xs
xsm
sm
md
lg

กัมพูชาถอนทหาร พ้น"ตาควาย"แล้ว มทภ.2แจงมาเจรจา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ทหารเขมรยอมถอนกำลังติดอาวุธออกจาก “ตาควาย” แล้ว หลังเจรจาได้ข้อตกลงให้แต่ละฝ่ายวางกำลังในฝั่งตัวเองห่างจากตัวปราสาท 100 เมตร และไม่วางกำลังติดอาวุธในตัวปราสาท ”มทภ.2" ยัน “ตาควาย” ของไทย ไม่ถูกยึด แต่ยอมรับกองกำลังเขมรติดอาวุธเข้ามาจริง อ้างเพื่อเจรจาถามความชัดเจนในการเปิดให้ขึ้นชม “ปราสาทตาเมือนธม”

วานนี้ (12 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีสถานการณ์ความตรึงเครียดทาง การทหารบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาด้านปราสาทตาควาย บ้านไทยสันติสุข ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังจากทหารกัมพูชา นำโดย พล.ต.แปน โวย ผู้บังคับการทหารชายแดนที่ 42 ทหารภูมิภาคที่ 4 กัมพูชา นำกำลังทหารพร้อมอาวุธครบมือกว่า 300 นายบุกเข้ายึดปราสาทตาควาย ตั้งแต่กลางดึกวันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยได้วางกำลังทั้งภายในและบริเวณรอบปราสาทตาควาย พร้อมยื่นเงื่อนไขเจรจาให้ฝ่ายทหารไทยถอนกำลังออกจากภายในตัวปราสาตาเมือนธม บ้านหนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ในช่วงบ่ายวันที่ 11 ก.พ.นั้น

ผลการเจรจาวานนี้ (12ก.พ.) ระหว่างทหารพรานกองร้อยทหารพราน ที่ 2602 และชุดเฉพาะกิจกรมหทารพรานที่ 26 ฝ่ายไทย กับ พล.ต.แปน โวย ผู้บังคับการทหารชายแดนที่ 42 และ พ.อ.เมี๊ยะ วงศ์ รองผู้บังคับการทหารชายแดนที่ 42 กัมพูชาที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม เมื่อช่วงเย็นวันที่ 11 ก.พ.ผ่านมา ทั้ง 2 ฝ่ายได้ข้อตกลงร่วมกันให้ทหารกัมพูชาถอนกำลังออกจากบริเวณปราสาทตาควาย โดยให้แต่ละฝ่ายวางกำลังทหารในพื้นที่ฝั่งเขตแดนของตัวเองห่างจากบริเวณปราสาทฝ่าย 100 เมตร และไม่ให้มีวางกำลังติดอาวุธภายในตัวปราสาทตาควาย ทำให้ขณะนี้ปัญหาความตึงเครียดบริเวณชายแดนปราสาทตาควายได้คลี่คลายลง

**ไทยเปิด“ตาเมือนธม”เข้าชมได้

ขณะที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม บ้านหนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก สถานการณ์ความตึงเครียดทางการทหารวานนี้ (12 ก.พ.) คลี่คลายลงเช่นกัน โดยกองร้อยทหารพรานจู่โจม ที่ 960 กรมทหารพรานที่ 26 กองกำลังสุรนารี ได้ถอนการวางกำลังติดอาวุธออกจากภายในตัวปราตาเมือนธม แต่ยังคงการลาดตระเวนตามแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ทหารไทยยังได้ยกเลิกการตั้งด่านสกัดกั้นปิดเส้นทางเข้าไปยังปราสาทตาเมือนธม โดยเปิดให้ประชาชนสามารถเดินทางเข้าไปเที่ยวชมปราสาทตาเมือนธมได้แล้ว หลังจากปิดห้ามเข้านับตั้งแต่สมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เดินทางมาเยือนชายแดนนี้เมื่อวันที่ 8 ก.พ.เป็นต้นมา ส่วนฝั่งด้านประเทศกัมพูชา ประชาชนชาวกัมพูชารวมทั้งทหารกัมพูชาที่ปลดอาวุธก็สามารถเดินทางเข้ามาเยี่ยมชมประสาทตาเมือนธมได้แล้วเช่นกัน

**มทภ.2 รับเขมรติดอาวุธบุก"ตาควาย"

วันเดียวกัน เวลา 10.30 น.ที่ห้องประชุมอาคารวิบูลย์ศักดิ์ ภายในค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยถึงสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาด้านปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ หลังมีข่าวทหารกัมพูชาได้บุกเข้ายึดว่า ไม่เป็นความจริง เพราะพื้นที่ปราสาทตาควาย หากหันหน้าไปทางฝั่งกัมพูชาจะอยู่ด้านซ้ายมือของปราสาทตาเมือนธม ขึ้นมาทางด้านทิศตะวันออกประมาณ 10-12 กิโลเมตร จุดนี้ไม่มีถนนที่รถยนต์เข้าไปได้ ต้องใช้การเดินเท้าเพียงอย่างเดียว เราจึงได้กำหนดให้เป็นจุดประสานงานร่วมกันของทหารทั้ง 2 ประเทศเท่านั้น ซึ่งจะมีการนัดพบตามเวลาที่ได้ตกลงกันไว้ โดยไม่มีการพกพาอาวุธเข้าไปแต่อย่างใด

"เมื่อวันที่ 11 ก.พ.มีกำลังของกัมพูชาส่วนหนึ่งติดอาวุธเข้ามาในฝั่งของเขา แต่ไม่ได้เข้ามาในพื้นที่ของไทย ลักษณะเหมือนเข้ามาสอบถามว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นที่ปราสาทตาเมือนธม ได้มีการปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมจริงหรือไม่ ซึ่งอาจเกิดจากการเข้าใจผิดกัน เพราะฝ่ายไทยเรา โดยผมในฐานะแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ขอให้ฝ่ายกัมพูชาอย่าพานักท่องเที่ยวขึ้นมาเฉพาะวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมาเท่านั้น เนื่องจากในวันดังกล่าวมีกลุ่มมวลชนของเราขึ้นมาชุมนุม ฉะนั้น ผู้ที่เข้ามาในวันนั้นจึงได้บอกไปว่าของดไว้ก่อนเพราะไม่สะดวกที่จะให้ขึ้นชมและขอให้ขึ้นมาในวันหลัง ซึ่งกำลังของฝ่ายไทยเราที่อยู่ในพื้นที่ก็ยังไม่ได้รับคำสั่งให้ยกเลิก" แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว

พร้อมกล่าวต่อว่า “จนกระทั่งเมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมาทางฝ่ายกัมพูชาจึงได้มาประสานและทางฝ่ายไทยก็ยืนยันว่า เราพร้อมที่จะเปิดให้ขึ้นชมได้ตามข้อตกลงร่วมกัน ตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ.จึงเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวของทั้ง 2 ฝ่ายเข้าชมได้ตามปกติ ทางฝ่ายกัมพูชาจึงได้ถอนกำลังและกลับออกจากพื้นที่ไปแล้ว ไม่ได้มีปัญหาหรือเงื่อนไขอะไรเหมือนที่เป็นข่าว”

**ยัน "ปราสาทตาควาย" เป็นของไทย

พล.ท.วีร์วลิต กล่าวอีกว่า ปราสาทตาควายนั้นตั้งอยู่ในแนวเส้นเขตแดนที่ยังไม่ได้เจรจากัน ซึ่งปัญหาการแบ่งเส้นเขตแดนเกิดขึ้นตลอดในจุดที่ตกลงกันยังไม่ได้ แต่ละฝ่ายก็มีการอ้างสิทธิ์ของตัวเอง ซึ่งมันเป็นผลกระทบไปหมด แต่ในส่วนของปราสาทตาควาย ฝ่ายไทยเราก็ยืนยันว่าเป็นของไทยเรา แต่ไม่ได้หยิบยกขึ้นมาพูด หรือเรียกร้องเหมือนกรณีปราสาทพระวิหาร เป็นเพียงแค่ว่าปราสาทหลังหนึ่งอยู่ใกล้กับแนวพรมแดนของทั้ง 2 ประเทศ และยังไม่มีการเจรจาในคณะกรรมการปักปันเขตแดน ฉะนั้น เราจึงมีการตกลงร่วมกันเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นของทั้ง 2 ฝ่าย คือ ใช้เป็นจุดประสานงานร่วมกัน

"ขอยืนยันว่า ไม่มีกำลังของทหารกัมพูชาเข้ามายึดที่ปราสาทตาควาย ซึ่งขณะนี้การเจรจาความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพของทั้ง 2 ก็ยังมีการพูดคุยกันได้ดีอยู่” พล.ท.วีร์วลิต กล่าว และกล่าวย้ำอีกว่า สำหรับการเคลื่อนไหวของฝ่ายกัมพูชาจนถึงขณะนี้จากรายงานทราบว่ามีการเคลื่อนกำลังกลับไปแล้วหลังจากขึ้นไปปฏิบัติหน้าที่อารักขาสมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเสร็จสิ้นในช่วงวันที่ 5-10 ก.พ.ที่ผ่านมา

ส่วนของไทยก็ไม่ได้มีการเพิ่มเติมกำลังเข้าไปเพียงแต่ได้รับนโยบายว่า ให้ดูแลความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน เพราะฉะนั้นไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลัง หรือเสริมกำลังแต่อย่างใด เพราะกำลังที่มีอยู่เพียงพอตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าในช่วงนี้จะมีการพบปะกับฝ่ายกัมพูชาเพื่อสานสัมพันธ์ที่ดีต่อกันหรือไม่ พล.ท.วีร์วลิต กล่าวว่า จากการที่ได้พบปะพูดคุยกับผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 ของฝ่ายกัมพูชาเมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา และได้มอบหมายให้กองเลขาทั้ง 2 ฝ่าย มีการนัดพบพูดคุยระดับอาร์บีซี. ร่วมกัน คาดว่าจะมีการประชุมในเดือน มี.ค.นี้ ส่วนรายละเอียดในการประชุม วัน เวลา และสถานที่อยู่ระหว่างการเจรจากันอยู่ โดยสาระสำคัญที่จะพูดคุยกันในการประชุมอาร์บีซี.ครั้งนี้จะพูดคุยถึงการจัดระเบียบที่บริเวณด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชาช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นช่องทางที่มีการค้าขายและประชาชนไปมาหาสู่กันจำนวนมาก แต่ยังขาดความสะดวก เช่น ศุลกากร, ตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งมีความเห็นตรงกันว่าจะทำให้บริเวณนี้มีความสะดวกมากขึ้น โดยมีการจัดระเบียบกันใหม่ทั้งหมด
กำลังโหลดความคิดเห็น