พิษณุโลก - ชาวบ้านรอบเหมืองทองอัคราฯโวยผู้ว่าฯพิจิตร เมินข้อเรียกร้องชาวบ้าน อ้างต้องรีบไปหามวลชน 500 คน หลังชาวบ้านเขาหม้อเข้ายื่นหนังสือจี้ให้อัคราไมนิ่งระงับการขยายบ่อเก็บกักแร่ ขณะที่ อบต.เขาเจ็ดลูก จี้ให้เหมืองทองอัคราฯแจงรายละเอียดพื้นบ่อขยายไปทิศทางไหน เพราะชาวบ้านเดือนร้อน พร้อมยกทีมแจ้งความดำเนินคดีเหมืองทองปิดทางสาธารณะชาวบ้านต่อ
เมื่อเวลา 9.00 น.วันนี้ (6 ม.ค.53) ชาวบ้าน 50 คนในเขตรอบเหมืองทองอัคราไมนิ่ง (ต.เขาหม้อ อ.วังโปร่ง จ.เพชรบูรณ์และต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร) ได้เข้ายื่นหนังสื่อต่อ นายสุในวิทย์ วัชโรทยางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เรียกร้องให้เหมืองทอง อัคราไมนิ่ง ยุติการขยายทำเหมืองทองคำ เพราะสร้างความเดือดร้อนกับชาวบ้าน ทั้งเรื่องมลภาวะเป็นพิษ น้ำใต้ดิน ฝุ่นละออง และเครื่องจักรกล โดยกลุ่มชาวบ้านได้พบกับผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร จากนั้นกลุ่มผู้เรียกร้องเดินทางต่อไปยังอุตสาหกรรมจังหวัดพิจิตรและสถานีตำรวจภูธรอำเภอทับคล้อเพื่อลงบันทึกประจำวัน
นางศิริวรรณ ธีระชาติดำรง สมาชิก อบต.เขาเจ็ดลูก เปิดเผยว่า เนื่องจากมีหนังสือจากเหมืองทองอัคราไมนิ่งลงวันที่ 24 ธันวาคม 2552 ถึง อบต.เขาเจ็ดลูก เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2552 เพื่อให้ความเห็นชอบหรือคัดค้านในการขยายพื้นที่เหมือง หรือ บ่อกักเก็บแร่ ซึ่งจะต้องลงนามภายใน 15 วัน และจะครบกำหนดวันที่ 10 มกราคมนี้
แต่ตนและชาวบ้านต้องการให้ยุติการขยายพื้นที่เหมือง-บ่อเก็บกักแร่ เพราะเหมืองทองอัคราฯไม่ได้ระบุพื้นที่ส่วนขยายไปในทิศทางไหนชัดเจน ชาวบ้านจึงไม่มั่นใจในความปลอดภัยของบ่อเก็บกักแร่ เกรงว่าจะติดกับพื้นที่ทำกินของชาวบ้าน (หมู่ 3 ต.เขาเจ็ดลูก) เห็นควรให้ยับยั้งการขยายบ่อเก็บกากแร่ ทางกลุ่มชาวบ้านรอบเหมืองจึงเดินทางไปหาผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรและอุตสาหกรรมพิจิตร
“ในฐานะอบต. ขอบอกให้บริษัทอัคราฯให้ชี้แจงอย่างละเอียดว่า บ่อกักเก็บแร่จะขยายไปตรงไหน เพราะชาวบ้านเดือนร้อน” อบต.เขาเจ็ดลูก เผย
น.ส.สื่อกัญญา ธีระชาติดำรง แกนนำชาวเขาหม้อเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนได้เข้าไปหาผู้ว่าฯพิจิตรชั้น 4 เพื่อคัดค้านคำขอขยายเหมืองของอัคราไมนิ่ง เพราะที่ผ่านมา ตนก็ร้องเรียนปัญหาสิ่งแวดล้อมของเหมืองทองอัคราฯ มาตลอด แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ครั้งนี้หากผู้ว่าฯอนุมัติ ผลกระทบที่ตามมา ก็จะมากขึ้นอีก ดังนั้นวันนี้ กลุ่มชาวบ้านเขาหม้อจึงขอความมั่นใจกับพ่อเมือง คือ ขอให้ผู้ว่าฯเซ็นรับหนังสือของชาวบ้าน แต่ผลสุดท้าย ผู้ว่าฯพิจิตรไม่ยอมเซ็น
พวกเราต้องการให้ผู้ว่าฯเซ็นรับรองในหนังสือวันนี้ ก็เพราะหนังสือเรียกร้องครั้งก่อนๆ ก็เคยยื่นให้ผู้ว่าฯ และก็โยนให้ลงเลขรับของจังหวัด สุดท้ายแล้ว ประทานบัตรเหมืองก็ออกมาจนได้ มาครั้งนี้ก็ขอให้ผู้ว่าฯช่วยเรา แต่เขาไม่ช่วยเรา เขาอ้างว่า มีผู้ใหญ่บ้านและ อบต.จำนวน 500 คนรออยู่ จะต้องออกเดินทางไปพบ ตนจึงได้สนทนาด้วยแค่ 20 นาที
จากนั้นเจ้าหน้าที่ (ชุดสีชมพู) ก็มาดึงหนังสือออกไป ถือว่า มาหาผู้ว่าฯครั้งนี้ ไม่ประสบความสำเร็จ ตนและชาวบ้านจึงไปหาอุตสาหกรรมจังหวัดพิจิตร เพื่อยับยั้งการขออนุญาต ขยายเหมือง”
จากนั้นพวกตนจะไปแจ้งความ สภ.ทับค้อ (จังหวัดพิจิตร) เนื่องจาก อัคราฯปิดทางสาธารณะประโยชน์ สายตะพานหิน-ทับคล้อ โดยปิดถนน(ชาวบ้าน)ในเขตจังหวัดพิจิตรจำนวน 5 เส้นทาง ซึ่งแม้จังหวัดพิจิตรได้ออกคำสั่งยกเลิกคำขอปิดถนนดังกล่าว แต่อำเภอไม่ยังดำเนินการ จึงต้องเข้าแจ้งความต่อ สภ.ทับคล้อ บ่ายวันนี้ (6 ม.ค.) ที่ปิดถนนทางสาธารณะของชาวบ้าน
เมื่อเวลา 9.00 น.วันนี้ (6 ม.ค.53) ชาวบ้าน 50 คนในเขตรอบเหมืองทองอัคราไมนิ่ง (ต.เขาหม้อ อ.วังโปร่ง จ.เพชรบูรณ์และต.เขาเจ็ดลูก อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร) ได้เข้ายื่นหนังสื่อต่อ นายสุในวิทย์ วัชโรทยางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เรียกร้องให้เหมืองทอง อัคราไมนิ่ง ยุติการขยายทำเหมืองทองคำ เพราะสร้างความเดือดร้อนกับชาวบ้าน ทั้งเรื่องมลภาวะเป็นพิษ น้ำใต้ดิน ฝุ่นละออง และเครื่องจักรกล โดยกลุ่มชาวบ้านได้พบกับผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร จากนั้นกลุ่มผู้เรียกร้องเดินทางต่อไปยังอุตสาหกรรมจังหวัดพิจิตรและสถานีตำรวจภูธรอำเภอทับคล้อเพื่อลงบันทึกประจำวัน
นางศิริวรรณ ธีระชาติดำรง สมาชิก อบต.เขาเจ็ดลูก เปิดเผยว่า เนื่องจากมีหนังสือจากเหมืองทองอัคราไมนิ่งลงวันที่ 24 ธันวาคม 2552 ถึง อบต.เขาเจ็ดลูก เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2552 เพื่อให้ความเห็นชอบหรือคัดค้านในการขยายพื้นที่เหมือง หรือ บ่อกักเก็บแร่ ซึ่งจะต้องลงนามภายใน 15 วัน และจะครบกำหนดวันที่ 10 มกราคมนี้
แต่ตนและชาวบ้านต้องการให้ยุติการขยายพื้นที่เหมือง-บ่อเก็บกักแร่ เพราะเหมืองทองอัคราฯไม่ได้ระบุพื้นที่ส่วนขยายไปในทิศทางไหนชัดเจน ชาวบ้านจึงไม่มั่นใจในความปลอดภัยของบ่อเก็บกักแร่ เกรงว่าจะติดกับพื้นที่ทำกินของชาวบ้าน (หมู่ 3 ต.เขาเจ็ดลูก) เห็นควรให้ยับยั้งการขยายบ่อเก็บกากแร่ ทางกลุ่มชาวบ้านรอบเหมืองจึงเดินทางไปหาผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรและอุตสาหกรรมพิจิตร
“ในฐานะอบต. ขอบอกให้บริษัทอัคราฯให้ชี้แจงอย่างละเอียดว่า บ่อกักเก็บแร่จะขยายไปตรงไหน เพราะชาวบ้านเดือนร้อน” อบต.เขาเจ็ดลูก เผย
น.ส.สื่อกัญญา ธีระชาติดำรง แกนนำชาวเขาหม้อเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนได้เข้าไปหาผู้ว่าฯพิจิตรชั้น 4 เพื่อคัดค้านคำขอขยายเหมืองของอัคราไมนิ่ง เพราะที่ผ่านมา ตนก็ร้องเรียนปัญหาสิ่งแวดล้อมของเหมืองทองอัคราฯ มาตลอด แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ครั้งนี้หากผู้ว่าฯอนุมัติ ผลกระทบที่ตามมา ก็จะมากขึ้นอีก ดังนั้นวันนี้ กลุ่มชาวบ้านเขาหม้อจึงขอความมั่นใจกับพ่อเมือง คือ ขอให้ผู้ว่าฯเซ็นรับหนังสือของชาวบ้าน แต่ผลสุดท้าย ผู้ว่าฯพิจิตรไม่ยอมเซ็น
พวกเราต้องการให้ผู้ว่าฯเซ็นรับรองในหนังสือวันนี้ ก็เพราะหนังสือเรียกร้องครั้งก่อนๆ ก็เคยยื่นให้ผู้ว่าฯ และก็โยนให้ลงเลขรับของจังหวัด สุดท้ายแล้ว ประทานบัตรเหมืองก็ออกมาจนได้ มาครั้งนี้ก็ขอให้ผู้ว่าฯช่วยเรา แต่เขาไม่ช่วยเรา เขาอ้างว่า มีผู้ใหญ่บ้านและ อบต.จำนวน 500 คนรออยู่ จะต้องออกเดินทางไปพบ ตนจึงได้สนทนาด้วยแค่ 20 นาที
จากนั้นเจ้าหน้าที่ (ชุดสีชมพู) ก็มาดึงหนังสือออกไป ถือว่า มาหาผู้ว่าฯครั้งนี้ ไม่ประสบความสำเร็จ ตนและชาวบ้านจึงไปหาอุตสาหกรรมจังหวัดพิจิตร เพื่อยับยั้งการขออนุญาต ขยายเหมือง”
จากนั้นพวกตนจะไปแจ้งความ สภ.ทับค้อ (จังหวัดพิจิตร) เนื่องจาก อัคราฯปิดทางสาธารณะประโยชน์ สายตะพานหิน-ทับคล้อ โดยปิดถนน(ชาวบ้าน)ในเขตจังหวัดพิจิตรจำนวน 5 เส้นทาง ซึ่งแม้จังหวัดพิจิตรได้ออกคำสั่งยกเลิกคำขอปิดถนนดังกล่าว แต่อำเภอไม่ยังดำเนินการ จึงต้องเข้าแจ้งความต่อ สภ.ทับคล้อ บ่ายวันนี้ (6 ม.ค.) ที่ปิดถนนทางสาธารณะของชาวบ้าน