กาฬสินธุ์- นอกเหนือจากชาวนากาฬสินธุ์จะต้องเจอกับปัญหาโจรขโมยข้าวเปลือก ที่อาละวาดอย่างหนักในพื้นที่แล้ว ยังต้องเจอกับปัญหาการลักลอบเผาฟ่อนข้าว ที่เตรียมสีทำการสีเสียหายไปจำนวนมาก
เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น.วันนี้ (29 พ.ย.) เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.กาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งว่า มีเหตุไฟไหม้ฟ่อนข้าวที่บริเวณทุ่งนาใน ต.ลำพาน อ.เมืองกาฬสินธุ์ จึงได้ประสานกับหน่วยกู้ชีพเต็กก่า รุดไปที่เกิดเหตุทันที และเมื่อไปถึงทุ่งนาที่อยู่บ้านทุ่งสว่าง ต.ลำพาน อ.เมือง กาฬสินธุ์ ได้เห็นเปลวเพลิงที่โหมไหม้ฟ่อนข้าวอย่างหนัก จึงได้เข้าระงับเพลิงที่ต้องใช้เวลานานเกือบ 1 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบลง ท่ามกลางการระดมเร่งฉีดน้ำและขนข้าวออกจากรัศมีของเปลวไฟ
โดยกองข้าวทั้งหมดเป็นของ นางเลิศล้ำ อิงกอง อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 106 หมู่ 16 บ้านทุ่งสว่าง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งข้าวทั้งหมดได้นำมากองรวมกันไว้เพื่อที่จะเตรียมสีปริมาณเกือบ 5 ตัน ซึ่งเจ้าของข้าวได้แต่นั่งร้องไห้เนื่องจากเสียดายข้าวที่ถูกไฟไหม้เกือบทั้งหมด
เจ้าของข้าว ระบุว่า ก่อนที่เพลิงจะลุกไหม้ข้าวจนเสียหายได้เห็นเงาคล้ายคนมาวนเวียนแถวๆ กองข้าวจากนั้นไม่นาน ก็ได้กลิ่นเห็นไหม้ และเมื่อมองไปที่กองข้าวได้เห็นไฟกำลังลุกไหม้ และเมื่อพยายามดับไฟก็ไม่เป็นผล จึงต้องแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยดังกล่าว ส่วนสาเหตุยังไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรและไม่รู้ว่าเป็นคนกลุ่มไหนที่ประสงค์ร้าย
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งไว้ 2 ประเด็นในการก่อเหตุลอบวางเพลิงข้าวครั้งนี้ คือ ความขัดแย้งของเจ้าของข้าว และการเมืองท้องถิ่น เพราะพื้นที่ ต.ลำพาน ได้ยกระดับเป็นเทศบาลและอยู่ระหว่างการหาเสียงและแข่งขันกันระหว่างผู้สมัครหลายฝ่ายที่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของการทำลายขวัญกำลังใจของฝั่งคู่แข่ง
นายวิทยา มากปาน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาฬสินธุ์ ก็ออกมาเตือนชาวนาที่กำลังเก็บเกี่ยวข้าวในช่วงนี้โปรดระมัดระวังไฟไหม้นาข้าว เพราะในช่วงนี้มีลมแรงจึงเป็นสาเหตุของไฟไหม้ได้ง่าย และอยากฝากถึงชาวนาที่เก็บเกี่ยวข้าวเรียบร้อยแล้ว อย่ารีบเผาตอซังข้าวหรือเผาขยะ เพราะเปลวไฟอาจจะไปตกใส่ ซึ่งจะทำให้เกิดไฟไหม้นาข้าวเสียหายได้
เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น.วันนี้ (29 พ.ย.) เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.กาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งว่า มีเหตุไฟไหม้ฟ่อนข้าวที่บริเวณทุ่งนาใน ต.ลำพาน อ.เมืองกาฬสินธุ์ จึงได้ประสานกับหน่วยกู้ชีพเต็กก่า รุดไปที่เกิดเหตุทันที และเมื่อไปถึงทุ่งนาที่อยู่บ้านทุ่งสว่าง ต.ลำพาน อ.เมือง กาฬสินธุ์ ได้เห็นเปลวเพลิงที่โหมไหม้ฟ่อนข้าวอย่างหนัก จึงได้เข้าระงับเพลิงที่ต้องใช้เวลานานเกือบ 1 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบลง ท่ามกลางการระดมเร่งฉีดน้ำและขนข้าวออกจากรัศมีของเปลวไฟ
โดยกองข้าวทั้งหมดเป็นของ นางเลิศล้ำ อิงกอง อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 106 หมู่ 16 บ้านทุ่งสว่าง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งข้าวทั้งหมดได้นำมากองรวมกันไว้เพื่อที่จะเตรียมสีปริมาณเกือบ 5 ตัน ซึ่งเจ้าของข้าวได้แต่นั่งร้องไห้เนื่องจากเสียดายข้าวที่ถูกไฟไหม้เกือบทั้งหมด
เจ้าของข้าว ระบุว่า ก่อนที่เพลิงจะลุกไหม้ข้าวจนเสียหายได้เห็นเงาคล้ายคนมาวนเวียนแถวๆ กองข้าวจากนั้นไม่นาน ก็ได้กลิ่นเห็นไหม้ และเมื่อมองไปที่กองข้าวได้เห็นไฟกำลังลุกไหม้ และเมื่อพยายามดับไฟก็ไม่เป็นผล จึงต้องแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยดังกล่าว ส่วนสาเหตุยังไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรและไม่รู้ว่าเป็นคนกลุ่มไหนที่ประสงค์ร้าย
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งไว้ 2 ประเด็นในการก่อเหตุลอบวางเพลิงข้าวครั้งนี้ คือ ความขัดแย้งของเจ้าของข้าว และการเมืองท้องถิ่น เพราะพื้นที่ ต.ลำพาน ได้ยกระดับเป็นเทศบาลและอยู่ระหว่างการหาเสียงและแข่งขันกันระหว่างผู้สมัครหลายฝ่ายที่อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของการทำลายขวัญกำลังใจของฝั่งคู่แข่ง
นายวิทยา มากปาน ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาฬสินธุ์ ก็ออกมาเตือนชาวนาที่กำลังเก็บเกี่ยวข้าวในช่วงนี้โปรดระมัดระวังไฟไหม้นาข้าว เพราะในช่วงนี้มีลมแรงจึงเป็นสาเหตุของไฟไหม้ได้ง่าย และอยากฝากถึงชาวนาที่เก็บเกี่ยวข้าวเรียบร้อยแล้ว อย่ารีบเผาตอซังข้าวหรือเผาขยะ เพราะเปลวไฟอาจจะไปตกใส่ ซึ่งจะทำให้เกิดไฟไหม้นาข้าวเสียหายได้
