พิจิตร-รถจำนวนมากเดินทางกลับเข้ากรุง พิจิตรคุมเข้มตั้งจุดชะลอความเร็วเพื่อป้องกันอุบัติเหตุบนถนนสายหลัก ย้ำเจ้าหน้าที่เจอขี้เมาแล้วขับจับไม่ไว้หน้า
รายงานข่าวจากจังหวัดพิจิตรแจ้งว่าขณะนี้นายสุวิทย์ วัชโรทยางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรได้ตรวจสอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และ อาสาสมัครหน่วยกู้ภัย ที่บริเวณทางหลวง 117 พิษณุโลก – นคสวรรค์ (สายเอเชีย) พบการเดินทางขาล่องการจราจรคับคั่งเนื่องจากมีประชาชนจากภาคเหนือเดินทางกลับเข้าสู่กรุงเทพมหานครกันอย่างเนืองแน่นแล้ว หลังหยุดในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพราะแม้ว่าจะเหลือวันหยุดอีกหนึ่งวันในวันอาทิตย์ แต่ประชาชนจำนวนมากเลือกที่จะเดินทางกลับก่อนเพื่อหลีกเลี่ยงความแออัดในวันอาทิตย์ และเป็นการเตรียมความพร้อมที่จะทำงานในวันจันทร์
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวหลังจากดินทางเพื่อเยี่ยมและให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติงานตามจุดบริการประชาชน ว่า รถจำนวนมากจากภาคเหนือตอนเดินทางเข้าสู่ภาคกลาง และกรุงเทพ จังหวัดพิจิตรใช้วิธีลดจุดตัดโดยการปิดสี่แยก และตั้งจุดตรวจเพื่อชะลอความเร็ว ให้อยู่ระหว่า 80- 110 กิโลเมตร จากปรกติที่ใช้ความเร็ว 140-160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เนื่องจากเส้นทางในจังหวัดพิจิตรเป็นเส้นทางตรงและเรียบ มีความยาวกว่า 100 กิโลเมตร ทำให้ผู้ขับขี่มักใช้ความเร็วสูง ซึ่งทำให้เกิดอุบัติเหตุและบางรายอาจหลับใน ซึ่งก็อาจทำให้เกิดอุบัติเช่นกัน อีกทั้งได้สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ว่า ถ้าพบเมาแล้วขับขอให้จับดำเนินคดีอย่างจริงจัง ไม่ต้องไว้หน้าห้ามละเว้น อย่างเด็ดขาด
สำหรับยอดสรุปอุบัติเหตุสี่วันของจังวัดพิจิตร ( 28 ธ.ค.52 – 1 ม.ค. 53)เกิดอุบัติเหตุ 46 ครั้ง บาดเจ็บ 47 ราย เสียชีวิต 4 ราย โดยยอดตายมีจำนวนที่น้อยลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2552 ที่มียอดผู้เสียชีวิต 10 ราย สาเหตุมาจากเมาแล้วขับร้อยละ 43 รถที่เกิดเหตุมากที่สุดยังคงเป็นรถจักรยานยนต์ร้อยละ 81
รายงานข่าวจากจังหวัดพิจิตรแจ้งว่าขณะนี้นายสุวิทย์ วัชโรทยางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตรได้ตรวจสอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และ อาสาสมัครหน่วยกู้ภัย ที่บริเวณทางหลวง 117 พิษณุโลก – นคสวรรค์ (สายเอเชีย) พบการเดินทางขาล่องการจราจรคับคั่งเนื่องจากมีประชาชนจากภาคเหนือเดินทางกลับเข้าสู่กรุงเทพมหานครกันอย่างเนืองแน่นแล้ว หลังหยุดในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพราะแม้ว่าจะเหลือวันหยุดอีกหนึ่งวันในวันอาทิตย์ แต่ประชาชนจำนวนมากเลือกที่จะเดินทางกลับก่อนเพื่อหลีกเลี่ยงความแออัดในวันอาทิตย์ และเป็นการเตรียมความพร้อมที่จะทำงานในวันจันทร์
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวหลังจากดินทางเพื่อเยี่ยมและให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติงานตามจุดบริการประชาชน ว่า รถจำนวนมากจากภาคเหนือตอนเดินทางเข้าสู่ภาคกลาง และกรุงเทพ จังหวัดพิจิตรใช้วิธีลดจุดตัดโดยการปิดสี่แยก และตั้งจุดตรวจเพื่อชะลอความเร็ว ให้อยู่ระหว่า 80- 110 กิโลเมตร จากปรกติที่ใช้ความเร็ว 140-160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เนื่องจากเส้นทางในจังหวัดพิจิตรเป็นเส้นทางตรงและเรียบ มีความยาวกว่า 100 กิโลเมตร ทำให้ผู้ขับขี่มักใช้ความเร็วสูง ซึ่งทำให้เกิดอุบัติเหตุและบางรายอาจหลับใน ซึ่งก็อาจทำให้เกิดอุบัติเช่นกัน อีกทั้งได้สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ว่า ถ้าพบเมาแล้วขับขอให้จับดำเนินคดีอย่างจริงจัง ไม่ต้องไว้หน้าห้ามละเว้น อย่างเด็ดขาด
สำหรับยอดสรุปอุบัติเหตุสี่วันของจังวัดพิจิตร ( 28 ธ.ค.52 – 1 ม.ค. 53)เกิดอุบัติเหตุ 46 ครั้ง บาดเจ็บ 47 ราย เสียชีวิต 4 ราย โดยยอดตายมีจำนวนที่น้อยลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2552 ที่มียอดผู้เสียชีวิต 10 ราย สาเหตุมาจากเมาแล้วขับร้อยละ 43 รถที่เกิดเหตุมากที่สุดยังคงเป็นรถจักรยานยนต์ร้อยละ 81