ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “มทภ.2” ยันสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาอยู่ในภาวะปกติ ชี้กรณีพบรถถัง-ปืนใหญ่และอาวุธหนักเขมรประชิด “ตาเมือนธม” เป็นการเคลื่อนย้ายกลับที่ตั้งหลังมาจัดแสดง ในงานเปิดค่าย ตชด.422 ของ “ฮุน เซน” ระบุปราสาทตาควาย ก่อสร้างอะไรไม่ได้ชี้เป็นจุดประสานงานร่วมกันหากเข้าพื้นที่ทุกฝ่ายต้องปลดอาวุธ
วันนี้ (11 ก.พ.) เมื่อเวลา 16.30 น. พล.ท.วีร์วลิต จรสัมฤทธิ์ แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย –กัมพูชา ขณะอยู่ระหว่างการปฏิบัติภารกิจที่ จ.อุบลราชธานีว่า สถานการณ์โดยรวมจนถึงขณะนี้ทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว กำลังพลของทั้ง 2 ฝ่ายยังพูดคุยและรับประทานอาหารร่วมกัน ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาอาจมีความตึงเครียดเกิดขึ้นบ้างโดยเฉพาะด้านปราสาทพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ และปราสาทตาเมือนธม บ้านหนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เพราะในห้วงวันที่ 5-10 ก.พ. เป็นช่วงที่สมเด็จฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชาเดินทางมาปฏิบัติภารกิจตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งกำลังทหารของแต่ละฝ่ายได้เพิ่มมาตรการเข้มงวดมากขึ้น
โดยเฉพาะในวันที่ 8 ก.พ. ที่มีข่าวว่า สมเด็จฯ ฮุน เซน จะเดินทางขึ้นมาชมปราสาทตาเมือนธมทำให้สถานการณ์ด้านนี้ตึงเครียด ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ชี้แจงไปแล้วว่า หากขึ้นมาต้องประสานผ่าน 2 ช่องทางคือ ทางการทูต และการใช้ความสัมพันธ์ทางทหาร แต่สุดท้ายสมเด็จฯฮุน เซน ก็ไม่เดินทางขึ้นมา มีเพียงคณะนายทหารของกัมพูชาจากภูมิภาคทหารที่ 1 ที่ขอขึ้นมาชมปราสาทพร้อมยินดีจะปลดอาวุธ แต่ฝ่ายไทยเราได้แจ้งว่าสถานการณ์ยังมีความตึงเครียดอยู่ เกรงจะเกิดเหตุวุ่นวายขึ้นจึงไม่อนุญาตให้คณะนายทหารดังกล่าวขึ้นมาชมปราสาทขอให้มาในวันหลัง ซึ่งฝ่ายกัมพูชาก็เข้าใจและเดินทางกลับไป
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า ทางฝ่ายกัมพูชามีการขนอาวุธหนัก รถถัง ปืนใหญ่เข้ามาประชิดแนวชายแดนด้านปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ นั้น พล.ท.วีร์วลิต กล่าวว่าไม่เป็นความจริง ซึ่งจากการข่าวทราบว่าทางฝ่ายกัมพูชาได้ขนอาวุธหนัก เช่น รถถัง ปืนใหญ่ หรืออาวุธต่างๆ ขึ้นมาจัดแสดงประกอบพิธีการเปิดค่ายตชด. ที่ 422 บ้านกู่ ฝั่งประเทศกัมพูชา ห่างจากชายแดนไทยไปประมาณ 6 กม. ซึ่งสมเด็จ ฯ ฮุน เซน ผู้นำของกัมพูชา ได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดค่ายดังกล่าวเมื่อวันที่ 8 ก.พ.ไปแล้ว และในช่วงนี้อาจเป็นช่วงที่มีการเคลื่อนย้ายอาวุธต่างๆ รวมถึงรถถังที่นำมาจัดแสดงกลับออกไปจากพื้นที่ไปไว้ในที่ตั้ง จึงดูเหมือนว่ามีการเคลื่อนย้ายรถถังตามที่เป็นข่าว
“แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่มีอะไรน่าเป็นห่าง เพราะเป็นการเคลื่อนย้ายตามปกติเมื่อภารกิจเสร็จสิ้น ฉะนั้นประชาชนไม่ต้องกังวลหรือเป็นห่วงแต่อย่างใด” พล.ท.วีร์วลิต กล่าว
พล.ท.วีร์วลิต กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์ชายแดนด้านปราสาทตาควาย บ.ไทยสันติสุข ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งอยู่ห่างจากปราสาทตาเมือนธม ไปทางด้านทิศตะวันออกประมาณ 13 กม. ที่มีข่าวว่าฝ่ายกัมพูชาสร้างกระเช้าลำเลียงเสบียงอาหารและอาวุธขึ้นมายังปราสาทตาควาย นั้น ก็ไม่เป็นความจริง เพราะกัมพูชาจะสร้างกระเช้าขึ้นมาไม่ได้ เนื่องจากบริเวณปราสาทตาควายเป็นจุดประสานงานร่วมกัน โดยตามข้อตกลงการขึ้นไปบริเวณปราสาทตาควาย กำลังพลของทั้ง 2 ฝ่ายจะต้องปลดอาวุธ การที่ฝ่ายใดจะขึ้นมาสร้างอะไรหรือทำอะไรต้องพูดคุยกันก่อน
“อย่างไรก็ตามยืนยันว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการก่อสร้างใด ๆ รวมถึงกระเช้าขึ้นมาทั้งสิ้น” พล.ท.วีร์วลิต กล่าวย้ำ
