ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “พล.ท.วีร์วลิต” มทภ.2 จับตา “ฮุนเซน” เหยียบเขาพระวิหาร รุดหารือ “พล.อ.เจีย ดารา” รอง ผบ.สส.เขมรวางแผนรับมือร่วมกัน ลั่นหากเข้ามาพื้นที่ 4.6 ตร.กม.ที่ไทยรับผิดชอบลาดตระเวนอยู่ต้องปลดอาวุธ ระบุการข่าวไม่พบ “นช.แม้ว” เดินทางมาด้วย ชี้ไม่น่าห่วงเชื่อไม่เกิดเหตุรุนแรงบานปลาย พร้อมแจง ปชช.อย่าตื่นตระหนก เผย “ฮุนเซน” เตรียมโผล่อีกชายแดน “ปราสาทตาเมือนธม” จ.สุรินทร์ และ อ.น้ำยืน อุบลฯ
วันนี้ (5 ก.พ.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) เปิดเผยก่อนเป็นประธานการชุมผู้บังคับหน่วย ผบ.กำลังพลประจำเดือน ก.พ.ของกองทัพภาคที่ 2 ถึงกรณี สมเด็จฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาและคณะ จะเดินทางมาเยือนเขาพระวิหารและพื้นที่พิพาทหรือทับซ้อน 4.6 ตารางกิโลเมตร (ตร.กม.) ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ระหว่างวันที่ 6-9 ก.พ.นี้ ว่า ยังไม่มีการเพิ่มเติมกำลังทหารของฝ่ายไทยในพื้นที่ชายแดนขณะนี้กำลังพลยังประจำการอยู่ตามปกติ
ล่าสุดได้รับการประสานงานจากทหารฝ่ายกัมพูชาเมื่อเช้าวันนี้ (5 ก.พ.) แจ้งว่า อยากจะพูดคุยเรื่องเกี่ยวกับมาตรการในการช่วยกันดูแลความปลอดภัยให้กับ สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งตนตกลงว่าในช่วงบ่ายวันนี้จะเดินทางไปพบปะพูดคุย กับ พล.อ.เจีย ดารา รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดกัมพูชา ที่บริเวณผามออีแดง เพื่อกำหนดแนวทางการปฏิบัติร่วมกันในห้วงที่สมเด็จฯฮุน เซน เดินทางมาเยือนเขาพระวิหาร
ทั้งนี้ เพื่อจะได้ทราบว่าการปฏิบัติของทางฝ่ายกัมพูชามีอะไรบ้าง และเราจะได้ทำอะไรอย่างไร เพื่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดี เกิดความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดนให้มากที่สุด
พล.ท.วีร์วลิต กล่าวต่อว่า ในเบื้องต้นการเดินทางมาของสมเด็จฯ ฮุนเซน ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ลึกๆ อะไรเรายังไม่ทราบ แต่วัตถุประสงค์หลักที่ทราบคือ ต้องการเดินทางมาเปิดหมู่บ้านธรรมชาติสีหะราชเดโชสมเด็จฯ ฮุนเซน ที่บริเวณใกล้บ้านโกมุย ใต้เขาพระวิหาร ในเขตประเทศกัมพูชา และมาเปิดหน่วยกองพลน้อยสนับสนุนที่ 3 พร้อมเยี่ยมเยียนให้กำลังใจบำรุงขวัญทหารของกัมพูชาที่ปฏิบัติตามแนวชายแดนในฐานะที่ สมเด็จฯ ฮุนเซน เป็นผู้นำสูงสุดของกองทัพกัมพูชา
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เรายังไม่ทราบกำหนดการที่ชัดเจน เพียงแต่ได้รับมอบหมายจากทางรัฐบาลและทางกองทัพบก โดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้มอบหมายให้ตนดำเนินการ และจะมีเจ้าหน้าที่บางส่วนของกระทรวงที่เกี่ยวข้องอาจเข้ามาร่วมในการให้การต้อนรับ ซึ่งในรายละเอียดในช่วงบ่ายของวันนี้คงได้หารือกันชัดเจนขึ้น
กรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อาจร่วมเดินทางมาด้วย ได้ติดตามความเคลื่อนไหวเรื่องนี้อย่างไร พล.ท.วีร์วลิต กล่าวว่า จากฐานการข่าวที่มีอยู่ไม่ปรากฏว่า อดีตนายกฯ ทักษิณ อยู่ในประเทศกัมพูชา ฉะนั้นตรงนี้เรายังวิเคราะห์ว่า น่าจะไม่ได้เดินทางร่วมมาด้วย เป็นเพียงการปฏิบัติภารกิจของผู้นำทางกัมพูชาเท่านั้น
ต่อข้อถามที่ว่า หากพบ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางมาพร้อมกับสมเด็จฯ ฮุนเซน ในพื้นที่ทับซ้อนจริงจะทำอย่างไรและหนักใจหรือไม่ พล.ท.วีร์วลิต กล่าวว่า ไม่น่าหนักใจ แต่ถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะมาในฐานะอะไร เราคงต้องถามกันตรงนั้นก่อน อย่าเพิ่งไปคิดว่าท่านจะมา ตนเชื่อมั่นว่า อดีตนายกฯ ทักษิณคงไม่มาโดยไม่มีการแจ้งเตือนหรือไม่มีอะไรทั้งนั้น เพราะขณะนี้ก็ไม่ได้ปรากฏข่าวว่าท่านอยู่ในกัมพูชาด้วยซ้ำไป
“ถ้าหากท่านมาแล้วเราเจอตัวอยู่ในเขตกัมพูชาคงทำอะไรไม่ได้ เพราะของเราเป็นเพียงแต่ได้รับภารกิจในการดูแลความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน” พล.ท.วีร์วลิต กล่าว
พล.ท.วีร์วลิต กล่าวอีกว่า ส่วนความเคลื่อนไหวของกำลังทหารฝ่ายกัมพูชา นั้นจากรายงานล่าสุดอาจมีการเตรียมพร้อมอยู่บ้าง โดยเฉพาะกำลังในแนวหลังที่เป็นแนวที่สอง จากแนวชายแดนลงไปมีการเข้มงวดกวดขันในการลาดตระเวนเพิ่มขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ เพราะเหตุการณ์ที่ผ่านมาได้มีการปะทะกันในกรณีขบวนการตัดไม้ทำลายป่า ตอนนี้ทางกัมพูชาก็เข้มงวดในเรื่องนี้เช่นกันจึงอาจมีการเคลื่อนไหวกำลังพลบ้าง
ต่อข้อถามที่ว่า หากสมเด็จฯ ฮุนเซนและคณะพร้อมกองกำลังคุ้มครองความปลอดภัย ข้ามเข้ามายังพื้นที่ทับซ้อนที่ทหารไทยลาดตระเวนอยู่ได้เตรียมการไว้อย่างไร พล.ท.วีร์วลิต กล่าวว่า เรื่องนี้คงต้องขอดูกันก่อนว่าการที่จะข้ามเข้ามาเข้ามาอย่างไร แต่ถ้าหากติดอาวุธเข้ามาในเขตที่ไทยเรารับผิดชอบหรือเป็นพื้นที่ของเรา เราคงยอมไม่ได้ เราอาจต้องมีการปลดอาวุธเหล่านี้
การเดินทางมาเยือนเขาพระวิหารและพื้นที่ทับซ้อนของนายกรัฐมนตรีกัมพูชาครั้งนี้เหมือนกับเป็นการมาแสดงความเป็นเจ้าของหรือไม่ พล.ท.วีร์วลิต กล่าวว่า ก็ไม่เชิงในการที่จะแสดงความเป็นเจ้าของ เพราะขณะนี้เพียงแต่เขายื่นความประสงค์ว่าอยากขึ้นมาที่ปราสาทพระวิหาร มาเยี่ยมกำลังพลของเขา และอาจมีโอกาสขึ้นมาเยี่ยมเยียนทางปราสาทตาเมือนธม ด้าน จ.สุรินทร์ รวมถึง อาคารตรีมุก บริเวณสามเหลี่ยมมรกต ชายแดนไทย-กัมพูชา-สปป.ลาว ด้านอ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ด้วย
“อย่างไรก็ตาม จากการข่าวในขณะนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง และไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงอะไร เพราะท่าที่ต่างๆ ที่ฝ่ายกัมพูชาได้โทรศัพท์ติดต่อประสานมา เขาก็อยากให้เหตุการณ์ต่างๆ มีความสงบเรียบร้อย มีความปลอดภัยสูงสุดต่อผู้นำของเขา” พล.ท.วีร์วลิต กล่าว
พล.ท.วีร์วลิต กล่าวต่อว่า สำหรับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ นั้น ขณะนี้ทหารเราได้แจ้งเตือนไปยังหน่วยทหารต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่ได้ออกประชาสัมพันธ์ว่า ไม่ต้องไปตื่นตระหนกหรือวิตกกังวลในสถานการณ์ต่างๆ นี้ ตนคิดว่าไม่น่าจะขยายวงหรือก่อให้เหตุการณ์ใด ทางกองทัพภาคที่ 2 เราพร้อมที่จะรับสถานการณ์แต่ขณะเดียวกันอยากจะให้มีความสงบเรียบร้อยที่สุด จะไม่ให้กระทบต่อประชาชนของทั้ง 2 ฝั่ง หรือทั้ง 2 ประเทศ ตามที่เราได้ตกลงกันไว้ ส่วนการเตรียมพร้อมอยู่ระดับใดนั้นข ณะนี้ทหารเราเตรียมพร้อมเหมือนปรกติที่เราเคยมีอยู่ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ
นอกจากนี้ พล.ท.วีร์วลิต ยังกล่าวถึงการเดินทางเข้าพบนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงที่กรุงเทพฯ เมื่อวานนี้ (4 ก.พ.) ว่า ท่านได้กำชับขอให้ทางกองทัพภาคที่ 2 ได้ปฏิบัติตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งเรื่องนี้ทางเราได้กระทำอยู่แล้ว โดยให้มีการประสานความสัมพันธ์กับฝ่ายกัมพูชามากขึ้น และอาจมีการจัดเตรียมกำลัง เพื่อควบคุมสถานการณ์ไม่ให้เกิดเหตุการณ์อะไรที่จะขยายวงกว้างออกไป