xs
xsm
sm
md
lg

ฮุนเซนเยือนเขาพระวิหาร อยากย้อนเวลาไปหารัฐบาลหุ่นเชิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายฮุนเซน เดินทางขึ้นไปยังบริเวณปราสาทพระวิหาร เมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา
หากไม่มี การเคลื่อนไหวคัดค้านของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อกลางปี 2551 ที่ต่อต้านรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช ที่มีมติสนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก แต่เพียงฝ่ายเดียว และคัดค้านที่นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในขณะนั้น ลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย- กัมพูชา เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2551 สนับสนุนการขึ้นทะเบียนของฝ่ายกัมพูชาแล้ว ป่านนี้พื้นที่ทับซ้อน 4.7 ตารางกิโลเมตร รอบๆ ปราสาทเขาพระวิหาร อาจจะกลายเป็นของกัมพูชาไปแล้วก็ได้

เพราะในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ที่นายนพดลไปลงนามร่วมกับนายซก อาน รัฐมนตรีต่างประเทศของกัมพูชาที่กรุงปารีส แบบเงียบๆ ไม่ยอมบอกให้ใครรู้ ไม่ขอความเห็นชอบจากรัฐสภา ตามมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญ มีข้อตกลงข้อหนึ่ง ที่ระบุว่า ทางกัมพูชาและไทยจะร่วมกันจัดทำแผนการบริหารจัดการพื้นที่ด้านเหนือและด้านตะวันตกรอบๆ ปราสาทเขาพระวิหาร

แผนการบริหารจัดการดังกล่าวนี้จะบรรจุไว้ในแผนการบริหารจัดการสุดท้ายสำหรับ ปราสาทพระวิหารและบริเวณรอบๆ ปราสาท ซึ่งจะยื่นเสนอต่อศูนย์กลางมรดกโลก (World Heritage Centre) ภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553 เพื่อการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณามรดกโลก ในการประชุมครั้งที่ 34 ใน พ.ศ.2553

พื้นที่ด้านเหนือและด้านตะวันตกรอบๆ ปราสาทเขาพระวิหารนี้ ก็คือ พื้นที่ทับซ้อน 4.7 ตารางกิโลเมตรนั่นเอง หากกัมพูชาสามารถผลักดันให้แผนการบริหารจัดการนี้เดินหน้าไปได้ ก็หมายความว่า พื้นที่ทับซ้อน4.7 ตารางกิโลเมตรนี้ จะถูกผนวกเป็นมรดกโลกกับปราสาทเขาพระวิหารไปด้วย แต่เป็นมรดกโลกของกัมพูชาฝ่ายเดียว ไม่ได้เป็นมรดกโลกร่วมกันของกัมพูชาและไทย

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยังขอให้ศาลปกครอง มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ให้แถลงการณ์นี้เป็นโมฆะ และเพิกถอนมติ ครม.วันที่ 17 มิถุนายน 2551 ที่อนุมัติแถลงการณ์ฉบับนี้ เพราะขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ส่งผลให้แถลงการณ์ ร่วมไทย- กัมพูชา ไม่มีผลผูกพันประเทศไทย

หลังจากนั้น พรรคประชาธิปัตย์นำเรื่อง แถลงการณ์ร่วมมาเป็นประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายนพดล ข้อมูลที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในเวลานั้น นำมาอภิปราย เป็นการชำแหละนายนพดลกลางสภา ให้ประชาชนเห็นถึงเงื่อนงำในแถลงการณ์ที่ทีเจตนายกพื้นที่ 4.7 ตารางกิโลเมตรให้กัมพูชา จนทำให้นายนพดล จำใจต้องลาอออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2551 และต่อมาได้เขียนหนังสือชื่อ “ผมไม่ได้ขายชาติ” เพื่ออธิบายว่า ทำไมเขาจึงไม่ได้เป็นคนขายชาติ

ถึงแม้ว่า ยูเนสโก จะอนุมติให้ขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม 2551 แต่เป็นการขึ้นทะเบียนเฉพาะตัวปราสาทเท่านั้น และเป็นการขึ้นทะเบียนที่ยังไม่สมบูรณ์ เพราะกัมพูชา ต้องไปจัดทำแผนบริหารจัดการพื้นที่รอบๆ ปราสาทเขาพระวิหาร โดยตั้งคณะกรรมการ 7 ชาติเป็นผู้บริหาร ซึ่งยูเนสโกให้เวลา 2 ปี จะครบกำหนดในปีนี้ ที่กัมพูชาจะต้องเสนอต่อที่ประชุมยูเนสโก ในเดือนกรกฎาคมปีนี้ ที่บราซิลให้พิจารณา

หากกัมพูชา ไม่สามารถจัดทำแผนฯ ได้ การขึนทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก อาจถูกระงับ ซึ่งจนถึงบัดนี้ ยังไม่มีความคืบหน้าเลย เพราะหลังจากยูเนสโกอนุมัติการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร เป็นมรดกโลกเพียงไม่กี่วัน ก็เกิดการปะทะกันในพื้นที่ทับซ้อน 4.7 กิโลเมตร เมื่อกองทัพไทยส่งทหารเข้าไปในพื้นที่ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2551 เพื่อตรึงกำลังกับทหารกัมพูชา ที่เข้ามาอยู่ก่อนแล้ว เป็นการรักษาสิทธิในพืนที่ทับซ้อนเอาไว้

ในวันที่นายฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเดินทางมาที่ปราสาทเขาพระวิหาร เขากล่าวกับพลโทวีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย บนปราสาทเขาพระวิหารว่า อยากให้ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชากลับไปเหมือนก่อนวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 ที่ยังไม่มีเหตุปะทะกัน

นายฮุนเซนย่อมต้องการย้อนเวลาให้ถอยหลังกลับไป 2 ปีแน่ เพราะก่อนวันที่ 15 กรกฎาคม 2551 นั้น เขามีอิทธิพลเหนือรัฐบาลนอมินีของ นช.ทักษิณ ชินวัตรทุกอย่าง อยากขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกฝ่ายเดียว โดยพ่วงเอาพื้นที่ทับซ้อน 4.7 ตารางกิโลเมตรไปด้วย รัฐบาลในขณะนั้นก็จัดให้ นายสมพงษ์ อมรวิวิวัฒน์ ที่มาเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศแทนนายนพดล เดินทางไปพบนายฮุนเซน ขากลับเครื่องบินยังไม่ทันถึงสนามบินสุวรรณภูมิ นายฮุนเซนให้สัมภาษณ์ด่าประเทศไทยเป็นข่าวออกไปทั่วโลก แต่นายสมพงษ์ และรัฐบาลนอมินีไม่กล้าตอบโต้สักแอะ

หลังการเปลี่ยนขั้วอำนาจทางการเมืองของไทยที่เด็กฮุนเซนตกกระป๋องไป นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่นายฮุนเซนจะแค้นนายอภิสิทธิ์ และนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย จนยอมร่วมมือกับ นช.ทักษิณ ชินวัตร ล่วงละเมิดประเทศไทย เพราะว่าทั้งสองคนนี้ ไม่ยอมเป็นลูกไร่ของเขา และทำให้การขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก กำลังจะถูกระงับในการประชุมที่จะมีขึ้นในเดือนกรกฎาคมนี้

การเลือกเดินทางมาเยือนปราสาทเขาพระวิหาร และพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาอื่นๆ ในช่วงวันที่ 6-8 กุมภาพันธ์ของนายฮุนเซน เป็นช่วงเวลาที่กัมพูชาจะต้องยื่นแผนบริหารจัดการพื้นที่รอบๆ ปราสาทเขาพระวิหารให้ยูเนสโกแล้ว ซึ่งยังไม่มีข่าวอย่างเป็นทางการเลยว่า กัมพูชาได้ยื่นไปแล้วหรือยัง แต่หากพิจารณาจากสถานการณ์ไทย-กัมพูชาในรอบ 1 ปี กว่าที่ผ่านมา เป็นไปไม่ได้ที่จะมีการจัดทำแผนฯ เพราะไทยต้องเป็นหนึ่ง ในคณะกรรมการบริหารแผนนี้ด้วย

นายฮุนเซนคงจะดูทีวีและฟังวิทยุพวกเสื้อแดงมากไปหน่อย และคงจะไปหลงเชื่อใครก็ไม่รู้ว่า นายอภิสิทธิ์จะอยู่ในอำนาจอีกไม่นาน ที่ผ่านมาจึงโจมตีนายอภิสิทธิ์โดยไม่คำนึงถึงมารยาททางการทูต แต่ถึงวันนี้ นายอภิสิทธิ์ยังเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ และเวลาของการปฏิบัติตามเงื่อนไขของยูเนสโกในการขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกก็เหลือน้อยลงๆ ทุกที หากถึงเวลา ปราสาทเขาพระวิหารไม่ได้เป็นมรดกโลก เขาจะตอบคนเขมรและกองทัพกัมพูชาอย่างไร

นายฮุนเซนไม่รู้จะทำอย่างไร จึงตัดสินใจมาเยือนเขาพระวิหารในช่วงนี้ เพื่อให้เป็นข่าว และหวังว่าจะฉวยโอกาสเหยียบแผ่นดินพื้นที่ทับซ้อน 4.7 ตารางกิโลเมตร เป็นสัญลักษณ์ว่านี่คือแผ่นดินของกัมพูชา และหากรัฐบาลไทยส่งบุคคลระดับสูงไปต้อนรับ ก็จะได้ถือโอกาสแสดงท่าทีต่อไทยอีกครั้งหนึ่ง

แต่การที่รัฐบาลไทยส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และฝ่ายความมั่นคง ในระดับท้องถิ่นคือ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และแม่ทัพภาคที่ 2 ไปต้อนรับ อันเป็นการแสดงท่าทีของระดับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่อยู่ในระดับไม่ปกติ ทำให้นายฮุนเซนผิดหวังไม่น้อย ที่ฝ่ายไทยไม่สนใจ ไม่ให้ความสำคัญ และคำเตือนจากกกองทัพกัมพูชาเองว่า อย่ายั่วยุทหารไทย ทำให้เขาไม่กล้าเฉียดเข้าใกล้พื้นที่ทับซ้อน

นายฮุนเซนอยากให้ไทยถอนทหารออกจาพื้นที่ทับซ้อน เขาจะได้เอาไปอ้างกับยูเนสโกว่า พื้นที่รอบๆ ปราสาทเขาพระวิหาร คืนสู่สภาพปกติ ไม่มีความขัดแย้งแล้ว แต่นายอภิสิทธิ์ยืนยันว่า ไม่ถอน

การคงกำลังทหารไว้ในพื้นที่ทับซ้อนของไทย เพื่อแสดงสิทธิ ในระหว่างที่ยังมี่ข้อสรุปว่า จะจัดการพื้นที่ตรงนี้อย่างไร การคงกำลังทหารไว้ ไม่ทำให้ไทยเดือดร้อนแต่อย่างใด คนที่เดิอดร้อนคือนายฮุนเซน
06/02/52 "ฮุนเซน" ถึงเขาพระวิหารแล้ว "แม่ทัพภาค2" รอต้อนรับ


06/02/52 "มาร์ค" ยืนยัน "ฮุนเซน" ลงพื้นที่ทับซ้อน สถานการณ์ไม่น่าห่วง


06/02/52 "อนุพงษ์" เชื่อ"ฮุนเซน" ไปเขาพระวิหารไม่มีวาระซ่อนเร้น


07/02/52 “อภิสิทธิ์” ลั่นไม่ถอนกำลังเขาวิหาร เอือม “ฮุนเซน” ขู่เป็นสันดาน


07/02/52 คุมเข้ม “ปราสาทตาเมือนธม” หลัง “ฮุนเซน” เตรียมลงพื้นที่


07/02/52 “วีระ” ลงพื้นที่ “ปราสาทตาเมือนธม” ทหารไทย-เขมร ประจันหน้าเตรียมพร้อม!

กำลังโหลดความคิดเห็น