อุบลราชธานี - เกษตรกรชาวนาเมืองอุบลราชธานี เร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตในนาข้าว หลังเมล็ดข้าวโตได้ที่และมีลมกระโชกแรงจากลมหนาวประเทศจีนพัดมาปกคลุมประเทศไทย พร้อมฟื้นฟูประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าวแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานเกษตรกรรม ด้านการประกันราคาข้าวเกษตรกรให้ความสนใจน้อย เนื่องจากโรงสีให้ราคารับซื้อมากกว่าราคาประกันตันละเกือบ 1,000 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวนาอำเภอเมืองอุบลราชธานีกำลังเร่งเก็บเกี่ยวข้าวในท้องนา เพราะเม็ดข้าวเริ่มโตเต็มที่และสภาพอากาศมีการเปลี่ยนแปลง โดยมีลมกระโชกแรงจากอิทธิพลความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ลงปกคลุมประเทศไทย จะทำให้ต้นข้าวเสียหายหากไม่รีบเก็บเกี่ยวได้ทันเวลา
นายทองปน สุวรรณกูฏ ชาวนาบ้านยางลุ่มระบุว่า การเก็บเกี่ยวผลผลิตในนาข้าวของตน ยังใช้วิธีการแบบเดิมคือ ใช้แรงคนเก็บเกี่ยวข้าวในนา แล้วนำต้นข้าวมาฟาด เพื่อเก็บเม็ดพันธุ์ข้าวแทนการใช้รถเกี่ยวข้าว เพราะเม็ดข้าวจะสมบูรณ์ไม่แตกหักเสียหาย และหลังการเก็บเกี่ยวข้าวในพื้นที่กว่า 7 ไร่ ก็ยังไม่นำข้าวออกขายทันที โดยจะเก็บข้าวไว้ให้แห้งสนิท พร้อมรอเวลาเมื่อราคาข้าวเปลือกปรับตัวสูงขึ้น จึงนำข้าวเปลือกที่เหลือกินออกขายให้กับโรงสีข้าว
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ขณะเดียวกัน เกษตรกรชาวนายังประสบปัญหาค่าจ้างแรงงานเกี่ยวข้าวในพื้นที่ได้ผลผลิตมาก มีค่าจ้างสูงถึงวันละ 250-300 บาทต่อคนต่อวัน นายชูศักดิ์ สุทธิรารักษ์ สมาชิกสภา อบจ.อุบลราชธานี เขต 1 อ.เขมราฐ ที่ปรึกษาโซนเหนือ อบจ.อุบลราชธานี จึงนำข้าราชการพนักงาน อบต. ครู-อาจารย์ และชาวบ้านโคกน้อย ต.โคกจาน อ.ตระการพืชผล ประมาณ 60 คน ร่วมลงแขกเกี่ยวข้าว
เพื่อกระตุ้นให้เกษตรกรหันมาฟื้นฟูประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าวให้กลับมาเป็นที่นิยม เพราะการลงแขกเกี่ยวข้าวช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานภาคเกษตรกรรม รวมทั้งลดพฤติกรรมการใช้เครื่องมือกลที่สร้างภาระค่าใช้จ่ายให้ชาวนา และการลงแขกเกี่ยวข้าวยังสร้างความสามัคคีในหมู่คณะด้วย
ด้านการประกันราคาข้าวปีนี้ มีเกษตรกรยื่นเรื่องนำข้าวทำประกันจำนวน 39,663 ราย แต่นำข้าวเข้าโครงการแล้ว 13,890 ราย สาเหตุที่เกษตรกรนำข้าวเข้าโครงการน้อยกว่าปกติ เนื่องจากปัจจุบันโรงสีให้ราคารับซื้อข้าวเปลือกสูงกว่าราคาประกันเกือบตันละ 1,000 บาท