นายกฯ ยันสถานการณ์ชายแดนไทย-เขมร ยังเรียบร้อยดี จ่อส่งหนังสือถึงยูเนสโกคัดค้านเขมรนำปราสาทพระวิหารขึ้นทะเบียนมรดกโลก พร้อมใช้สิทธิ์ขอดูแผนพัฒนาพื้นที่ของเพื่อนบ้าน ลั่นไม่ยอมเสียดินแดนแน่ ยังไม่คิดลงทัวร์ชายแดนบ้าง เชื่อเรื่องไม่ต้องถึงขั้นเข้าศาลโลก ชี้ยังไม่มีประเทศไหนได้เปรียบ รับ “ฮุนเซน” ฉุนถูกไทยขวางขึ้นทะเบียน ไม่พูดเลิกสังฆกรรมยูเนสโกหากยกให้เป็นมรดกโลก
วันนี้ (8 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลังจากไม่เดินทางไปปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ แล้วว่า ทุกอย่างก็เรียบร้อยดีเพราะเรายืนยันแล้วว่าหากมาในฝั่งของเราก็จำเป็นที่ต้องปฏิบัติตามในเรื่องการประสาน ซึ่งตนก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ส่วนที่มีการเปลี่ยนชื่อหมู่บ้านของกัมพูชาในฝั่งตรงข้ามไทยว่าเป็นหมู่บ้านตาเมือนธมแทนก็เป็นเรื่องของเขา เป็นฝั่งของเขา ซึ่งตนเชื่อว่าจะมีปัญหาใดๆ ตามมา เรายืนยันตลอดว่าเราใช้หลักอะไรในการแบ่งเขตแดนและเรายืนยันในการยึดถือตามบันทึกข้อตกลงไทย-กัมพูชาเดิมว่า กลไกในการแก้ปัญหาในจุดที่ยังไม่สามารถทำหลักเขตแดนได้จะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้มีการละเมิดเข้ามา
เมื่อถามว่า รัฐบาลรู้เท่าทันแท็กติกของกัมพูชาในเรื่องนี้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เราไม่มีปัญหาเพราะเรายืนยันในจุดยืนเดิมของเราและไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และตนคิดว่าไม่มีความยากลำบากในการจัดการพื้นที่กับประเทศเพื่อนบ้านในสถานการณ์แบบนี้ เพราะเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายมีความพร้อมและความเข้าใจที่ดี โดยขณะนี้เรากำลังจะนำแผนมาดูและเราต้องแสดงท่าทีจะส่งหนังสือไปยังคณะกรรมการมรดกโลกขององค์กรยูเนสโก เพื่อคัดค้านในการขึ้นทะเบียนแผนพัฒนาพื้นที่ปราสาทเขาพระวิหารของกัมพูชาที่มีการล้ำในเขตแดนของไทยไปอยู่แล้ว และเป็นจุดที่เราต้องดูอย่างมากที่สุด ทางเราจะทำเต็มที่เพราะเราแสดงความคิดเห็นมาตลอดและตนใช้หลายโอกาสให้การพูดคุยทำความเข้าใจกับหลายฝ่ายและรับฟังความห่วงใยของไทยว่าการขึ้นทะเบียนแบบนี้คืออะไรและจะทำอย่างต่อเนื่อง และจะเห็นว่าสมเด็จฯ ฮุนเซน แสดงความไม่พอใจหลายครั้งที่ไทยดำเนินการอยู่ ขณะที่ก่อนหน้านี้กัมพูชายังไม่ได้ส่งแผนพัฒนาพื้นที่แต่ตอนนี้ส่งแล้วและเมื่อส่งแล้วไทยจะขอดู เพราะเป็นสิทธิที่ไทยจะได้ดูและแสดงความคิดเห็น และคิดว่ายูเนสโกต้องให้ไทยดูเพราะไทยมีกรรมการในนั้นด้วย สำหรับแนวโน้มที่ยูเนสโกจะอนุมัติให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ก็อยู่ที่การพิจารณาของคณะผู้ชำนาญการและคณะกรรมการยูเนสโกจะตัดสินใจอีกครั้งและช่วงนี้เราจะนำแผนที่มาดูและเสนอความเห็นประกอบไป รวมทั้งทำความเข้าใจกับทุกประเทศ ทั้งนี้ตนจะไม่ยอมให้ไทยสูญเสียพื้นที่ 4.6 ตร.กม.รอบๆบริเวณปราสาทพระวิหารและจะมีการติดตามใกล้ชิด โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯทราบดีและจะดำเนินการ
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ไทยมีแผนรองรับไว้แก้เกมในเรื่องนี้หรือไม่ เพราะท่าทีของกัมพูชาต้องการพื้นที่ 4.6 ตร.กม. นายกฯกล่าวว่า เขาตั้งใจมาสองปีแล้วและเราพยายามเต็มที่ ฉะนั้นต้องมีแผนรองรับ เมื่อถามว่าปัญหาคือสองประเทศไม่ได้ใช้แผนที่ฉบับเดียวกัน นายกฯ กล่าวว่า ต้องทำความเข้าใจกับคณะกรรมการฯ ว่าเราไม่ยอมรับในแผนที่ซึ่งยังไม่เป็นที่ยอมรับและไม่สอดคล้องกับหลักที่กำหนดไว้ในสนธิสัญญา เมื่อถามว่าจะอธิบายให้สังคมเข้าใจได้หรือไม่ในเรื่องสถานะของการขึ้น ทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารของกัมพูชาหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า แถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาใช้ไม่ได้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สถานการณ์ขึ้นทะเบียนนั้น คณะกรรมการฯมิมติให้ขึ้นทะเบียนแต่ให้มีการจัดทำแผนและช่วงที่ผ่านมา กัมพูชาไม่สามารถจัดทำแผนได้ ส่วนหนึ่งเพราะไทยยืนยันว่าพื้นที่ที่เกี่ยวข้องมันกินเข้ามาในดินแดนไทย ฉะนั้นก็มีปัญหาในการจัดทำแผนและการสำรวจตลอดเวลาเพราะไทยยืนยันไปและเป็นสิ่งบ่งบอกแสดงให้เห็นว่าการที่คณะกรรมการฯ ไปขึ้นทะเบียนและกำหนดพื้นที่การบริหารจัดการรอบๆปราสาทเขาพระวิหารนั้นจะกระทบกระเทือนความสัมพันธ์ของสองประเทศ เมื่อถามว่า แสดงว่าการขึ้นทะเบียนของกัมพูชายังไม่สมบูรณ์ นายกฯกล่าวว่า ขณะนี้ถือว่ามีมติรับแต่ให้ไปทำแผน และขึ้นอยู่กับว่าแผนจะผ่านหรือไม่ ความจริงเส้นตายสำหรับการยื่นแผนคือเมื่อปีที่แล้วแต่มีการเลื่อนให้หนึ่งปี เมื่อถามว่า นายกฯ มีแผนลงพื้นที่ 4.6 ตร.กม.บ้างหรือไม่ นายกฯกล่าวว่าตอนนี้ยังไม่มีแต่ไม่มีปัญหาอะไรเพราะเรามีคนของเราอยู่ตรง นั้นตลอดอยู่แล้ว เมื่อถามว่าจะนำเรื่องนี้เสนอสู่ศาลโลกหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ยังไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไปขึ้นศาลโลก
เมื่อถามว่าตอนนี้ไทยหรือกัมพูชาที่ได้เปรียบ นายกฯ กล่าวว่า ตนถือว่ามีข้อตกลงกันอยู่ในการจัดทำหลักเขตแดนไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ เพราะควรเคารพกับข้อตกลงที่มีกันไว้
“ส่วนที่มองว่าเรื่องนี้คล้ายว่ากัมพูชาเดินเกมรุกมากกว่าไทยนั้น เสร็จแล้วก็กลับไปและไม่สามารถไปยืนยันอะไรได้นอกจากว่าได้เข้ามาในสิ่งที่ เรายืนยันว่าเป็นของเราได้” นายอภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามว่า การส่งแผนที่ของกัมพูชานั้นคล้ายว่าไม่เคารพไทยเพราะไม่มีการสอบถามกันเลย นายกฯ กล่าวว่า การส่งแผนนั้นกัมพูชาทำมาตั้งแต่ต้นในรัฐบาลนู้นแล้ว เมื่อถามว่า มีแผนรองรับอย่างไรหากแผนนี้ผ่านและไทยจะลาออกจากคณะกรรมการฯ หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า จะมีการเตรียมการแต่ในชั้นนี้ต้องดำเนินการคัดค้านในเรื่อง แผนที่ที่ไม่เป็นที่ยอมรับ และไทยคัดค้านต่อคณะกรรมการฯ ตลอด เป็นสาเหตุหนึ่งที่สมเด็จฯ ฮุนเซน ไม่พอใจ เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่ไทยจะไม่เป็นสมาชิกยูเนสโก นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่พูดถึงตรงนั้น เพราะวันนี้เรายังเป็นสมาชิกอยู่และดำเนินการตามขั้นตอน เมื่อถามว่า มีแนวโน้มว่าปราสาทเขาพระวิหารจะพลิกกับมาเป็นของไทยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตัวปราสาทนั้นต้องมีข้อมูลใหม่จึงจะสามารถไปดำเนินการได้ ส่วนกระแสข่าวที่องค์การสหประชาชาติมีความห่วงใยต่อปัญหานี้นั้น หากมีเวลา มีโอกาสคุยกับยูเอ็นก็จะอธิบายให้เขาทราบว่าเราเป็นห่วงเรื่องนี้เช่นกัน