กาฬสินธุ์ - จังหวัดกาฬสินธุ์กำชับให้ทุกอำเภอระดมกำลังเข้าป้องกันปัญหาโจรขโมยข้าวเปลือก หลังจากที่พบว่าในหลายพื้นที่ ฟ่อนข้าวเปลือกเจ้าของชาวนาลักขโมยไป โดยยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะจัดกำลังดูแล เพราะผลผลิตมีจำนวนมาก และคงต้องให้ชาวนาเฝ้าพื้นที่นาของตัวเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ในเขตพื้นที่อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ได้เร่งทำการประชาสัมพันธ์ ต่อเกษตรกรในหลายท้องที่ที่กำลังทำการเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกนาปีในฤดูกาลผลิตปี 2552/53 เพื่อป้องกันปัญหาโจรขโมยข้าวเปลือกที่กำลังออกอาละวาดในเขตอำเภอเมือง ซึ่งล่าสุดเกิดขึ้นในเขตตำบลไผ่ ที่โจรขโมยข้าวเปลือกได้ทำการขโมยฟอนข้าวเปลือกหายไปกว่า 400 กิโลกรัม หลังจากที่ชาวนาได้มัดไว้เพื่อเตรียมจะสีในวันรุ่งขึ้น
พร้อมกันนี้ยังได้นำกำลัง อส.เข้าทำการประชาสัมพันธ์ เกี่ยวข้าว เพื่อปลอบขวัญให้กำลังใจกับชาวนาในเขตตำบลไผ่ ที่ถูกลักขโมยฟ่อนข้าวเปลือก
นายนิคม ปัญจวัฒน์ นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่จะป้องกันปัญหาโจรขโมยข้าวเปลือก เนื่องจากการเก็บเกี่ยวจะเกิดขึ้นพร้อมๆ กันทั้งจังหวัด แต่กำลังฝ่ายปกครองมีน้อย อีกทั้งผลจากที่รัฐบาลประกันราคาถึงตันละ 15,300 บาท จึงเป็นสิ่งล่อใจของเหล่าโจรขโมย จึงได้เพียงแต่รณรงค์ให้เกษตรกรไปนอนเฝ้าที่นาของตนเอง
สำหรับในภาครวมนั้น แนวทางการป้องกันทุกอำเภอได้รับวิทยุสั่งการจากผู้ว่าราชการจังหวัด ฝ่ายปกครองจะทำหน้าที่รณรงค์ร่วมกับ อปพร. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เฝ้าติดตามพฤติกรรมกลุ่มบุคคลแปลกหน้า กับการตรวจสอบปริมาณการค้าข้าวเปลือกกับทางโรงสี เพื่อแจ้งเบาะแสคนร้ายและคาดว่าปีนี้ข้าวเปลือกทั้งข้าวเจ้าและข้าวเหนียวในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์จะมีมากกว่า 4 แสนตัน
ด้าน นายบุญชื่น คำยุธา ชาวนาที่ถูกขโมยข้าวเปลือกกล่าวว่า ถึงแม้ว่าจะถูกขโมยข้าวเปลือกไปแล้วก็ยังรู้สึกดีใจมีกำลังใจที่ทางราชการมองเห็นปัญหาซึ่งสาเหตุของการขโมยเชื่อว่าจะเกิดจากปัญหาราคาข้าวเปลือกที่สูง อีกทั้งก็เกิดจากความชะร่าใจเพราะไม่คิดว่าจะมีการขโมยข้าวเปลือก เพราะที่ผ่านมาทำนามาตั้งแต่บรรพบุรุษ ข้าวเปลือก ข้าวสาร ก็จะมีการแบ่งปันกัน ไม่เคยมีการขโมยแม้แต่น้อย
แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็จะถือเอาเป็นบทเรียน เพราะนาข้าวก็จะต้องดูแลกันเองและรู้สึกเห็นใจ แต่ก็จะขอร้องให้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ทุกครั้งในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวก็จะต้องร่วมกันรณรงค์ป้องกัน สำหรับในส่วนตัวก็จะไปนอนเฝ้าที่นากันเองเป็นดีที่สุด