วุ่นหนัก เอ็นจีโอ 10 ประเทศแถลงประท้วงผู้นำประเทศอาเซียน หลังเชิญถกนอกรอบ กลับจำกัดผู้แทนจาก 5 ประเทศ ส่วนประเทศที่ได้เข้าร่วมหารือกับห้ามตั้งคำถาม “แม่ชีเครสเซนเชีย” ย้ำผิดหวังบทบาทผู้นำ ปิดกั้นการแสดงความเห็นเพื่อแก้ปัญหาร่วมกัน
วันนี้ (23 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 11.50-12.20 น.มีการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างผู้นำอาเซียน กับผู้แทนภาคประชาสังคมจาก 10 ประเทศ ที่โรงแรมดุสิตธานี ปรากฏว่าผู้แทนภาคประชาสังคม 5 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา พม่า ลาว สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าร่วมงานดังกล่าว ขณะที่ผู้แทนภาคประชาสังคม 5 ประเทศที่เหลือ คือ ไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย และบรูไน ได้รับอนุญาตให้เข้าพบ แต่ถูกกำชับให้ฟังโดยไม่ให้ตั้งคำถาม จึงทำให้ตัวแทนภาคประชาสังคมเกิดความไม่พอใจ จึงพากันวอล์กเอาต์ออกจากที่ประชุม เหลือเพียงตัวแทนจากบรูไนและเวียดนามเท่านั้นที่ร่วมประชุมต่อ ส่วนชาติอื่นๆ ได้รวมตัวหารือกันเป็นการด่วน และได้ประกาศไม่เข้าร่วมการหารือกับผู้นำกลุ่มประเทศอาเซียนในครั้งนี้ เนื่องจากรับไม่ได้และรู้สึกไม่พอใจ ที่ผู้แทนภาคประชาสังคมถูกจำกัดสิทธิไม่ได้รับอนุญาตให้พบกับผู้นำอาเซียนหรือมาร่วมได้ แต่ไม่ให้แสดงความคิดใดๆ
จากนั้น เมื่อเวลา 13.30 น.ที่หน้าศูนย์สื่อมวลชน โรงแรมเชอราตัน หัวหิน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ผู้แทนภาคประชาสังคมจาก 10 ประเทศ ได้ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยแม่ชีเครสเซนเชีย แอล ลูเซโร ผู้แทนภาคประชาสังคมจากประเทศฟิลิปปินส์ กล่าวว่า เราได้รับแจ้งจากกระทรวงการต่างประเทศของไทยเมื่อเวลา 07.00 น.ของวันนี้ (23 ต.ค.)ว่าผู้แทนจาก 5 ประเทศ ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าร่วมการพบกับผู้นำประเทศในอาเซียน ขณะที่ในส่วนของผู้ที่สามารถเข้าร่วมได้ก็ถูกสั่งให้ห้ามพูดใดๆ ยกเว้นนายสุวิชัย หวันแก้ว อาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ทำหน้าที่ผู้ดำเนินรายการในการหารือครั้งนี้เท่านั้น การปฏิเสธผู้แทนของเราที่ถูกเลือกมาอย่างเป็นประชาธิปไตยนั้นถือเป็นการปฏิเสธภาคประชาสังคมและกระบวนการทางประชาธิปไตย ขณะเดียวกัน พฤติกรรมของรัฐบาลกัมพูชา ลาว พม่า สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ ที่ได้ปฏิเสธเช่นนี้ได้ทำลายความน่าเชื่อถือของคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งจะตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในวันนี้
ผู้แทนจากฟิลิปปินส์กล่าวอีกว่า เรารู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งต่อความไม่รับผิดชอบและการกระทำที่ไร้เหตุผลของจุดยืนดังกล่าวของรัฐบาลประเทศเหล่านี้ ในช่วงที่เกิดวิกฤตขณะนี้เราได้สร้างโอกาสที่จะนำเสนอแนวทางของภาคประชาสังคมในการแก้ไขปัญหา แต่กลยุทธ์ของรัฐบาลประเทศเหล่านี้ได้ปิดกั้นการถกเถียงถึงแนวทางการแก้ ปัญหาเร่งด่วนของอาเซียนทั้งในส่วนของรัฐบาลและประชาชน