งบุตรสาวของสมเด็จฯ ฮุน เซน เป็นผู้ร่วมรณรงค์หาเงินสนับสนุนค่าก่อสร้าง
พร้อมเป็นประธานเปิดหมู่บ้านตาเมือน ซึ่งเป็นหมู่บ้านแนวกันชนชายแดนแห่งใหม่ ที่ฝ่ายกัมพูชาสร้างบ้านเรือนให้กับทหารและประชาชนชาวกัมพูชาได้เข้ามาอยู่อาศัยติดกับชายแดนไทย จำนวน 400 หลังคาเรือน ห่างจากตัวประสาทตาเมือนธมไปประมาณ 4 กิโลเมตร (กม.) และเป็นประธานเปิดที่ทำการ กองพันทหารชายแดนที่ 422 บ้านโอร์รุมจอง ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม ราว 6 กิโลเมตร
**ทหารตรึงอุบลฯกำลังช่องบก
วันเดียวกันที่ช่องบกบ้านโดมประดิษฐ์ ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี นายวิโรฒ มีแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นายอิทธิพร บุญประคอง รองอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ พล.ต.ชวลิต ชุนประสาน ผบ.กองกำลังสุรนารี (กกล.) พ.อ.นิรุทธ์ เกตุศิริ ผบ.ฉก.กรมทหารราบที่ 16 ได้ไปรอพบปะกับผู้แทนฝ่ายกัมพูชา ซึ่งมีข่าวว่าสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา จะเดินทางมาเปิดใช้ถนนตัดใหม่จากเมืองจอมกระสาน จ.พระวิหาร มาที่สามเหลี่ยมมรกต ซึ่งสามเหลี่ยมรกต เป็นรอยต่อพรมแดน 3 ประเทศคือ ไทย ลาว และกัมพูชา ตั้งอยู่บนเทือกเขาพนมดงรัก เขตบ้านโดมประดิษฐ์ ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน
กระทั่งถึงเวลาฝ่ายกัมพูชามี พล.ท.ซอ ทาวี รอง ผวจ.พระวิหาร และ พล.ท.ซรัย ดึ๊ก ผบ.กองพลสนับสนุนที่ 3 เดินทางมาพบกับตัวแทนฝ่ายไทย ซึ่งรออยู่ในศาลาตรีมุขตรงจุดรอยต่อ 3 ประเทศ เพื่อร่วมรับประทานอาหารเที่ยงและเจรจาหารือด้านความร่วมมือ โดยให้ผู้สื่อข่าวรออยู่ที่ฐานปฏิบัติการอนุพงศ์ของหน่วยทหารพราน ซึ่งอยู่ห่างจากศาลาตรีมุขราว 2 กิโลเมตร การเจรจาใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ตัวแทนกัมพูชาและไทย จึงได้แยกย้ายกันเดินทางกลับ
**"ฮุนเซน”ขลาด!ส่งสมุนมาคุย
นายวิโรฒ กล่าวถึงหัวข้อการเจรจาว่ามีการพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องการสร้างความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศในระดับท้องถิ่น โดยจะมีการจัดแข่งขันกีฬา รวมทั้งการละเล่นต่างๆ ร่วมกันในอนาคต และฝ่ายกัมพูชายังได้ร้องขอฝ่ายไทย ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมกับผู้ป่วยที่เป็นชาวกัมพูชา ซึ่งจะเดินทางข้ามแดนเข้ามาขอรับการรักษาที่โรงพยาบาลฝั่งไทย เนื่องจากกัมพูชาไม่มีสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน ซึ่งฝ่ายไทยได้ตอบรับยินดีให้การช่วยเหลือ
นายวิโรฒ กล่าวอีกว่า การหารือครั้งนี้ไม่มีการพูดคุยเรื่องความสัมพันธ์ระดับนโยบาย มีแต่หารือเฉพาะในส่วนท้องถิ่นเท่านั้นและสมเด็จฯฮุน เซน ก็ไม่ได้เดินทางเข้ามาบริเวณสามเหลี่ยมมรกต เพียงแต่เป็นประธานเปิดใช้ถนนและเยี่ยมเยียนประชาชนชาวกัมพูชาในเขตเมืองจอมกระสานเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศรอบรอยต่อสามเหลี่ยมมรกตมีการวางกำลังรักษาการณ์ตามแนวชายแดนทั้งฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาอย่างคึกคัก แต่ไม่มีบรรยากาศของความตรึงเครียดของทั้งสองฝ่ายแต่อย่างใด