ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “พล.ต.ท.สมคิด” ยืนยันนั่งเก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ต่อตราบใดที่ผู้บังคับบัญชายังคงให้ความไว้วางใจ และพร้อมเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ กรณีที่ถูกกล่าวหาคดีอุ้มฆ่านักธุรกิจซาอุฯ ขณะเดียวกัน ย้ำการโยกย้ายแต่งตั้งนายตำรวจ มีการพิจารณาอย่างเป็นธรรม เผยเตรียมส่งทนายฟ้องดำเนินคดี “รักเชียงใหม่ 51” ที่กล่าวหาว่าเป็นฆาตกรและรับเงินซื้อขายตำแหน่ง
จากกรณีที่กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 หรือกลุ่มเสื้อแดงเชียงใหม่ มีการชุมนุมเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องเพื่อกดดันให้ พลตำรวจโทสมคิด บุญถนอม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ออกจากตำแหน่งจากกรณีถูกกล่าวหามีส่วนเกี่ยวข้องในคดีอุ้มฆ่านักธุรกิจซาอุดิอาระเบียนั้น
วันนี้ (1 ก.พ.) พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวว่า ในคดีดังกล่าวที่ถูกกล่าวหานั้น ตนเองได้ผ่านขั้นตอนการสอบสวนดำเนินคดีและพิสูจน์ข้อเท็จจริงต่างๆ ไปแล้วเมื่อ 20 ปีก่อน ขณะที่ในเวลานี้ที่มีการสั่งฟ้องโดยกล่าวหาว่าตนเองมีส่วนเกี่ยวข้องก็ต้องมีขั้นตอนกระบวนการดำเนินการต่างๆ อีก ซึ่งก็พร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง
สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นั้น ยังคงยืนยันที่จะปฏิบัติหน้าที่ในความรับผิดชอบต่อไปตราบใดที่ผู้บังคับบัญชายังคงให้ความไว้วางใจในการทำงาน ส่วนการที่กลุ่มคนเสื้อแดงบอกว่า จะดำเนินการยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้มีคำสั่งให้ตนเองต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น ก็เป็นสิทธิของกลุ่มคนเสื้อแดงที่สามารถทำได้
ส่วนกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงกล่าวหาว่า ตนเองพิจารณาโยกย้ายแต่งตั้งนายตำรวจในตำรวจภูธรภาค 5 อย่างไม่เป็นธรรม พร้อมระบุว่ามีการรับผลประโยชน์นั้น พลตำรวจโทสมคิด กล่าวว่าข้อกล่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยยืนยันว่าการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจยึดความเป็นธรรม ความรู้ความสามารถและอาวุโส รวมทั้งผ่านการพิจารณาระดับจังหวัดมาก่อนที่จะเข้าสู่การพิจารณาระดับภาค ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ หากคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม
ทั้งนี้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า จากกรณีที่กลุ่มรักเชียงใหม่กล่าวหาว่าตนเองเป็นฆาตกรและทำการโยกย้ายแต่งตั้งนายตำรวจอย่างไม่เป็นธรรม โดยรับผลประโยชน์นั้น โดยส่วนตัวเห็นว่าการแสดงความคิดเห็นต่างๆ เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ ตราบใดที่ไม่เป็นการล่วงละเมิดสิทธิของผู้อื่น ซึ่งจากกรณีที่ถูกกล่าวหานี้ตนก็จะใช้สิทธิของตนเอง โดยจะแต่งตั้งทนายความให้ดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีต่อไป
นอกจากนี้ พล.ต.ท.สมคิด กล่าวถึงการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลควบคุมสถานการณ์ช่วงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า เป็นการทำหน้าที่ตามปกติ ไม่ใช่เพื่อเป็นการปกป้องตัวเองแต่อย่างใด โดยหากกลุ่มคนเสื้อแดงมีการกระทำใดที่ผิดกฎหมาย ก็จะต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมายโดยไม่ได้รับการยกเว้น
จากกรณีที่กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 หรือกลุ่มเสื้อแดงเชียงใหม่ มีการชุมนุมเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องเพื่อกดดันให้ พลตำรวจโทสมคิด บุญถนอม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ออกจากตำแหน่งจากกรณีถูกกล่าวหามีส่วนเกี่ยวข้องในคดีอุ้มฆ่านักธุรกิจซาอุดิอาระเบียนั้น
วันนี้ (1 ก.พ.) พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวว่า ในคดีดังกล่าวที่ถูกกล่าวหานั้น ตนเองได้ผ่านขั้นตอนการสอบสวนดำเนินคดีและพิสูจน์ข้อเท็จจริงต่างๆ ไปแล้วเมื่อ 20 ปีก่อน ขณะที่ในเวลานี้ที่มีการสั่งฟ้องโดยกล่าวหาว่าตนเองมีส่วนเกี่ยวข้องก็ต้องมีขั้นตอนกระบวนการดำเนินการต่างๆ อีก ซึ่งก็พร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง
สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นั้น ยังคงยืนยันที่จะปฏิบัติหน้าที่ในความรับผิดชอบต่อไปตราบใดที่ผู้บังคับบัญชายังคงให้ความไว้วางใจในการทำงาน ส่วนการที่กลุ่มคนเสื้อแดงบอกว่า จะดำเนินการยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้มีคำสั่งให้ตนเองต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นั้น ก็เป็นสิทธิของกลุ่มคนเสื้อแดงที่สามารถทำได้
ส่วนกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงกล่าวหาว่า ตนเองพิจารณาโยกย้ายแต่งตั้งนายตำรวจในตำรวจภูธรภาค 5 อย่างไม่เป็นธรรม พร้อมระบุว่ามีการรับผลประโยชน์นั้น พลตำรวจโทสมคิด กล่าวว่าข้อกล่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง โดยยืนยันว่าการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจยึดความเป็นธรรม ความรู้ความสามารถและอาวุโส รวมทั้งผ่านการพิจารณาระดับจังหวัดมาก่อนที่จะเข้าสู่การพิจารณาระดับภาค ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ หากคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม
ทั้งนี้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า จากกรณีที่กลุ่มรักเชียงใหม่กล่าวหาว่าตนเองเป็นฆาตกรและทำการโยกย้ายแต่งตั้งนายตำรวจอย่างไม่เป็นธรรม โดยรับผลประโยชน์นั้น โดยส่วนตัวเห็นว่าการแสดงความคิดเห็นต่างๆ เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ ตราบใดที่ไม่เป็นการล่วงละเมิดสิทธิของผู้อื่น ซึ่งจากกรณีที่ถูกกล่าวหานี้ตนก็จะใช้สิทธิของตนเอง โดยจะแต่งตั้งทนายความให้ดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีต่อไป
นอกจากนี้ พล.ต.ท.สมคิด กล่าวถึงการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดูแลควบคุมสถานการณ์ช่วงการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า เป็นการทำหน้าที่ตามปกติ ไม่ใช่เพื่อเป็นการปกป้องตัวเองแต่อย่างใด โดยหากกลุ่มคนเสื้อแดงมีการกระทำใดที่ผิดกฎหมาย ก็จะต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมายโดยไม่ได้รับการยกเว้น