ที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ มีมติให้รับการกระทำผิดทางอาญากรณี “นช.แม้ว” ให้สัมภาษณ์หมิ่นในหลวง ผ่านไทมส์ออนไลน์ ชี้กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ จึงมีมติให้รับเป็นคดีพิเศษ เชื่อจะมีผู้ร้องโทษกล่าวทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนทั่วประเทศ
วันนี้ (25 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ครั้งที่ 9 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในการประชุม เพื่อพิจารณารับคดีอาญาไว้เป็นคดีพิเศษที่ต้องดำเนินการสืบสวนตามพระราช บัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547
จากนั้น นายสุเทพ ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า ที่ประชุมได้รับเรื่องพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคดีพิเศษแล้ว ส่วนคณะกรรมการสอบสวนจะขอข้อมูลเพิ่มเติมจากสื่อต่างประเทศหรือไม่เป็น เรื่องของพนักงานสอบสวนที่จะดำเนินการ ด้านพ.ต.อ. ณรัชย์ เศวตนันท์ โฆษกดีเอสไอ ให้สัมภาษณ์ว่า ที่ประชุมดีเอสไอมีมติให้รับคดีความผิดทางอาญา กรณีการติดตามทรัพย์สินที่ถูกโจรกรรมจากประเทศซาอุดิอาระเบีย หรือคดีเพชรซาอุที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการอยู่ ให้เป็นคดีพิเศษ เพื่อจะได้ดำเนินการทำงานในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทางซาอุฯไปพร้อมๆกันทั้ง 3 เรื่อง นอกจากนี้ยังมีมติให้รับเรื่องการให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศลงในเว็บ ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นคดีพิเศษ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับเหตุผลที่ทาง กคพ.รับการกระทำผิดทางอาญา กรณีการให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศของพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคดีพิเศษ เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญที่กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ โดยบทสัมภาษณ์ดังกล่าวมีคำพูดที่พาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ และอาจเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรตามประมวลกฎหมายอาญา และความสงบเรียบร้อยของสังคม ซึ่งจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงทางดีเอสไอ จึงเสนอกคพ.ให้รับเป็นคดีพิเศษ เพื่อให้การติดตามข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วน คดีเพชรซาอุฯ นั้นทางกรรมการเห็นว่าเรื่องดังกล่าวมีผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความสัมพันธ์ ระหว่างประเทศไทยและประเทศซาอุดิอาระเบีย เนื่องจากยังมีทรัพย์สินบางรายการที่ยังสูญหาย ซึ่งทางซาอุฯได้ขอร้องให้ประเทศไทยโดยกรมสอบสวนคดีพิเศษติดตามทรัพย์สินดังกล่าว และดำเนินการกับผู้ครอบครองฐานตามประมวลกฎหมายอาญา
อย่าง ไรก็ตาม กคพ.ยังมีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะกรรมการคดีพิเศษเพื่อวิเคราะห์และกำหนด แนวทางการดำเนินคดีพิเศษที่มีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจการค้าและการลงทุน ระหว่างประเทศ เพื่อทำหน้าที่ศึกษาวิเคราะห์ และเสนอแนะ เพื่อกำหนดแนวทางในการทำงานไปโดยถูกต้องเหมาะสม