ปภ.หารือเข้ม-เร่งหาทางหนีตำแหน่งแชมป์ตายสูงสุดส่งท้ายปีเก่ารับปีใหม่

เชียงราย – สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยเมืองพ่อขุนฯ ระดมเครือข่ายทั้งรัฐ-เอกชน หารือเข้ม หนีตำแหน่งแชมป์ตายสูงสุดช่วง 7 วันอันตรายส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่

รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่าวันนี้ (14 ธ.ค.) ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เชียงราย พล.ต.ต.รักชาติ ราชกิจ ประธานเครือข่ายลดอุบัติเหตุภาคประชาสังคม จ.เชียงราย เป็นประธานในการประชุมสมาชิกเครือข่าย เพื่อเตรียมการสำหรับรณรงค์ป้องกันอุบัติเหตุในช่วง 7 วันอันตรายของเทศกาลส่งท้ายปีเก่าและต้อนรับปีใหม่ ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค.2552-4 ม.ค.2553 โดยมีสมาชิกเครือข่ายเป็นหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมครบครัน

พล.ต.ต.รักชาติ ระบุว่า จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุของเชียงราย พบว่ามีสถิติการเสียชีวิตสูงที่สุดในประเทศไทยคือ 21 ราย และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 118 ราย โดยเป็นผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงจากการเมาแล้วขับกว่า 63.45% และเกิดจากรถจักรยานยนต์มากถึง 78.62% สำหรับช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดคือตั้งแต่ 12.00-20.00 น.

พล.ต.ต.รักชาติ กล่าวว่า เครือข่ายต้องการให้อุบัติเหตุลดลงเพื่อดึงเชียงราย ให้หลุดพ้นจากการมีสถิติเกิดอุบัติเหตุจนทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บมากที่สุดในประเทศหรืออยู่ในอันดับต้นๆ มาโดยตลอดลงให้ได้ โดยวิธีการดำเนินการมีหลากหลายแนวทางล่าสุดตั้งเป็นสมัชชาสุขภาพเชียงราย เพื่อร่วมกันรณรงค์ในเชิงสาธารณะจากนั้นได้ร่วมกับสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ทำการร่างเป็นร่างมติเพื่อจะนำเสนอให้รัฐบาลพิจารณาระหว่างวันที่ 16-18 ธ.ค.นี้ เพื่อให้รัฐบาลได้กำหนดให้ร่างมติเป็นวาระแห่งชาติและจัดทำเป็นแผนแม่บทความปลอดภัยทางถนนระหว่างปี 2552-2555 ซึ่งมีเป้าหมายจะลดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุไม่ให้เกิน 10 ต่อประชากรแสนคนในอีก 10 ปีข้างหน้าหรือปี 2562

ซึ่งหากรัฐบาลได้พิจารณาเห็นชอบให้เป็นวาระแห่งชาติก็จะมีการดำเนินการตามข้อเสนอต่างๆ เพื่อรองรับ เช่น ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับอุบัติเหตุอย่างเต็มที่ จัดทำหลักสูตรที่เกี่ยวข้องไปยังกระทรวงศึกษาธิการ ตั้งศูนย์อำนวยความปลอดภัยทางถนนโดยให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าไปมีส่วนร่วม ฯลฯ อย่างไรก็ตามในระยะเวลาอันกระชั้นชิดของช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2552-2553 ช่วง 7 วันอันตรายดังกล่าว จึงต้องดำเนินการเพื่อป้องกันปัญหาเฉพาะหน้าก่อน

โดยสิ่งที่สามารถดำเนินการได้เลยคือการรณรงค์ด้วยวิธีการต่างๆ ทั้งการเตือนผ่านสื่อมวลชน ติดสติ๊กเกอร์ ป้าย ฯลฯ ทั้งนี้ในส่วนของสมัชชาสุขภาพ จ.เชียงราย นั้นได้รับงบประมาณจากทางภาครัฐแล้วจำนวน 100,000 บาท ส่วนของเครือข่ายในภาพรวมได้ขอไปแล้วจำนวน 300,000 บาท ซึ่งได้รับแจ้งว่าจะต้องใช้ตลอดปีงบประมาณ 2553 ซึ่งก็ถือว่าเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งของการปฏิบัติงานเช่นกัน แต่พวกเราก็จะดำเนินการอย่างสุดฝีมือเพื่อให้อุบัติเหตุช่วงเทศกาลนี้ลดลงจนหลุดจากการเป็นแชมป์เสียที

ด้านนายเชษฐา โมสิกรัตน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เชียงราย กล่าวว่าหลังจากภาครัฐได้ทำการรณรงค์ลดอุบัติเหตุในช่วงหลายปีที่ผ่านมากลับพบว่ายิ่งรณรงค์สถิติการเสียชีวิตกลับเพิ่มมากขึ้นทุกปี ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าเราดำเนินการไม่ถูกแนวทางควบคู่กับเรื่องงบประมาณที่มีจำกัด ดังนั้นในปีนี้ได้มีภาคประชาชนคือเครือข่ายลดอุบัติเหตุภาคประชาสังคมและสมัชชาสุขภาพเข้ามามีส่วนร่วม

จึงเชื่อว่าจะสามารถลดอุบัติเหตุลงได้เนื่องจากตนเห็นว่าไม่มีการดำเนินใดจะดีเท่ากับการมีส่วนร่วมของประชาชนอีกแล้ว เพราะการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ตามจุดต่างๆ นั้นอาจะไม่เพียงพอและไม่สามารถควบคุมประชาชนที่จะก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้อย่างทั่วถึง