โฆษกทบ.ยืนยันชายแดนไทย-กัมพูชายังปกติ

โฆษกทบ.ชี้แจงผ่านคลื่นวิทยุกองทัพบก ยืนยันชายแดนไทย-กัมพูชายังปกติ ส่วนทหารกัมพูชาไปปราสาทตาควาย เหตุเพราะเข้าใจผิดหลังปรับเปลี่ยนกำลังดูแลชายแดน ชี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวห้าม “ฮุน เซน” เยี่ยมชมตาเมือนธม

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ได้ออกอากาศทางคลื่นวิทยุกองทัพบก เพื่อชี้แจงกรณีสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะกระแสข่าวกองกำลังทหารกัมพูชาบุกรุกยึดพื้นที่บริเวณปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ ว่า ข้อมูลข่าวสารในพื้นที่บริเวณแนวชายแดนมีความอ่อนไหวและเปราะบาง หากข้อมูลคาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริงมีความเป็นไปได้ที่ทำให้สถานการณ์ที่มีความเข้าใจกันดีระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาเปลี่ยนแปลงไปในทางไม่ดี

อย่างไรก็ตาม ปราสาทเขาพระวิหารบริเวณพื้นที่แนวชายแดนฝั่งไทย คือ จ.ศรีสะเกษ ส่วนฝั่งกัมพูชา คือ จ.พระวิหาร ส่วนทิศตะวันตกบริเวณปราสาทตาเมือนธม-ปราสาทตาควาย อยู่ในพื้นที่ จ.สุรินทร์ ซึ่งพื้นที่ปราสาทตาเมือนธมไทยขึ้นทะเบียนเป็นโบราณ สถานของกรมศิลปากร ตั้งแต่ปี 2524 ดังนั้น ในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม เราเป็นฝ่ายที่ครอบครองอย่างชัดเจน เราเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวทุกชาติ รวมถึงคนกัมพูชาสามารถขึ้นมาเที่ยวได้ ทหารกัมพูชาเข้ามาได้ แต่ต้องไม่ติดอาวุธในฐานะผู้มาติดต่อประสานงานหรือเป็นนักท่องเที่ยว

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวอีกว่า สำหรับปราสาทตาควาย บริเวณทางทิศตะวันออกของปราสาทตาเมือนธม ห่างไปประมาณ 15 กิโลเมตร ยังไม่มีความชัดเจนว่าเป็นของใคร ต้องตกลงเรื่องการปักปันเขตแดน โดยคณะกรรมการร่วมของทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งนี้เรามีข้อตกลงกับกัมพูชาว่าพื้นที่บริเวณปราสาทตาควาย ทั้ง 2 ฝ่าย จะไม่สามารถเข้าไปครอบครองพื้นที่ดังกล่าวได้ เพราะกำลังทหารฝ่ายไทยต้องตั้งแนวถอยออกจากปราสาทตาควายออกไปในฝั่งของบ้านเรา โดยที่เราอยู่ห่างออกไปประมาณ 800 เมตร ถึง 1 กิโลเมตร ส่วนกัมพูชาก็ถอยกำลังออกห่างจากปราสาทตาควายเช่นกันประมาณเกือบ 2 กิโลเมตร เหตุที่ไม่เท่ากันเพราะฝั่งของไทยเป็นพื้นที่โล่ง แต่ด้านฝั่งกัมพูชาพื้นที่ค่อนข้างเป็นป่ารกทึบ การวางกำลังจึงมีระยะห่างจากปราสาทตาควายไม่เท่ากัน

“พื้นที่ปราสาทตาควายเราตกลงกันนอกเหนือการวางกำลังทหารถอยออกมา คือ เราใช้เป็นจุดในการติดต่อประสานงานของทหารทั้ง 2 ฝ่ายมีประเด็นปัญหาที่จะพูดคุยทำความเข้าใจ แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารโดยชุดลาดตระเวนทั้ง 2 ฝ่ายจะมาที่ปราสาทตาควายตามที่ข้อตกลงไว้ แต่บังเอิญ เมื่อวานนี้ (11 ก.พ.) ที่ผ่านมา ทหารกัมพูชา เข้าไปที่ปราสาทตาควาย น่าจะไปลาดตระเวณตามปกติ แล้วไม่ยอมกลับลงไป ทหารกองกำลังสุรนารีที่ลาดตระเวรตามปกติไปเจอที่บริเวณดังกล่าว ซึ่งทหารไทยเราถอนตัวกลับตามข้อตกลง แต่ทหารกัมพูชาไม่กลับ แต่หลังจากการพูดคุยในระยะเอียดและข้อตกลงของทั้ง 2 ประเทศ ก่อนที่จะแยกย้ายกันออกจากพื้นที่

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบภายหลังทราบว่าทหารกัมพูชาเข้าใจว่ามีการสับเปลี่ยนกำลังในพื้นที่ จ.อุดรมีชัย ทำให้ทหารที่ไปปราสาทตาควาย ไม่ชัดเจนในข้อตกลงที่พูดคุยกันไว้ ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบแล้วเข้าใจตรงกันก็ถอนกำลังออกมาเรื่องก็จบไม่มีอะไรเกิดขึ้น” พ.อ.สรรเสริญ ระบุ

พ.อ.สรรเสริญ ยังกล่าวอีกว่า ปราสาทตาเมือนธม ในช่วงที่ผ่านมาเราเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวเข้าไปตลอด แต่ข้อมูลข่าวสารที่คลาดเคลื่อนไปเกิดจาก วันที่ 6 - 8 ก.พ.ที่ผ่านมา เพราะ สมเด็จ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา มาเยือนพื้นที่ชายแดนโดยวันที่ 6 ก.พ.ไปที่พระวิหาร วันที่ 7 ก.พ.ไปที่ช่องบก วันที่ 8 ก.พ. ไปที่ปราสาทตาเมือนธม โดยก่อนหน้าวันที่ 8 ก.พ. ท่านได้ส่งเจ้าหน้าที่มาติดต่อประสานทหารไทยว่า จะมาที่ ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งที่เราอนุญาตไม่มีปัญหาอะไร เมื่อเป็นผู้นำกัมพูชาเรายินดีต้อนรับอยู่แล้ว แต่ต้องเป็นไปตามข้อตกลงเมื่อปราสาทตาเมือนธมเป็นพื้นที่ของไทย หากท่านจะเข้ามาจะมีกองกำลังติดอาวุธมาไม่ได้ จะต้องมาในลักษณะท่องเที่ยว ปกติเราให้เกียรติอยู่แล้ว

“ก่อนวันที่ 8 ก.พ.53 มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมฝั่งประเทศไทย ที่มีความไม่พึ่งพอใจการตรวจเยี่ยมพื้นที่ของผู้นำกัมพูชา และเป็นเรื่องการเมืองภายในประเทศของไทย เจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ได้พิจารณาดูแล้ว หากปล่อยให้ สมเด็จ ฮุน เซน เข้ามาพร้อมผู้อารักขา แม้ไม่ได้ติดอาวุธก็ตาม ถ้าเกิดมีการโต้เถียงปะทะคารม หรือแสดงกิริยาวาจากับผู้เคลื่อนไหวทางการเมืองของฝั่งไทย อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดปัญหาอาจจะรุกลามบานปลายเกินไปกว่าที่จะแก้ไขได้

ดังนั้นเราเลือกคุยกับผู้นำของทหารกัมพูชา ว่าเรียนให้ สมเด็จ ฮุน เซน ว่าเรามีปัญหาเรื่องการเมืองของเรา ขอความกรุณาแล้วโอกาสหน้าค่อยว่ากันใหม่ ทั้งนี้ ผู้นำทหารกัมพูชาเข้าใจ และไปเรียนชี้แจง สมเด็จ ฮุน เซน ส่วนการทำความเข้าใจทหารกัมพูชากับสมเด็จ ฮุน เซน เป็นอย่างไรคงไม่รู้ในรายละเอียด” พ.อ.สรรเสริญ กล่าว

พ.อ.สรรเสริญ บอกด้วยว่า ถือเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ที่ไม่พึงพอใจที่ผู้นำของกัมพูชาไม่สามารถเดินทางมาเยี่ยมชมที่ปราสาทเมือนธมได้ แต่เรายึดมั่นว่าความเข้าใจระหว่างกองทัพไทย โดยกองกำลังสุรนารี กับ หน่วยทหารกัมพูชาที่รักษาพื้นที่นั้นเราเข้าใจกันดี ทั้งนี้เมื่อเราตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ทางทหารกัมพูชาก็ไปเรียนสมเด็จ ฮุน เซน ว่าอย่าเพิ่งเดินทางเข้ามาในบริเวณดังกล่าวเลย ตรงนี้เป็นจุดที่ข้อมูลข่าวสารคลาดเคลื่อน

ส่วนที่หลายฝ่ายพยายามโยงเห็นว่า เพราะ สมเด็จ ฮุน เซน ไม่ได้เข้ามาที่ปราสาทตาเมือนธม ตามที่ต้องการหรือไม่ จึงทำให้ไม่พอใจ และส่งทหารมาปราสาทตาควาย ตามที่เป็นข่าว ตนขอย้ำว่าเป็นคนละกรณีกัน เรื่องที่ปราสาทตาควาย หรือ ปราสาทตาเมือนธมไม่เกี่ยวกัน ไม่สามารถโยงใยได้ แต่เราไม่ได้สามารถห้ามความคิดบุคคลที่จะวิพากษ์วิจารณ์ได้ แต่อย่างน้อยก็เรียนให้ทราบว่าข้อมูลเป็นแบบนี้